ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวว่า
ความว่า "บุคคลใดที่ถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอน (ครบถ้วน) จากนั้นเขาติดตามด้วยการถือศีลอด (สุนนะฮฺ) 6 วันในเดือนเชาวาล เช่นนั้นประหนึ่ง (เขา) ถือศีลอดครบหนึ่งปี" (บันทึกโดยมุสลิม หะดีษที่ 1984 และท่านอื่นๆ)
หะดีษข้างต้นท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม หมายถึง บุคคลใดที่ยังถือศีลอดไม่ครบในเดือนเราะมะฎอนเขาไม่สามารถถือศีลอดสุนนะฮฺหกวันในเดือนเชาวาลได้
เพราะท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวต่อในประโยคสุดท้ายว่า (การกระทำ) เช่นนั้นประหนึ่ง (เขา) ถือศีลอดครบหนึ่งปี ทำไมต้องประหนึ่งถือศีลอดครบหนึ่งปี
เพราะท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม เคยพูดว่า
"ท่านจงถือศีลอด 3 วันในหนึ่งเดือน แท้จริงหนึ่งความดีเท่ากับสิบผลเช่นนั้นเท่ากับว่า (เขา) ถือศีลอดครบหนึ่งปี" (บันทึกโดยบุคอรีย์ หะดีษที่ 1706)
ฉะนั้นจึงได้ความว่า การถือศีลอด 1 วันเท่ากับถือศีลอด 10 วัน
เมื่อเป็นเช่นนั้น หากการถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอนมี 30 วันก็เท่ากับว่า เขาถือศีลอด 300 วัน (หรือประมาณ 10 เดือน) จากนั้นเขาถือศีลอดติดต่ออีก 6 วันในเดือนเชาวาล ก็เท่ากับว่าเขาถือศีลอด 60 วัน (หรือประมาณ 2 เดือน) ผลสรุปเท่ากับ 1 ปีพอดี (กล่าวคือ 300+60= 360 วัน = 1 ปี)
อนึ่ง บุคคลใดที่ถือศีลอดฟัรฺฎูในเดือนเราะมะฎอนไม่ครบ จำเป็นสำหรับเขาต้องชดใช้ให้ครบเสียก่อน
จากนั้นค่อยถือศีลอดสุนนะฮฺหกวันในเดือนเชาวาล
เพราะท่านรสูลใช้คำพูดที่ว่า "ติดตามด้วย" ซึ่งหมายถึง หากศีลอดฟัรฺฎูยังถือไม่ครบก็ไม่อนุญาตให้ถือศีลอดสุนนะฮฺนั่นเอง
ประเด็นที่ว่าเหนียตถือศีลอดกอฏอ (ชดใช้ของวันที่มีรอบเดือน) พร้อมกับถือศีลอดหกวัน (ในเดือนเชาวาล) จึงไม่อนุญาตให้กระทำ
เพราะถ้ากระทำเช่นนั้นก็เท่ากับว่าเราถือศีลอดไม่ครบหนึ่งปีนั่นเอง
อย่าว่าแต่เนียตถือศีลอดฟัรฺฎูรวมกับศีลอดสุนนะฮฺเลย ศาสนายังระบุให้ผู้ที่ถือศีลอดฟัรฺฎูยังไม่ครบนั้น ต้องชดใช้ศีลอดที่เป็นฟัรฺฎุก่อนเป็นอันดับแรก
จากนั้นจึงอนุญาตให้ถือศีลอดสุนนะฮฺ 6 วัน แต่ถ้าหากเรายังถือศีลอดฟัรฺฎูไม่ครบก็ยังไม่อนุญาตให้ถือศีลอดสุนนะฮฺ 6 วันในเดือนเชาวาล
والله أعلم بالصواب
*************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น