อาบูบักร อัชชิบลีย์ ทำงานหาริสกีอย่างขยันขันแข็ง
เพื่อมุ่งมั่นจะทำอิบาดัตฮัจญ์ แต่ว่าภรรยาของท่านไม่เห็นด้วย แล้วบอกกับท่านว่าอย่าทิ้งนางกับลูกไป
ท่านจึงพูดกับภรรยาว่า : โอ้ภรรยาของฉัน ฉันจะให้เงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นที่เพียงพอสำหรับเธอกับลูก เพื่อให้ได้ใช้เป็นเวลาหนึ่งเดือน ช่วงเวลาที่ฉันกำลังทำฮัจญ์อยู่
นางก็พูดว่า : ถ้าหากว่าคุณป่วยในการเดินทางล่ะ ?
ท่านก็ตอบว่า : อย่ากังวลไปเลย พระองค์ผู้ทรงเกียรติคุณ สิ่งที่ฉันจะทำลงไป ก็มีเหตุผลนะ และทรัพย์สินที่ฉันจะให้คุณกับลูก คงเป็นที่เพียงพอแล้ว อินชาอัลลอฮฺ
สิ่งที่ท่านอยากจะทำฮัจญ์มาก เป็นเพราะแรงบันดาลใจจากลูกสาวของท่าน ท่านก็เริ่มเดินทาง วันเวลาก็ผ่านพ้นไป วันแล้ววันเล่า สัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า และแล้วก็ล่วงไปกว่าหนึ่งเดือน ซึ่งเกินคำสัญญาที่ท่านได้มอบให้กับครอบครัวแล้ว
ทรัพย์สินเงินทองที่อยู่กับภรรยาของท่านก็หมดสิ้น ไม่เหลืออะไรแล้ว นอกจากบ่อน้ำ ที่จะตักใช้เพื่อประทังชีวิต เมื่อความทุกข์ยากมาประสบกับสองแม่ลูก
แม่จึงพูดกับลูกว่า : เป็นเพราะลูกแท้ๆเลย ที่ทำให้พ่อต้องไปทำฮัจญ์ และต้องทิ้งให้เราอยู่สองคนเพียงลำพัง
ลูกสาวพูดอะไรไม่ออก จึงแหงนมองไปยังท้องฟ้า พร้อมขอดุอาอฺ : โอ้ผู้ทรงโปรดปรานความยิ่งใหญ่ของพระองค์ โปรดพระองค์ทรงอย่าได้ปิดกั้นริสกีของพระองค์เลย
อยู่มาวันหนึ่ง มีผู้นำประเทศคนหนึ่ง ออกมาล่าสัตว์ ท่านได้เดินทางมาไกล จนกระทั่งถึงที่บ้านของอาบูบักร อัชชิบลีย์ ในตอนนั้น ท่านรู้สึกกระหายน้ำมาก ท่านจึงเดินไปเคาะประตูบ้าน เพื่อที่จะขอน้ำดื่ม และแล้ว ลูกสาวของอบูบักรก็เปิดประตู แล้วตักน้ำให้แก่ผู้นำประเทศและคนที่มากับท่านได้ดื่มน้ำ หลังจากที่ท่านดื่มเสร็จแล้ว
ท่านจึงถามพรรคพวกที่มากับท่านว่า : ใครเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ ?
พวกเขาก็ตอบว่า : ที่นี่เป็นบ้านของอาบูบักร อัชชิบลีย์
ท่านก็ถามว่า : เขาอยู่ที่ไหน เพาะว่าเราจะตอบแทนเขา
พวกเขาก็ตอบว่า : ตอนนี้เขาออกเดินทางไปทำฮัจญ์
ท่านก็พูดว่า : มันเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ที่เราต้องตอบแทนครอบครับของเขา โดยเฉพาะเวลาที่เขาไม่อยู่บ้าน
ผู้นำจึงล้วงทรัพย์สินเงินทองที่อยู่กับตัว แล้วมอบให้กับเจ้าของบ้าน แล้วพูดกับเพื่อนๆอีกสิบคนที่มาด้วยกันว่า : ถ้าหากว่าใครรักฉัน ก็จงทำเสมือนฉัน (มอบทรัพย์สินเงินทองให้แก่เจ้าของบ้าน)
เงินทองที่พวกเขาให้มานั้น ตั้งเป็นกอง สูงเหมือนเนินภูเขาเล็ก แล้วพวกเขาก็เดินจากไป
นางจึงพูดกับลูกสาวของนางว่า : เราเป็นคนรวยแล้วนะลูก
จู่ๆลูกสาวก็ร้องไห้ด้วยความใคร่ครวญต่อพระองค์
แม่ก็เลยถามว่า : ทำไมลูกต้องร้องไห้ เราเป็นคนรวยแล้วนะลูก
ลูกสาวก็ตอบว่า : ขนาดมัคลูก (มนุษย์) มองมาที่เรา (มาเทคแคร์และใยดีกับเรา) สามารถทำให้เรารวยได้ในพริบตา นี่ถ้าหากว่าพวกคุณคิดว่า ถ้าคอลิก (ผู้ทรงสร้าง) ทรงเทคแคร์และใยดีกับพวกคุณตลอดเวลาล่ะ พวกคุณจะยังทุกข์ใจอีกไหม ?
✿ ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬ ✿
บทความดีๆโดย : شاركنا كل يوم بدعاء وأيه من كتاب الله وحديث من احاديث الرسول ( ص )
ถอดความและเรียงคำโดย : อูลุล อัลบ๊าบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น