อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

อัลลอฮฺสร้างมนุษย์มาอยู่บนโลกนี้มีจุดมุ่งหมาย



การที่อัลลอฮฺทรงสร้างมนุษย์ตลอดจนทรัพสิ่งทั้งหลาย มนุษย์คิดหรือว่า อัลลอฮฺไม่มีจุดมุ่งหมาย หรือเป้าหมายของมนุษย์ที่มาอยู่บนโลกนี้

สมมุติว่า มีชายคนหนึ่งได้นำชายอีกคนหนึ่งไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง แล้วคนที่พาไปนั้นก็บอกว่า

“อยู่ที่นี้นะ ผมจะกลับแล้ว”

 โดยชายที่ถูกนำมา ณ ที่แห่งนั้น ไม่ทราบเลยว่า เขาถูกนำมาด้วยเหตุผล หรือเป้าหมายใด ชายผู้นั้นก็คงต้องสอบถามและตำหนิผู้ที่นำเขามาอย่างแน่นอนว่า นำเขามาปล่อยไว้ที่แห่งนี้ด้วยเหตุผลใด หากนำมาแล้วไม่มีจุดมุ่งหมายแล้วนำเขามาที่แห่งนี้ทำไม มันเสียเวลา ไม่ก่อเกิดผลอันใด มันไร้สาระสิ้นดี

แล้วมนุษย์ลองคิดใคร่ครวญดูว่า การที่พระองค์อัลลอฮฺได้สร้างมนุษย์มาอยู่บนโลกนี้โดยที่ไม่ได้บอกเอาไว้ว่าให้มนุษย์มาอยู่ทำไม สาเหตุหรือเหตุผลที่ให้มาอยู่บนโลกนี้คืออะไร เพื่อที่มนุษย์ได้รู้ถึงเป้าหมาย หรือจุดมุ่งหมายที่แท้จริงนั้น

แน่นอนอัลลอฮฺไม่ได้สร้างมนุษย์มาอยู่บนโลกนี้ โดยไร้จุดมุ่งหมาย ผู้ที่บังเกิดมนุษย์ขึ้นมานั้นย่อมรู้จุดมุ่งหมายดีที่สุด

และจุดมุ่งหมายที่พระองค์อัลลอฮฺได้สร้างมนุษย์มาอยู่บนโลกนี้นั้น ได้ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ของพระองค์ที่ได้ประทานโดยผ่านศาสนทูตของพระองค์ ในทุกๆประชาชาติ และในประชาชาติสุดท้าย พระองค์ได้ประทานคัมภีร์ โดยผ่านศาสทูตท่านสุดท้าย คือท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม  นั้นคือคัมภีร์กุรอาน

พระองคอัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

أَمْ خُلِقُوا مِنْ غَيْرِ شَيْءٍ أَمْ هُمُ الْخَالِقُونَ ( 35 )
หรือว่าพวกเขาถูกบังเกิดมาโดยไม่มีผู้ให้บังเกิด หรือว่าพวกเขาเป็นผู้ให้บังเกิดตนเอง

أَمْ خَلَقُوا السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ بَل لَّا يُوقِنُونَ ( 36 )
หรือว่าพวกเขาเป็นผู้สร้างชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดินนี้ เปล่าเลย เพราะพวกเขาไม่เชื่อมั่นต่างหาก
(อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัฏ-ฏูร 52 : 35-36)


أَيَحْسَبُ الْإِنسَانُ أَن يُتْرَكَ سُدًى ( 36 )
มนุษย์คิดหรือว่า เขาจะถูกปล่อยไว้โดยไร้จุดหมายกระนั้นหรือ ?

أَلَمْ يَكُ نُطْفَةً مِّن مَّنِيٍّ يُمْنَىٰ ( 37 )
เขามิได้เป็นน้ำกามหยดหนึ่งจากน้ำอสุจิที่ถูกพุ่งออกมากระนั้นหรือ ?

ثُمَّ كَانَ عَلَقَةً فَخَلَقَ فَسَوَّىٰ ( 38 )
แล้วเขาได้เป็นก้อนเลือดก้อนหนึ่งแล้วพระองค์ทรงบังเกิดแล้วก็ทรงทำให้ได้สัดส่วนสมบูรณ์

فَجَعَلَ مِنْهُ الزَّوْجَيْنِ الذَّكَرَ وَالْأُنثَىٰ ( 39 )
แล้วพระองค์ทรงทำให้เขาเป็นคู่ เป็นเพศชายและเพศหญิง

أَلَيْسَ ذَٰلِكَ بِقَادِرٍ عَلَىٰ أَن يُحْيِيَ الْمَوْتَىٰ ( 40 )
ดังนั้น พระองค์จะไม่สามารถที่จะให้คนตายมีชีวิตขึ้นมาอีกกระนั้นหรือ ?
(อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัล-กิยามะฮฺ 75 : 36-40)


يَا أَيُّهَا الْإِنسَانُ مَا غَرَّكَ بِرَبِّكَ الْكَرِيمِ ( 6 )
โอ้มนุษย์เอ๋ย อะไรเล่าที่ล่อลวงเจ้า (ให้หันห่าง) จากพระเจ้าของเจ้าผู้ทรงเกื้อกูล

الَّذِي خَلَقَكَ فَسَوَّاكَ فَعَدَلَكَ ( 7 )
ผู้ทรงบังเกิดเจ้า แล้วทรงทำให้เจ้าสมบูรณ์ แล้วก็ทรงทำให้เจ้าสมส่วน
(อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัล-อินฟิฏอร 82 : 6-7)

والله أعلم بالصواب

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น