อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สิ่งที่ประสบของผู้ที่ไม่ใช้ทรัพย์สมบัติในหนทางของอัลลอฮฺ





ทรัพย์สมบัตินั้นเป็นความกรุณาของอัลลอฮฺประการหนึ่ง เป็นสื่ออย่างหนึ่งที่จะนำพาสู่ความโปรดปรานของอัลลอฮฺ โดยนำออกแจกจ่ายในหนทางของพระองค์ และใช้เป็นปัจจัยในการกระทำความดี

แต่บางทีมันอาจจะกลับเป็นผลร้ายแก่ผู้เป็นเจ้าของก็ได้ หากผู้เป็นเจ้าของทรัพย์สมบัตินั้นไม่รู้จักสิทธิ์ของอัลลอฮฺในสมบัตินั้น และยังไม่ยอมชำระซะกาตและแจกจ่ายไปในหนทางของอัลลอฮฺ ถือว่าทรัพย์สมบัติเป็นเป้าหมายสูงสุด โดยที่เขาได้รวบรวมจากสิ่งที่ฮะรอม และฮะล้าล และไม่คำนึงว่าจะได้มาโดยวิธีใด และแจกจ่ายในหนทางใด การกระทำเช่นนั้น ย่อมทำให้ทรัพย์สมบัติเป็นผลร้ายแก่เขา และจะเป็นเสบียงที่จะนำตัวของเขาไปสู่นรก “ญะฮันนัม”

ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็ลอัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวว่า
“ขอสาบานด้วยผู้ที่ชีวิตของฉันอยู่ในอุ้งพระหัตถ์ของพระองค์ว่า ไม่มีบ่าวคนใดที่ขวนขวายแสวงหาทรัพย์ที่หะรอม ที่อัลลอฮฺจะทรงให้ความจำเริญในทรัพย์สมบัติ และไม่มีบ่าวคนใดที่จะนำทรัพย์สมบัติดังกล่าวบริจาค ที่อัลลอฮฺจะทรงรับการบริจาคของเขา และเขาจะไม่ทอดทิ้งทรัพย์สินของเขา (ภายหลังจากตายแล้ว) นอกจากทรัพย์สินนั้นจะเป็นเสบียงนำเขาไปสู่นรกญะฮันนัม และแน่แท้สิ่งที่เลวจะไม่ลบล้างสิ่งที่เลว แต่สิ่งที่ลบล้างสิ่งที่เลวนั้นคือสิ่งที่ดีเท่านั้น” (บันทึกหะดิษโดยอิมามอะหฺมัด อิมามบัยฮะกีย์ และอิมามอัลฮากิม)

รายงานจากท่านอบีฮุรอยเราะฮฺ ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็ลอัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวว่า
“ผู้ใดที่อัลลอฮฺได้ทรงประทานทรัพย์สมบัติมาให้แก่เขา แล้วเขาไม่ชำระซะกาต ในวันกิยามะฮฺ ทรัพย์สมบัติจะมาในรูปของงูพิษ ที่หัวของมันไม่มีขน มีเขี้ยวยาว 2 เขี้ยว มันจะพันคอเขาในวันกิยามะฮฺ แล้วมันจะฉุดเขาด้วยดรามทั้งสองข้างของเขา

 แล้วมันจะพูดว่า “ข้านี่แหละคือทรัพย์สมบัติของเจ้า ข้านี่แหละคือทรัพย์สมบัติของเจ้า”

 แล้วท่านรสูล ศ็ลอัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัมได้อ่านกำรัสของพระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลาที่ว่า

وَلَا يَحْسَبَنَّ الَّذِينَ يَبْخَلُونَ بِمَا آتَاهُمُ اللَّهُ مِن فَضْلِهِ هُوَ خَيْرًا لَّهُم بَلْ هُوَ شَرٌّ لَّهُمْ سَيُطَوَّقُونَ مَا بَخِلُوا بِهِ يَوْمَ الْقِيَامَةِ وَلِلَّهِ مِيرَاثُ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضِ وَاللَّهُ بِمَا تَعْمَلُونَ خَبِيرٌ ( 180 ) 

“และบรรดาผู้ที่ตระหนี่ในสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานให้แก่พวกเขาจากความกรุณาของพระองค์นั้น จงอย่าได้คิดเป็นอันขาดว่ามันเป็นการดีแก่พวกเขา หากแต่มันเป็นความชั่ว แก่พวกเขา ซึ่งพวกเขาจะถูกคล้องสิ่งที่พวกเขาได้ตระหนี่มันไว้ในวันกิยามะฮ์ และสำหรับอัลลอฮ์นั้น คือมรดกแห่งบรรดาชั้นฟ้า และแผ่นดิน และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้อย่างละเอียดในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำกัน”
(อัลกุรอาน สูเราะฮฺอาละอิมรอน 3:180)
(บันทึกหะดิษโดยอิมามมาลิก อิมามบุคอรีย์ อิมามมุสลิม และอิมามอะหฺมัด)



والله أعلم بالصواب

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น