อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556

หรือพวกเขาไม่เข้าใจคำว่า “ลาอิลาฮ่าอิ้ลลัลลอฮฺ”




لا إِلهَ إلا اللهُ(ลาอิลาฮ่าอิ้ลลัลลอฮฺ)

คำนี้เป็นคำสมาส ประกอบด้วย 2 ประโยครวมกัน คือ

ลาอิลาฮ่า ความหมายว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใด ซึ่งเป็นประโยคปฏิเสธ

และ
อิ้ลลัลลอฮฺ ความหมายว่า นอกจากอัลลอฮฺเท่านั้น เป็นประโยคยอมรับ

ซึงคำลาอิล่าฮ่าอิ้ลลัลลอฮฺนี้ เป็นประโยคถ้อยคำแรกในการประกาศยอมรับในการเป็นพระเจ้าของอัลลอฮฺแต่เพียงองค์เดียว เป็นการกล่าวออกมาด้วยเข้าใจ ความบริสุทธิ์จากหัวใจที่ศรัทธา ไม่ใช่เกิดจากถูกบังคับ หรือท่องจำ

การประกาศยอมรับความเป็นพระเจ้าของอัลลอฮฺที่ต้องขึ้นต้นด้วยคำปฏิเสธ ว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นๆอีกแล้ว เพื่อไม่ให้ผู้ใดเชื่อมั่นศรัทาต่ออัลลอฮฺควบคู่กับสิ่งอื่นๆอีก

ซึ่งพวกมุชริกีน(ผู้ตั้งภาคี)ในมักกะฮฺขณะที่ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม เผยแพร่ศาสนานั้น พวกเขาก็ศรัทธาว่าอัลลอฮฺเป็นพระเจ้า แต่พวกเขายังกราบไหว้สิ่งอื่นควบคู่ไปกับอัลลอฮฺ แต่เมื่อถูกถามทำไมพวกเขาถึงกระทำเช่นนั้น พวกเขาตอบว่า ที่เคารพกราบไหว้นั้นมิใช่ว่าในฐานะผู้สร้างโลก แต่พวกเขาเคารพเพื่อเป็นสื่อให้ใกล้ชิดกับพระองค์อัลลอฮฺเท่านั้น

พระองค์อัลลอฮ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัส เกี่ยวกับบรรดามุชรีกีน ว่า

وَلَئِن سَأَلْتَهُم مَّنْ خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ وَسَخَّرَ الشَّمْسَ وَالْقَمَرَ لَيَقُولُنَّ اللَّهُ ( 61 )

และถ้าเจ้าถามพวกเขา ใครเป็นผู้สร้างชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดิน และเป็นผู้ทำให้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เป็นประโยชน์ แน่นอนพวกเขาจะกล่าวว่าอัลลอฮ์ 
(อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัลอัลกะบูต 29 อายะฮฺที่ 61)


وَلَئِن سَأَلْتَهُم مَّنْ خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ لَيَقُولُنَّ اللَّهُ قُلْ أَفَرَأَيْتُم مَّا تَدْعُونَ مِن دُونِ اللَّهِ إِنْ أَرَادَنِيَ اللَّهُ بِضُرٍّ هَلْ هُنَّ كَاشِفَاتُ ضُرِّهِ أَوْ أَرَادَنِي بِرَحْمَةٍ هَلْ هُنَّ مُمْسِكَاتُ رَحْمَتِهِ قُلْ حَسْبِيَ اللَّهُ عَلَيْهِ يَتَوَكَّلُ الْمُتَوَكِّلُونَ ( 38 )

และถ้าเจ้าถามพวกเขาว่า ใครเป็นผู้สร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน แน่นอนพวกเขาจะกล่าวว่าอัลลอฮฺ จงกล่าวเถิดมุฮัมมัดพวกท่านไม่เห็นดอกหรือว่า สิ่งที่พวกท่านวิงวอนขออื่นจากอัลลอฮฺนั้น หากอัลลอฮฺทรงประสงค์จะให้มีความทุกข์ยากแก่ฉันแล้วพวกมันจะปลดเปลื้องความทุกข์ยากของพระองค์ได้ไหม? หรือหากพระองค์ประสงค์จะให้ความเมตตาแก่ฉันพวกมันจะยับยั้งความเมตตาของพระองค์ได้ไหม? จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด อัลลอฮฺทรงพอเพียงแก่ฉันแล้ว แต่พระองค์เท่านั้น บรรดาผู้มอบความไว้วางใจจะให้ความไว้วางใจ
(อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัซ-ซูมัร 39:38)

أَجَعَلَ الْآلِهَةَ إِلَٰهًا وَاحِدًا إِنَّ هَٰذَا لَشَيْءٌ عُجَابٌ ( 5 )
เขาได้ทำให้พระเจ้าหลายองค์เป็นพระเจ้าองค์เดียวกระนั้นหรือ ? แท้จริงนี่เป็นเรื่องประหลาดจริง ๆ “
(อัลกุรอาน สูเราะฮฺศอด 38:5)

ถ้อยคำว่า ลาอิลาฮ่า นี้เป็นถ้อยคำที่สร้างความเจ็บปวดให้แก่บรรดามุชริกีนเป็นอย่างมาก

อิสลามนั้นมุ่งเน้นให้ผู้ศรัทธาได้เชื่อมั่นต่อพระองค์อัลลอฮฺพระผู้เป็นเจ้าแต่เพียงองค์เดียวอย่างแท้จริง โดยปฏิเสธที่จะให้มนุษย์ศรัทธาต่อพระองค์อัลลอฮฺและศรัทธาต่อสิ่งอื่นควบคู่ไปด้วย

>>>หากแต่ยังมีมุสลิมบางคนที่กล่าวประโยคนี้โดยไม่เข้าใจ ยังวิงวอนขอต่ออัลลอฮฺและสิ่งอื่นควบคู่ไปด้วย ยังวิ่งไปหาโต๊ะหมอ ยังเชื่อคำทำนายทายทัก ยังเชื่อวันเวลา มีผลต่อการดำรงชีวิตของตน ยังเอาสิ่งที่ถูกสร้างมาขอความคุ้มครองคุ้มกันตน

นี่แหละคือผู้ที่กล่าวคำว่า ลาอิลาฮ่า แต่เพียงลมปากแต่ใจนั้นกลับหาเข้าใจ และศรัทธามั่นไม่ !!!


والله أعلم بالصواب

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น