
.
อาจารย์จึงยกภาชนะคล้ายเหยือกขี้นเหนือศรีษะของเขา ที่ในนั้นเต็มไปด้วยน้ำ แล้วเขาก็ถามนักศึกษาว่า : เหยือกใบนี้ น่าจะมีน้ำหนักกี่กิโล ? คำตอบของนักศึกษาที่ได้มา อยู่ที่ประมาณ 50-500 กรัม
อาจารย์ก็ตอบว่า : น้ำหนักที่แท้จริงของมันนั้น มันไม่สำคัญเลยสำหรับอาจารย์ เพราะน้ำหนักของมันนั้น จะอยู่ที่เวลาที่อาจารย์กำลังยืนถือมันอยู่ ถ้าหากว่าอาจารย์ถือมันเป็นเวลาแค่นาทีเดียว มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับตัวอาจารย์เลย แต่ถ้าหากว่าอาจารย์ยืนถือมันเป็นชั่วโมง มือและแขนของอาจารย์ต้องปวดแน่ ๆ และถ้าหากว่าอาจารย์ยืนถือมันอยู่ทั้งวัน พวกคุณคงต้องเรียกรถพยายาลแล้วหามอาจาย์ไปโรงพยาบาลแน่นอน เพราะว่าเหยือกใบนี้ มันจะไม่เพิ่มน้ำหนักของมัน แต่ถ้าอาจารย์ยืนถือมันเป็นเวลาที่นานมาก อาจารย์จะรู้สึกไปเองว่า น้ำหนักของมันจะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
มันก็เหมือนกับมวลปัญหาของเราและความโศกเศร้าของเราที่เราได้แบกมันมาในทุก ๆ เวลา และจะมีเวลาหนึ่งในวันข้างหน้าที่เราไม่สามารถอดทนกับมันได้อีกแล้ว ก็เพราะว่าเรารู้สึกว่าปัญหาและความโศกเศร้านั้นจะยิ่งเพิ่มน้ำหนักของมันไปเรื่อย ๆ สิ่งที่เราต้องทำกับมันนั่นก็คือ เราควรวางเหยือกของปัญหาและความโศกเศร้าเป็นบางเวลา ก่อนที่เราจะยกมันขึ้นมาอีกครั้ง
เราควรวางปัญหาของเราและความโศกเศร้าของเราอย่างเป็นเวลา เวลาใดที่ควรวางและเวลาใดที่เราจะยกมันขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อให้เรามีพลังในการยกและวาง เมื่อเราเสร็จจากภารกิจของเราจากที่ทำงาน ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะแบกปัญหาจากที่ทำงานนำมาสู่ที่บ้าน และปัญหาจากที่ทำงานนั้น มันจะไม่ตามมาหาเรา เพราะว่ามันจะรอเราอยู่ทีเดิม รอจนกว่าเราจะกลับไปที่ทำงานอีกครั้งในวันพรุ่งนี้
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ไม่มีที่ใดเลยที่ปลอดจากปัญหา และจงอยู่กับมันเป็นบางเวลา ขอแค่อย่านำพามันไปทุกที่และทุกเวลาก็เกินพอ
.
.............................................................
บทความดี ๆ จากเพจ : اقوال اعجبتني••مما قرأت
ถอดความและเรียงคำโดย : อูลุล อัลบ๊าบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น