อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2557

ชี้แจ้งกระทู้ "เมื่อวะฮะบีย์อ้างว่าอีหม่ามชาฟีอี มีอากีดะฮ์เหมือนตน"





ท่านอิหม่าม อิบนุ อิหม่าม อับดุรเราะห์มาน บิน อะบีฮาติมอัรรอซีย์ กล่าวว่า ท่านอบูซุอัยบ์และอบูซูร บอกแก่เราว่า จากท่านอิดรีส อัซซาฟีอีย์ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮุตะอาลา กล่าวว่า :

القول في السنة التي أنا عليها ورأيت أصحابنا عليها أهل الحد يث الذين رأيتهم، وأخذت عنهم مثل سفيان ومالك وغيرهما : الإقرار بشهادة أن لا إله إلا الله، وأنّ محمداً رسول الله، وأنّ الله تعالى على عرشه في سمائه يقرب من خلقه كيف شاء، وأن الله تعالى ينزل إلى سماء الدنيا كيف شاء
(اجتماع الجيوش الإسلامية على غزو المعطلة والجهمية لابن قيم الجوزية ج ١, ص ٤٣ )

รรศนะในแบบฉบับที่ฉัน ได้ยึดถือ และ แบบที่ฉันได้ทราบจากบรรดาสหายของฉันและบรรดาอะห์ลุ้ลฮะดีษได้ยึดถือมัน ซึ่ง(ทรรศนะดั่งกล่าว)ได้นำมาจากอิหม่ามแห่งอะห์ลิซซุนนะห์ อย่าง ท่านซุฟยาน ท่าน อิหม่ามมาลิก และคนอื่นๆจากทั้ง 2 คือ การยืนยันว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลเลาะห์ และมูฮำหมัดเป็นร่อซุ้ลของพระองค์ และแท้จริงอัลเลาะห์ ตะอาลาอยู่เหนือ อะรัช เหนือชั้นฟ้าของพระองค์ และพระองค์จะใกล้ชิดกับใคร ตามที่พระองค์ทรงประสงค์ และแท้จริงอัลเลาะห์นั้น ทรงเสด็จลงมายังฟากฟ้าดุนยา ตามที่พระองค์ ทรงประสงค์..
อิจตีมาอ์ ญุยูส อิสลามียะห์ อะลา ฆอสวิ้ลมุอัตตอละห์ วัลญะมียะห์ ของอิบนุกอยยิม อัลเญาซีย์ เล่ม 1 หน้า 43

พี่น้องครับ บรรดาผู้รายงานคำพูดของอิมามอัชชาฟิอีย์เหล่านี้ ไม่น่าเชื่อถือเลย เมื่อเรามาดูหนังสืออัลอุลุว์ ของ ท่านอิมามอัซซะฮะบีย์ ซึ่งท่านได้กล่าวผู้รายงานไว้ว่ามาจากท่าน อัลฮักการีย์ และ ท่าน อบูมุฮัมมัด อัลมุก๊อดดิซีย์

ขอวิจารณ์สายรายงานนี้ให้ชุ่มชื้นหน่อยนะครับ 

1.อัลกะฮารีย์ الهكارى คนนี้ เป็นคนที่โกหกและกุหะดิษ ท่าน หาฟิซ อัซซะฮะบีย์ (ซึ่งเขาได้ล้มเลิกจากทัศนะที่ได้กล่าวเอาไว้ในหนังสือ อัลอุลุวฺ ในขณะที่ท่านเป็นหนุ่มอยู่) เมื่อท่านมีความอวุโส มีความมั่นคงในวิชาความรู้โดยการศึกษาจากอาจารณ์ท่านอื่นๆ ท่านได้กล่าวไว้ในหนังสือ มีซาน อัลเอี๊ยะติดาน ว่าเกี่ยวกับ อัลกะฮารีย์ ว่า " อบูอัลกอซิม บิน อะซากิร กล่าวว่า อัลฮะการีย์นั้น ไม่เป็นผู้ที่ได้รับการเชื่อถือ และท่านอิบนุอันนัจญารกล่าวว่า อัลฮะการีย์นั้น ถูกกล่าวหาว่า ชอบกุฮะดิษ และประดิษฐ์สายรายงานขึ้นมา " 
(ดู มีซาน อัลเอี๊ยะติดาน ของท่าน อัซซะฮะบีย์ เล่ม 3 หน้า 112)


2.อบูมุฮัมมัด อัลมุก๊อดดิซีย์ เขาผู้ที่เป็นผู้หนึ่งที่ อุลามาอฺได้หะลาลเลือดของเขา เนื่องจากเป็นพวกมุญัสสิมะฮฺ 
(ดู หนังสือ อัซซัยล์ อะลา อัรเราฏ่อตัยน์ ของท่าน อบู ชามะฮฺ อัลมุก๊อดดิซีย์ หน้า 46)

และอบูมุฮัมมัด อัลมุก๊อดดิซีย์นั้น ได้รายงานจาก อบู ชุอัยบฺ จากท่านอิมามอัชชาฟิอีย์ ซึ่งพวกอัลมุญัสสิมะฮฺได้อ้างว่า อบู ชุอัยบ์นี้ได้รายงานเกี่ยวกับอะกีดะฮฺของท่าน อิมามชาฟิอีย์ ทั้งที่ อบู ชุอัยบ์นี้ เกิด หลังจากอิมามชาฟิอีย์เสียชีวิตไปแล้ว ถึง สองปี ด้วยกัน
(ดู ตารีค อัลบุฆดาด เล่ม 9 หน้า 436 ของท่านคอฏีบ อัลบุฆดาดีย์)

จะบอกว่าสายรายงานนี้ไม่แข็งแรง หรือ เมาดุว์ เลยก็ว่าได้ครับพี่น้อง

ส่วนหนึ่งจากคำพูดที่ถูกต้องของอีหม่าม ชาฟิอีย์ ที่ถูกรายงานมา 

آمنت بما جاء عن الله على مراد الله وبما جاء عن رسول الله على مراد رسول الله

"ฉันศรัทธาในสิ่งที่มาจากอัลลอฮฺ ตามความหมายที่แท้จริงของอัลลอฮฺ และฉันศรัทธาในสิ่งที่มาจากรสูล ตามความหมายที่แท้จริงของรสูล" 
(ดู ตำรา ดัฟอุ ชุบะฮิ มัน ชับบะฮะ วะ ตะมัดรอด โดย ท่านอิมาม อัล-หิศนีย์ อัช-ชาฟิอีย์ หน้าที่ 56)

และอีกสายรายงานหนึ่ง คือ

إنه تعالى كان ولا مكان

"แท้จริงอัลลอฮฺ ตะอาลา มีมาแต่เดิมแล้ว และพระองค์ไร้ซึ่งสถานที่" 
(ดู ตำรา อิตติหาฟ อัซ-ซาดะฮฺ อัล-มุตตะกีน โดย อิมาม มุรตะฎอ อัซ-ซะบีดีย์ เล่มที่ 2 หน้าที่ 24)

ตรงนี้แหละครับ ที่วะฮะบีย์โฆษณากันไปทั่วว่า พวกเขามีอะกีดะฮ์เหมือนกันกับอิมามอัชชาฟิอีย์ แต่ความจริงแล้ววะฮาบีไม่ได้มีอะกีดะฮ์เหมือนกับอิมามอัชชาฟิอีย์เลย และยังมีประเด็นอื่น ๆ อีกที่อิมามอัชชาฟิอีย์มีหลักการเรื่องอะกีดะฮ์ที่ต่างกับวะฮาบีย์ 
ติดตามการจับโกหกกลุ่มนี้ในตอนต่อไปนะครับ 
วัลลอฮ์ อะลัม

.....................................

***ชี้แจง

ท่าน อิหม่าม อิบนุ อิหม่าม อับดุรเราะห์มาน บิน อะบีฮาติมอัรรอซีย์ กล่าวว่า ท่านอบูซุอัยบ์และอบูซูร บอกแก่เราว่า จากท่านอิดรีส อัซซาฟีอีย์ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮุตะอาลา กล่าวว่า :

القول في السنة التي أنا عليها ورأيت أصحابنا عليها أهل الحد يث الذين رأيتهم، وأخذت عنهم مثل سفيان ومالك وغيرهما : الإقرار بشهادة أن لا إله إلا الله، وأنّ محمداً رسول الله، وأنّ الله تعالى على عرشه في سمائه يقرب من خلقه كيف شاء، وأن الله تعالى ينزل إلى سماء الدنيا كيف شاء
(اجتماع الجيوش الإسلامية على غزو المعطلة والجهمية لابن قيم الجوزية ج ١, ص ٤٣ )

ทรรศนะ ในแบบฉบับที่ฉัน ได้ยึดถือ และ แบบที่ฉันได้ทราบจากบรรดาสหายของฉันและบรรดาอะห์ลุ้ลฮะดีษได้ยึดถือมัน ซึ่ง(ทรรศนะดั่งกล่าว)ได้นำมาจากอิหม่ามแห่งอะห์ลิซซุนนะห์ อย่าง ท่านซุฟยาน ท่าน อิหม่ามมาลิก และคนอื่นๆจากทั้ง 2 คือ การยืนยันว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลเลาะห์ และมูฮำหมัดเป็นร่อซุ้ลของพระองค์ และแท้จริงอัลเลาะห์ ตะอาลาอยู่เหนือ อะรัช เหนือชั้นฟ้าของพระองค์ และพระองค์จะใกล้ชิดกับใคร ตามที่พระองค์ทรงประสงค์ และแท้จริงอัลเลาะห์นั้น ทรงเสด็จลงมายังฟากฟ้าดุนยา ตามที่พระองค์ ทรงประสงค์
อิจตีมาอ์ ญุยูส อิสลามียะห์ อะลา ฆอสวิ้ลมุอัตตอละห์ วัลญะมียะห์ ของอิบนุกอยยิม อัลเญาซีย์ เล่ม 1 หน้า 43
…………………

คำพูดข้างต้นปรากฏในตำราต่อไปนี้

اجتماع الجيوش الإسلامية ص165، إثبات صفة العلو ص124، وانظر مجموع الفتاوى (4/ 181 - 183)، والعلو للذهبي ص120، ومختصره للألباني ص176

หะดิษข้างต้น ผู้กล่าวหาวะฮบีย์ได้วิจารณ์ ผู้รายงานชื่อ

شيخ الإسلام أبو الحسن علي بن أحمد بن يوسف بن جعفر بن عرفة بن مأمون بن المؤمل بن الوليد بن القاسم بن الوليد بن عتبة بن أبي سفيان بن حرب بن أمية الأموي ، السفياني ، الهكاري

อาจจะมีผู้วิจารณ์ แต่ก็มีผู้ชมเช่นกันเช่น

وَقَالَ عَبْدُ الْغَفَّارِ الْكَرَجِيُّ : مَا رَأَيْتُ مِثْلَ شَيْخِ الْإِسْلَامِ الْهَكَّارِيِّ زُهْدًا وَفَضْلًا .

อับดุลฆอ็ฟฟาร อัลกัรญีย์ กล่าวว่า “ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นใคร ที่เหมือนชัยคุลอิสลาม อัลฮะการีย์ ในด้านการสมถะ และความประเสริฐ

وَقَالَ يَحْيَى بنُ مَنده: قَدِمَ عَلَيْنَا، وَكَانَ صَاحِبَ صَلاَةٍ، وَعُبَادَةٍ، وَاجْتِهَادٍ، مِنْ كُبَرَاءِ الصُّوْفِيَّة

และ ยะหยา บิน มันดะฮ กล่าวว่า เขาได้มาหาเรา และ เขาเป็นผู้เคร่งครัดในการละหมาด ,อิบาดะฮ และการความอุสาหะ จากบรรดาปราชญ์ซูฟีย์อวุโส - ดู อัสสิยารอะลามิลนุบะลาอฮ 19/67

มาดู ท่านอิหม่าม อัช-ชาฟิอีย์ เราะหิมะฮุ้ลลอฮฺ กล่าวไว้ในหนังสืออัร-ริสาละฮฺ ของท่านว่า:

والحمد لله ... الذي هو كما وصف به نفسه وفوق ما يصفه به خلقه

มวล การสรรเสริญเป็นสิทธิของพระองค์อัลลอฮฺ.... พระผู้ซึ่งมีคุณลักษณะดังที่พระองค์ได้พรรณาคุณลักษณะไว้กับตัวพระองค์เอง และอยู่เหนือสิ่งที่มัคลูคของพระองค์ พรรณาคุณลักษณะแก่พระองค์ด้วยมัน” (หนังสือ อัร-ริสาละฮฺ หน้าที่ 7-8

ท่านอัซ-ซะฮะบีย์ระบุในหนังสือ สิยัรอะลาม อันนุบะลาอ์ จากอิหม่ามอัช-ชาฟิอีย์ ท่านกล่าวว่า

«نثبت هذه الصفات التي جاء بها القرآن ووردت بها السنة وننفي التشبيه عنه كما نفى عن نفسه فقال: ﴿ لَيۡسَ كَمِثۡلِهِۦ شَيۡءٞۖ ﴾ [الشورى: ١١]

พวก เรายืนยันคุณลักษณะต่างๆเหล่านี้ของอัลลอฮฺ ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่ปรากฏในอัล-กุรอ่าน และอัส-สุนนะฮฺ และพวกเราปฏิเสธการเปรียบเทียบพระองค์อัลลอฮฺกับสิ่งอื่น ดังเช่นที่พระองค์ได้ปฏิเสธด้วยตัวของพระองค์เอง พระองค์ได้ดำรัสว่า: ((และไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์))” (สูเราะฮฺ อัช-ชูรอ อายะฮฺที่ 11)” (หนังสือ สิยัร อะลาม อันนุบะลาอ์ เล่ม 20 หน้าที่ 341



อิหม่ามอัศศอบูนีย์ ได้กล่าวถึงอะกีดะฮของอิหม่ามชาฟิอีว่า

وإنما احتج الشافعي رحمة الله عليه على المخالفين في قولهم بجواز إعتاق الرقبة الكافرة في الكفارة بهذا الخبر؛ لاعتقاده أن الله سبحانه فوق خلقه، وفوق سبع سماواته على عرشه، كما معتقد المسلمين من أهل السنة والجماعة، سلَفِهم وخلفِهم؛ إذ كان رحمه الله لا يرو خبرًا صحيحًا ثم لا يقول به.

และ ความจริง อัชชาฟิอี (ร.ฮ) ได้อ้างหลักฐาน ตอบโต้บรรดาผู้ที่มีความเห็นขัดแย้งในทัศนะของพวกเขา (ที่อ้างว่า) อนุญาตให้ปล่อยท่านหญิงที่เป็นกาเฟร ในสภาพที่เป็นกาเฟร ด้วยหะดิษนี้(หมายถึงหะดิษญารียะฮ ที่ตอบนบีว่าอัลลอฮอยู่บนฟ้า) เพราะ อะกีดะฮของเขา(หมายถึงชาฟิอี)เชื่อว่า แท้จริงอัลลอฮ( ซ.บ) ทรงอยู่เหนื่อมัคลูคของพระองค์ และเหนือ บรรดาฟากฟ้าทั้งเจ็ดของพระองค์ ดังที่เป็นหลักความเชื่อของบรรดามุสลิม จากอะฮลุสสุนนะฮ วัลญะมาอะฮ ยุคสะลัฟและยุคเคาะลัฟ เพราะ ปรากฏว่าเขา(หมายถึงอิหม่ามชาฟิอี) เขาจะไม่รายงานหะดิษที่เศาะเอียะใดๆ แล้วต่อมาเขาไม่นำมากล่าวด้วยมัน
عقيدة السلف وأصحاب الحديث للصابوني ص118 و189]

หมาย ถึง อิหม่ามชาฟิอีได้อ้างหะดิษญารียะฮ เป็นหลักฐานบรรดาผู้ที่อ้างว่า อนุญาตให้ปล่อยทาสหญิงที่เป็นกาเฟร ในสภาพที่เป็นกาเฟรได้ สำหรับทัศนะของอิหม่ามชาฟิอีนั้น อนุญาตปล่อยทาสหญิงที่เป็นกาเฟรได้ ก็ต่อเมื่อนางรับอิสลาม โดยที่อิหม่ามชาฟิอีได้อ้างหลักฐานจากหะดิษญารียะฮ คือ ท่านนบี ถามทาสหญิงคนนั้นว่า อัลลอฮอยู่ที่ใหน ?นางตอบว่า “อัลลอฮ อยู่บนฟ้า” แล้วนบีรับรองว่านางเป็นมุสลิม แล้วนบีบอกให้ปล่อยนางเป็นอิสระ และอัศศอบูนีย์ ยืนยันว่า "อิหม่ามชาฟิอีนั้น ไม่เคยปรากฏว่า เมื่อท่านรายงานหะดิษเศาะเฮียะ แล้วท่านไม่นำมันมาอ้างเป็นหลักฐาน

***เพราะฉะนั้นบทความ นายอภิวัฒ บาเร็ม ข้างต้น แค่นำเอาคำพูดของอารีฟีนมารีไซเกิ้ล เพื่อโจมตีวะฮบีย์เท่านั้น

ขอ ยืนยันว่า อะกีดะฮ อิหม่ามชาฟิอี ไม่เหมื่อนกลุ่มอาชาอิเราะฮ อย่างนายอภิวัฒน์ บาเหร็ม อย่างแน่นอน โปรดติดตาม อะกีดะฮอิหม่ามชาฟิอี เพิ่มเติม อินชาอัลลอฮ


มาดูคำพูดอิหม่ามชาฟิอีย์ที่ท่านอ้างหลักฐานด้วยหะดิษนี้

وَأَحَبُّ إلَيَّ أَنْ لَا يُعْتِقَ إلَّا بَالِغَةً مُؤْمِنَةً فَإِنْ كَانَتْ أَعْجَمِيَّةً فَوَصَفَتْ الْإِسْلَامَ أَجْزَأَتْهُ ، أَخْبَرَنَا مَالِكٌ عَنْ هِلَالِ بْنِ أُسَامَةَ عَنْ عَطَاءِ بْنِ يَسَارٍ عَنْ عُمَرَ بْنِ الْحَكَمِ أَنَّهُ قَالَ { أَتَيْت رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَقُلْت يَا رَسُولَ اللَّهِ إنَّ جَارِيَةً لِي كَانَتْ تَرْعَى غَنَمًا لِي فَجِئْتهَا وَفَقَدَتْ شَاةً مِنْ الْغَنَمِ فَسَأَلْتهَا عَنْهَا فَقَالَتْ أَكَلَهَا الذِّئْبُ فَأَسِفْت عَلَيْهَا وَكُنْت مِنْ بَنِي آدَمَ فَلَطَمْتُ وَجْهَهَا وَعَلَيَّ رَقَبَةٌ أَفَأَعْتِقُهَا ؟ فَقَالَ لَهَا رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أَيْنَ اللَّهُ ؟ فَقَالَتْ فِي السَّمَاءِ فَقَالَ مَنْ أَنَا ؟ فَقَالَتْ أَنْتَ رَسُولُ اللَّهِ قَالَ فَأَعْتِقْهَا

และ ที่ข้าพเจ้าชอบคือ จะไม่มีการปล่อยทาสให้เป็นอิสระ นอกจาก เป็นหญิงผู้ศรัทธาที่บรรลุศาสนภาวะ แล้วถ้าปรากฏว่านางเป็นหญิงอะญัม(ไม่ใช่อาหรับ) แล้วนางมีคุณลักษณะอิสลาม ก็ใช้ได้,มาลิก ได้บอกแก่เรา จากฮิลาล บิน อุสามะฮ จาก อะฏออฺ บิน ยะสาร จากอุมัร บินหะกัม ว่า “เขากล่าวว่าฉันมีทาสคนหนึ่งที่เคยเลี้ยงแพะของฉันในพื้นที่ระหว่างอุฮุดและ อัล-ญะวานิยยะฮฺ วันหนึ่งเขาได้กระทำความผิดบางอย่าง เขาได้ออกโดยเอาแพะไปตัวหนึ่ง ฉันเป็นมนุษย์ธรรมดา แน่นอนว่าต้องมีอารมณ์โกรธ ฉันจึงตบหน้าเขา แล้วท่านเราะสูลุลลอฮ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ก็มา(เห็น) และสิ่งนี้ทำให้ฉันกังวลใจ ฉันจึงอธิบายกับท่านว่า ‘โอ้ท่านเราะสูลุลลอฮ ฉันควรปล่อยทาสของฉันคนนี้เป็นอิสระไหม?’ ‘พาเขามาหาฉัน’ ท่านเราะสูลุลลอฮฯ กล่าว ฉันจึงรีบพาเขามาหาท่าน แล้วท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ก็ได้ถามนางว่า “อัลลอฮอยู่ที่ไหน?”

นาง ตอบว่า “อยู่บนฟากฟ้า” แล้วท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ก็ถามต่อไปอีกว่า “ฉันคือใคร?” ทาสของฉันตอบว่า “ท่านคือศาสนฑูตของอัลลอฮ” ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า “ปล่อยนางให้เป็นอิสระเถิด แท้จริงนางคือผู้ศรัทธา
-ดู หนังสือ อัลอุม ของอิหม่าชาฟิอีย์ เล่ม 5 บทว่าด้วย باب عتق المؤمنة في الظهار
“”””””””””””””””””””””

อิหม่ามชาฟิอียอมรับในหะดิษญารียะฮ ที่ทาสหญิงตอบคำถามว่า “อัลลอฮ อยู่ใหน ?นางตอบว่าอัลลอฮ อยู่บนฟ้า
และ อิหม่ามอัศศอบูนีย์ ปราชญ์มัซฮับชาฟีอีเอง ก็ยืนยันว่าเป็นอะกีดะฮ อิหม่ามชาฟิอีย์ แต่...คนที่สังกัดมัซฮับชาฟิอีบางกลุ่มกลับไม่ยอมรับ กล่าวหาว่า “คนที่เชื่อว่า อัลลอฮ อยู่บนฟ้า คือ อะกีดะฮยิว นะอูซุบิลละฮ

อิหม่ามอัซซะฮะบีย์ ได้ยืนยัน ว่า อบูหาติม (ฮศ ๒๗๗) ว่า อะกีดะฮอิหม่ามชาฟิอี คือ อัลลอฮทรงอยู่เหนืออะรัช

อิหม่ามอัซซะฮะบีย์(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า

قال الحافظ أبو القاسم اللالكائي: وجدت في كتاب أبي حاتم محمد ابن ادريس الحنظلي مما سمع منه يقول: "( مذهبنا واختيارنا: اتباع رسول الله صلى الله عليه وسلم وأصحابه والتابعين، والتمسك بمذاهب أهل الأثر مثل الشافعي وأحمد وإسحاق وأبي عبيد، ولزوم الكتاب والسنة، ونعتقد أن الله عز وجل على عرشه "ليس كمثله شيء وهو السميع البصير

อัล หาฟิซ อบุลกอซิม อัลลาลุกาอีย์ กล่าวว่า " ฉันพบในหนังสือของอบีหาติม มุหัมหมัด บิน อิดรีส อัลหันเซาะลีย์ จากสิ่งที่เขา ได้ยินมา โดย เขา กล่าวว่า (แนวทางของเราและทางเลือกของเรา คือ การเจริญรอยตามรซูลุ้ลลอฮ ,บรรดาสาวกของท่านและบรรดาตาบิอีน และยึดถือตามแนวทางของนักหะดิษ เช่น อิหม่ามชาฟิอีย์ ,อะหมัด,อิสหากและอบีอุบัยดิน และ การยืนหยัดในอัลกิตาบและอัสสุนนะฮ และเราเชื่อว่า แท้จริง อัลลอฮ ผู้ทรงเกรียงไกร ผู้ทรงเลิศยิ่ง อยู่เหนืออะรัช "ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์ และพระองค์คือ ผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็น - สิยะรุอะอฺลาม อัลนุบะลา 13/60

...... นายอภิวัฒน์ บาเหร็ม คงคิดว่า รายงานเกี่ยวกับอะกีดะฮชาฟีอี มีอยู่แค่บทเดียว แล้วคิดว่า มุสลิมที่เขาอุตริคำว่าวะฮบีย์ อยู่ในกะลา หรือโลกแคบ อย่างที่ตัวเองเป็นอยู่ นะอูซุบิลละฮ


นายอภิวัฒน์ บาเหร็ม อ้างคำพูดอิหม่ามชาฟิอีที่ว่า

منت بما جاء عن الله على مراد الله وبما جاء عن رسول الله على مراد رسول الله

"ฉัน ศรัทธาในสิ่งที่มาจากอัลลอฮฺ ตามความหมายที่แท้จริงของอัลลอฮฺ และฉันศรัทธาในสิ่งที่มาจากรสูล ตามความหมายที่แท้จริงของรสูล"(ดู ตำรา ดัฟอุ ชุบะฮิ มัน ชับบะฮะ วะ ตะมัดรอด โดย ท่านอิมาม อัล-หิศนีย์ อัช-ชาฟิอีย์ หน้าที่ 56)
..................

***ชี้แจง

อุตสาห์ เอา บทความแม่ทัพ อาชาอีเราะฮ มารีไซเกิ้ล โจมตีวะฮบีย์ ขนาดแปลก็ยังแปลไม่ถูกเลย
มาดูตัวบทและคำแปลที่ถูก

آمنت بالله وبما جاء عن الله ، على مراد الله ، وآمنت برسول الله وبما جاء عن رسول الله على مراد رسول الله.

“Aku beriman kepada Allah dan kepada apa-apa yang datang dari Allah sesuai dengan apa yang dimaksud oleh Allah, dan aku beriman kepada Rasulullah dan kepada apa-apa yang datang dari beliau, sesuai dengan apa yang dimaksud oleh Rasulullah

ฉัน ศรัทธาต่ออัลลอฮ ด้วยสิ่งที่มาจากอัลลอฮ ,บนสิ่งที่อัลลอฮทรงมุ่งหมาย และฉันศรัทธาต่อรซูลุลลอฮ และด้วยสิ่งที่ที่มาจากรซูลุลลอฮ บนสิ่งที่รซูลุลลอฮ มุ่งหมาย – ดู ลัมอะตุ อัลเอียะติกอด ของ อิบนุกุดามะฮ หน้า 36

คำ ว่า “ตามความมุ่งหมายของอัลลอฮ หมายถึง ความหมายที่ปรากฏตามตัวบท ที่อัลลอฮทรงตรัสกับบ่าวของพระองค์ โดยมีวัตถุประสงค์ หรือจุดมุ่งหมายให้พวกเขาเข้าใจความหมาย และ ความมุ่งหมายของอัลลอฮ ก็เป็นไปตามที่ รซูลุลลอฮ สอนไว้ เพราะรซูลุลลอฮเป็นผู้ถ่ายทอดวะหยูของอัลลอฮ ดังที่ตรัสไว้ว่า

وَأَنْزَلْنَا إِلَيْكَ الذِّكْرَ لِتُبَيِّنَ لِلنَّاسِ مَا نُزِّلَ إِلَيْهِمْ وَلَعَلَّهُمْ يَتَفَكَّرُونَ (44)

“ และเราได้ให้อัลกุรอานแก่เจ้าเพื่อเจ้าจะได้ชี้แจง (ให้กระจ่าง) แก่มนุษย์ซึ่งสิ่งที่ได้ถูกประทานมาแก่พวกเขาและเพื่อพวกเขาจะได้ไตร่ตรอง” (ซูเราะฮฺ อันนะฮฺล อายะฮฺ ๔๔)

ส่วน อะกีดะฮของนายอภิวัฒน์ คือ มีสองแนวทาง คือ
หนึ่ง - ตีความ จึงถามว่า มีคำสอนอัลลอฮและรอซุลต้องการให้ตีความ(ตะวีล)หรือ

สอง - มอบหมาย ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับความหมาย ไม่มีใครรู้ความหมาย จึงถามว่า อัลลอฮประทานอัลกุรอ่านมาให้ท่องอย่างเดียว โดย นบีและเหล่าเศาะหาบะฮไม่รู้ความหมายอย่างนั้นหรือ?


นายอภิวัฒน์ บาเหร็ม อ้างว่า

และอีกสายรายงานหนึ่ง คือ

إنه تعالى كان ولا مكان

"แท้จริงอัลลอฮฺ ตะอาลา มีมาแต่เดิมแล้ว และพระองค์ไร้ซึ่งสถานที่"
(ดู ตำรา อิตติหาฟ อัซ-ซาดะฮฺ อัล-มุตตะกีน โดย อิมาม มุรตะฎอ อัซ-ซะบีดีย์ เล่มที่ 2 หน้าที่ 24)
............

ข้างต้นเป็นการโกหกแอบอ้างอิหม่ามชาฟีอี !!!!

ข้อความเต็มๆคือ

وقال الإمام المجتهد محمد بن إدريس الشافعي رضي الله عنه إمام المذهب الشافعي (204 ص) ما نصه : " إنه تعالى كان ولا مكان فخلق المكان وهو على صفة الأزلية كما كان قبل خلقه المكان لا يجوز عليه التغيير في ذاته ولا التبديل في صفاته " اهـ. [إتحاف السادة المتقين (2/ 24 ]

เป็นคำพูดที่อ้างโดยไม่มีสายรายงาน ดูคำวิจารณ์เพิ่มเติม
http://majles.alukah.net/t68466/

تفنيد النقول التي يحتج بها الجهمية على نفي علو الله على خلقه
بسم الله الرحمن الرحيم هذه بعض النقول التي يستدل بها الجهمية على نفي علو الله تعالى سبحان الله وتعالى عما يقولون علوا كبيرا ، ولا يعتمدنَّ أحد على نقلهم حتى ينظر هو بنفسه في الكتب ، فهم دجالون كذابون يضعون الأقوال ويحرفون الكلم عن مواضعه ، ويكفي في الرد على هذه النقول أنها ليست من كلام الله تعالى ول…

majles.alukah.net
تفنيد النقول التي يحتج بها الجهمية على نفي علو الله على خلقه
بسم الله الرحمن الرحيم هذه بعض النقول التي يستدل بها الجهمية على نفي علو الله تعالى سبحان الله وتعالى عما يقولون علوا كبيرا ، ولا يعتمدنَّ أحد على نقلهم حتى ينظر هو بنفسه في الكتب ، فهم دجالون كذابون يضعون الأقوال ويحرفون الكلم عن مواضعه ، ويكفي في الرد على هذه النقول أنها ليست من كلام الله تعالى ول…
majles.alukah.net


..................................................
ชี้แจงโดย Ah-lulquran Was-sunnah
ทหารของอัลลอฮฺ แบบฉบับนบี รวบรวม






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น