อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2557

หัวใจ.....ที่เปี่ยมสุข


ทุกวันนี้ ม่แต่คนบ่นว่าเครียด กลุ้มใจ หนักใจ ไม่รู้ว่าเอาอะไรไปเก็บใส่ไว้ในใจ
สมัยก่อน ไม่ได้ยินใครพูดว่าเครียด เดี๋ยวนี้ เด็กนักรเียนเครียดโดดตึกตาย อะไรกันนักกันหนา ทำอย่างไรจึงจะมีความสุขและไม่เครียด
ความสุขในจิตใจ ก็คือความสงบสันติที่แท้จริง เป็นความสุข ที่คนอื่นมองไม่เห็น คนร่ำรวยมีทรัพย์สมบัติมาก ก็มีความสุขมาก มีความสุขได้ถ่้าไม่หลงในทรัพย์สมบัติ และได้ใช้จ่ายในทางที่ถูกต้อง
ความสุขไม่ใช่สิ่างที่ซื้อหามาได้ ความสุขเกิดจากความพอเพียงพอใจในสิี่งที่ตนได้รับ พอใจในสิ่งที่ตนมี ยอมรับทุกด้าน ไม่ว่ามีมากหรือน้อย หรือว่าขาดแคลน ยอมรับและแก้ไขอย่างใจเย็นพร้อมกับขอดุอาอฺต่ออัลลอฮฺ (ซ.บ.)
ความสุข คือ การรู้สึกรักตัวเอง และทำประโยชน์ให้แก่คนอื่น ทำประโยชน์ให้แก่คนที่เราชอบ เรารัก มีความเมตตาอารีต่อคนยากไร้ หรือว่าให้กำลังใจแก่คนที่ทำงานในหนทางของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ชีวิตจะมีคุณค่า ก็ต้องรู้สึกว่าตนเองและครอบครัวมีคุณค่า อย่าดูถูกตนเองและผู้อื่น
ความสุข เกิดจากการมองคนในแง่ดี พอใจในความเป็นอยู่และสุขภาพของตน ไ้ดทำสิ่งทีี่ชอบ และมีความพอใจผู้ร่วมงาน
ความสุข คือการเห็นลูกหลานเป็นคนดี ดำเนินชีวิตอยู่ในแนวทางที่อัลลอฮฺ (ซ.บ.) โปรดปราน พอใจที่ลูกหลานอยู่ใกล้ชิด ได้รับการเอาใจใส่จากลูกหลาน เราก็มีใจรัก ใจเอ็นดูต่อลูกหลาน
ความสุข อาจจะเกิดจากการทำสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เสร็จ เช่น ตัดเย็บเสื้อผ้าเสร็จ อ่านอุลกุรอานเสร็จ ทำงานบ้านเสร็จ ทำความสะอาดบ้านเสร็จ เขียนหนังสือเสร็จ หรือว่าปลูกต้นไม้ ทำอาหารเสร็จ การออกกำลังกายทำให้ใจสงบสุข
ความสุข คือ ความรู้สึกพอใจ จิตใจสบาย คนทีี่นึกถึงอัลลอฮฺ (ซ.บ.) มีตักวายำเกรงตลอดเวลาก็ทำให้จิตใจสงบสุข ความสุขนี่อาจได้จากการพูดคุยเรื่องราวของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ได้ฟังคนอ่านอัลกุรอานไพเราะ ถูกต้องตามหลักตัจวัด
ความสุข ที่ได้ทำความดีที่อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงสั่ง หรือว่าช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก ช่วยสนับสนุนกิจการของผู้อื่น ความสุขที่ได้คบกับคนทุกวัย ไม่ว่าเด็กเล็ก คนชรา คบกับคนได้ทุกฐานะ คบกับคนที่มีน้ำใจ มีความเอื้ออารี มามารยาทดี และมีอัธยาศัยดีก็เป็นความสุข
การให้อภัยคน จิตใจก็จะเกิดสุขเหมือนกัน แต่ว่ายังไม่สุขในใจจริง ถ้ายังไม่เห็นการตอบรับในการอภัย ก้ต้องให้อภัยจนเขารู้สึกว่าเราอภัย และก็ปฏิบัติดีต่อเรา เราจึงจะมีความสุขจริง
ความสุขในจิตใจ เป็นสิ่งที่อัลลอฮฺ (ซ.บ.) เป็นผู้ประทานให้เพราะว่าใจเป็นของพระองค์ หลังจากละหมาดแล้ว ขอดุอาฮฺแล้วใจก็จะสงบสุข
คุณยายมีเรื่องเบา ๆ มาเล่าให้ฟัง เป็นเกร็ดความรู้ประวัติศาสตร์ ตแ่เป็นเรื่องจริงที่เป็นข้อคิด เรื่อง "ความพอใจนำมาซึ่งความสุข"
มีเจ้าเมืองคนหนึ่ง ออกไปเที่ยวตากอากาศ ในขณะที่เดินเข้าไปในทุ่งนา ก็ไปพบผู้ชายคนหนึ่งกำลังไถนาอยู่ด้วยใบหน้าอันเบิกบานสบายใจมาก ปากเขาก็ครวญเพลง มือก็ทำงาน พอเจ้าเมืองเห็น ก็นึกแปลกใจว่า เอ ! ชายคนนี้พอใจในงานหนักนี่ เขามีอะไรนะ จึงแวะเข้าไปถาม
ถามว่า "นี่ท่าน ฉันเห็นท่านทหำงานด้วยความพออกพอใจ นี่เป็นพื้นที่ของท่านเองหรือ ?"
ชายคนนั้นก็ตอบว่า "เปล่าหรอก ข้าพเจ้ารับจ้างเขาทำเพราะว่าข้าพเจ้าเป็นชาวนาที่ยากจน"
เจ้าเมืองก็ถามต่อไปว่า "ท่านได้ค่าจ้างเท่าไรล่ะ ?"
ชายคนนี้ก็ตอบว่า "ก็ได้ค่าจ้างวันละ 10 กุรุซ เท่านั้นล่ะ"
ท่านเจ้าเมืองก็ถามต่อว่า "รายได้เท่านี้จะพอใช้หรือ ?"
ชาวนาก็ตอบว่า "พอใช้ในการครองชีพและก็ยังเหลืออีกในสิ่งที่จำเป็นอีกหลายอย่าง"
เจ้าเมืองชักสงสัยในคำตอบก็บอกว่าให้ชี้แจงให้ฟังซิว่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
ผู้ชายคนนั้นก็ตอบว่า "(1) ใช้หนี้เก่า 2 กุรุซ (2) ค่าครองชีพ 4 กุรุซ (3) ให้ย่ืม 2 กุรุซ (4) ใช้จ่ายในหนทางของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) 2 กุรุซ
หนี้เก่าคือบ้านที่ข้าพเจ้าอยู่เวลานี้มีคนชราอยู่ 2 คน ก่อนนี้เขาเคยอุปการะเลี้ยงดูข้าพเจ้ามาตั้งแต่เล็กจนใหญ่ แต่เวลานี้เขาชราลงไปมากแล้วไม่สามารถจะประกอบการงานได้ คนทั้งสองนั้น คือ บิดามารดาของข้าพเจ้าเอง ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ข้าพเจ้าจะค้องเลี้ยงดู
ข้อสอง ค่าครองชีพคือค่าบริโภคกินอยู่สำหรับตัวข้าพเจ้ากับภรรยานั่นเอง
ข้อสาม การให้ยืมก็คือว่าในบ้านของข้าพเจ้ามีคนอีก 2 - 3 คน อยู่ในวัยเล็กมากทีเดียว ไม่สามารถประกอบการงานได้ เป็นภาระที่จะต้องเลี้ยงดูจนกว่าเขาจะเติบโดตสามารถประกอบการงานได้ เขาเหล่านั้นต้องได้รับการเลี้ยงดูจากเราต่อไป เด็ก ๆ เหล่านั้นคือบุตรของข้าพเจ้าเอง
จ่ายไปในทางของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) คือในบ้านของข้าพเจ้านอกจากบิดามารดา บุตร ภรรยา แล้วยังมีอีก 2 คนที่อายุมากแล้ว ร่างกายอ่อนแอไม่สามารถจะประกอบการงานได้ ตกเป็นหน้าที่ของข้าพเจ้าที่จะต้องเลี้ยงดูอีก ทั้งสองคนนั้นคือพี่สาวของข้าพเจ้าเอง"
เจ้าเมืองได้ฟังแล้วก็รู้สึกพอใจมากก็เลยประทานเงินให้ 50 กุรุซ
ระยะเวลาที่มนุษย์เราจะอยู่บนโลกนี้ได้อย่างมากก็เพียง 80 ปี เวลาที่จะประกอบการงานได้อย่างดีที่สุดคงไม่เกิน 30 - 40 ปี
ในยามนี้ก็นับว่าเป้นนาทีทองทั้งนั้น มนุษย์ทุกคนจึงไม่ควรปล่อยชีวิตในระหว่างนี้ให้บินไปโดยปราศจากสิ่งตอบแทน ควรพยายมก้าวหน้าต่อไป
แต่การก้าวหน้าก็ต้องพยายามใช้ความระมัดระวังให้มาก พร้อมทั้งต้องประมาณตนให้ดี ถ้าก้าวไปโดยเลินเล่อหรือว่าขาดการประมาณตนก็ต้องพบกับความพลาดพลั้งได้
เมื่อเห้นว่าเรายังมีกำลังไม่พอที่จะก้าวต่อไปก็ควรจะหยุดยั้งรอโอกาสต่อไปจะดีกว่า ทรัพย์สินที่เราได้มาถ้าหากว่าเรารู้จักกระเหม็ดกระแหม่ใช้เฉพาะที่จำเป็นการอำนวยประโยชน์ให้อย่างใหญ่หลวงทีเดียว
มีหะดีษของท่านนบีมุฮัมมัด (ซ.ล.) รายงานโดยท่านมุสลิม ท่านนบีมุฮัมมัด (ซ.ล.) กล่าวว่า
"น่าประหลาดสำหรับงานของผู้ศรัทธา ความจริงงานของเขาทั้งหมดเป็นความดีทั้งนั้น เช่นที่กล่าวนี้จะไม่ได้แก่ใครเว้นแต่ผู้ศรัทธา หากว่าเขาได้รับความปลื้มใจ เขาก็ขอบคุณอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ก็เป๋ยตงสใดรแกาเชส หากว่าเขาได้รับความเดือดร้อน หรืออั้นตรายเขาก็อดทน ก็เป็นความดีแก่เขาอีก"
นี่่ก็เป็นคำกล่าวของท่านนบีที่ว่า ไม่ว่าเราจะมีความปลื้มใจหรือว่าเรามีความเดือดร้อน เราก็จะต้องขอบคุรอัลลอฮฺ (ซ.บ.) และอดทน ในหะดีษนี้บอกว่า สิ่งเหล่านี้จะได้แก่ผู้ศรัทธา
คือ มุอ์มินนั่นเอง
.........................................
.
(จากหนังสือ : ของขวัญจากคุณยาย)
ซัยหนับ เพชรทองคำ : เขียน
อดทน เพื่อชัยชนะ โพส





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น