อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2557

หัวใจ.....ที่รู้คุณ


่ความกตัญญูกตเวที คือ ความรู้สึกถึงความดีของผู้อื่นและตอบแทนคุณอยู่เสมอ ไม่ว่าความดีนั้นจะมากน้อยเพียงใดก็ตาม
ความกตัญญูเป็นคุณสมบัติของผู้ศรัทธา
ความกตัญญูประการแรกของผู้ศรัทธา คือ ความกตัญญูกตเวทีต่ออัลลอฮฺ (ซ.บ.) เราไม่ตั้งสิ่งหนึ่งสิ่งใดเทียบเคียงพระองค์
พระองค์ทรงบังเกิดเราให้เราได้เป็นมุสลิม ให้อิสลามเป็นศาสนาและให้ท่านนบี (ซ.ล.) เป็นผู้นำทางแก่เรา ให้อัลกุรอานเป็นทางนำ พระองค์ประทานสติปัญญาความสามารถทางสมองให้แก่เรา ให้เราพิจารณาใคร่ครวญความดีความชั่ว
นอกจากนี้ก็ให้เครื่องยังชีพแก่เรา ที่เห็นชัด จ่อจมูกเรา คือ ให้ลมหายใจ ลมชีวิตทีเดียว
เราต้องกตัญญูกตเวทีัต่อพระองค์เป็นข้อแรก และก็เป็นข้อใหญ่ด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งในอัลกุรอาน และคำแนะนำสั่งสอนแบบอย่างของท่านนบีมุฮัมมัด (ซ.ล.) สิ่งใดที่ใช้ก็ต้องปฏิบัติ และห่างไกลจากข้อห้ามและความชั่วทั้งปวง ไม่ละเมิดสิทธิของมนุษย์ มีจริยธรรมอันดีงามตามแบบฉบับของท่านนบี (ซ.ล.) มีการทำอิบาดะฮฺให้ครบถ้วน
กตัญญูต่อท่านนบี (ซ.ล.) ก็คือการศึกษาประวัติแนงทางดำเนินชีวิตของท่าน นำมาปฏิบัติฟื้นฟูทุก ๆ ด้าน ทั้งด้านการกินอยู่หลบนอน และการสังคม พูดจา และอื่น ๆ อีกมากมาย
ประการที่สอง มีความกตัญญูต่อพ่อแม่ คือ สำนึกในการเลี้ยงดูท่าน ความกตัญญูต่อพ่อแม่เป็นคำสั่งของอัลลอฮฺ (ซ.บ.() มีในอัลกุรอาน เป็นที่สองรองจากการให้ปกิบัติตามคำสั่งของพระองค์ ้ตองเชื่่อฟังและปฏิบัติตามคำสอน มีมารยาทดีปรนนิบัติพ่อแม่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ดูแลเวลาเจ็บไข้ เวลามีปัญหาก็ขอคำปรึกษาและเอาอกเอาใจอย่างใกล้ชิด พ่อแม่จะมีความสุข สบายใจ
ลูกหลานจะทดแทนบุญคุณพ่อแม่ได้ก็เวลาที่ท่านมีชีวิตอยู่ โอกาสสำคัญที่จะทำดีทุกอย่าง เมื่อตอนแก่ชราหูตามัว ให้สนในเอาใจใส่ ให้อาหาร สิ่งของเครื่องนุ่งห่มเล็ก ๆ เจ็บไข้ก็พาไปหาหมอ จัดยาให้รับประทาน เพราะคนชนราหูตาเสื่ท อาจทานยาผิด กินผิดกินถูก มีอันตรายมาก
พ่อแม่อาจไม่ต้องการอะไรมากนัก แต่จะมีความสุขใจสบายใจมากที่เห็นลูกเป็นคนดี มีเมตตา มีกตัญญู มีศาสนา และลูกก็เป็นคนดีของอัลลอฮฺฺ (ซ.บ.) ด้วย การพูดกับท่านก็ต้องลดเสียง ไม่พูดเสียงดัง ให้พูดเสียงปานกลาง พูดอย่างอ่อนหวาน และไม่ทำให้ท่านเสียใจ ในอัลกุรอาน ซูเราะฮฺลุกมาน อายะฮฺที่ 14
ความว่า "และเราได้สั่งการแก่มนุษย์เกี่ยวกับบิดา มารดาของเขา โดยที่มารดาของเขาได้อุ้มครรภ์เขาอ่อนเพลียลงครั้งแล้วครั้งเล่า และการหย่านมของเขาในระยะเวลาสองปี เจ้าจงขอบคุณข้า และบิดา มารดาของเจ้า ยังเรานั้น คือการกลับไป"
คือทุกคนจะต้องกลับไปหาพระองค์ และอายะฮฺที่ 15
ความว่า "และถ้าเขาทั้งสองบังคับเจ้าให้ตั้งภาคัต่อข้า โดยที่เจ้าไม่มีความรู้ในเรื่องนั้น เจ้าอย่าได้เชือ่ฟังปฏิบัติตามเขาทั้งสอง และจงอดทนอยู่กับเขาทั้งสองในโลกนี้ด้วยการทำความดี และจงปฏิบัติตามทางของผู้ที่กลับไปสู่ข้า และยังข้านั้นคือทางกลับของพวกเจ้า ดังนัึ้นข้าจะบอกแก่พวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำไว้"
นอกจากนี้ก็ต้องมีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณอื่น ๆ อีก ที่เขาทำดีต่อเรา เช่น ครูบาอาจารย์ผู้ให้ความรู้ ลุงป้าน้าอา ปู่ย่าตายาย และผู้ที่มีพระคุณอื่น ๆ อีก
เราจะเป็นเพื่อนที่ดีกับเขา นับถือเขา ไม่ละเลยความดีของเขา ผู้ใดทำดีต่อเรา เราก็จะเก็บไว้ในใจ เมื่อมีโอกาสก็จะตอบแทนทัน จะเป็นด้วยวาจา ด้วยความเอื้อเฟื้อ และเป็นสิ่งของ แม้กระทั้งในจิตใจ
นอกจากนี้ควรมีความกตัญญูต่อประเทศชาติแผ่นดินที่เกิด ต้องทำตนให้ดี ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง และแก่ผู้อื่นในแผ่นดินที่ตนอยู่
การรู้คุณคน และมีความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีคุณดังกล่าวมาแล้ว คือ ต่ออัลลอฮฺ (ซ.บ.() นี่เป็นข้อใหญ่ ต่อพ่อแม่ ญาติพี่น้องที่ใกล้ชิด และบุคคลอื่น การตอบแทน การปฏิบัติของคนเราก็ไม่เหมือนกัน ต่างวัยกัน ก็ทำและคิดไม่เหมือนกัน
ความดีนั้นขึ้นอยู่กับเจตนาด้วย เด็ก ๆ เราใช้เขาทำอะไรเขาก็ปฏิบัติตาม ก็เป็นการเชื่อฟังแล้ว ก็เป็นคนดีมีีความกตัญญูแล้ว แล้วแต่ว่าจะมีีความสามารถแค่ไหน
บางคนต้องจากพ่อแม่ไปมีธุรกิจมาก ยุ่งมาก ปี เดือน ก็ไม่มีโอกาสพบกับพ่อแม่เลยสักครั้งหนึ่ง ส่งแต่เงินมา ส่งแต่วัตถุมาให้ ก็เป็นความดีเหมือนกันแต่ห่างไกลไปหน่อย
มุสลิมต้องมีความกตัญญู แต่ต้องอยู่ในขอบเขตของศาสนา คือกตัญญูต่ออัลลอฮฺ (ซ.บ.) เป็นข้อแรก และก็รักษากฎเกณฑ์ของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ด้วย ถ้าจะกตัญญูต่อผู้อิื่น โดยทำตสใคำสั่งที่ขัดต่อคำสั่งของพระองค์ มุสลิมก็ปฏิบัติไม่ได้
ความกตัญญูเป็นสมบัติของผู้ศรัทธา ความรู้สึกกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ คืออัลลอฮฺ (ซ.บ.) ท่านนบีมุฮัมมัด (ซ.ล.) พ่อแม่ พี่ป้าน้าอา ครูบาอาจารย์ เพื่อนบ้าน ประเทศชาติแผ่นดินเกิด ล้วยอยู่ในจิตใจของมุสลิมที่ดีเสมอ
.........................................
.
(จากหนังสือ : ของขวัญจากคุณยาย)
ซัยหนับ เพชรทองคำ : เขียน
อดทน เพื่อชัยชนะ โพส








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น