อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ผ้าคลุมศีรษะดั่งกับตระโหนกของอูฐ



รายงานจากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ (ร.ฎ.) บันทึกโดยอิมามมุสลิม และอิมาม อะห์มัด เป็นหะดีษที่มีสายรายงานถูกต้อง (เศาะฮีหฺ) ประโยคที่ถามมามีสำนวนว่า

....وَنِسَاءٌكَاسِيَاتٌ عَارِيَاتٌ مُمِيْلَاتٌ مَائِلَاتٌ رُؤُوْسُهُنَّ كَأَسْنِمَةِ البُخْتِ الْمَائِلَةِ لايَدْخُلْنَ الْجَنّةَ ولايَجِدْنَ رِيْحَهَا

“และ (จำพวกที่สอง) คือบรรดาสตรีที่สวมใส่เปลือยเปล่าทำให้เอียงโน้มเอียง บรรดาศีรษะของพวกนางเหมือนตระโหนกอูฐที่เดินเอียง พวกนางจะไม่ได้เข้าสวรรค์และพวกนางจะไม่พบกลิ่นของสรวงสวรรค์...” (แปลตามตัว)


ท่านอิมาม อัน-นะวาวียฺ (ร.ฮ.) อธิบายความหมายของถ้อยคำที่ปรากฏในตัวบทอัล-หะดีษนี้ว่า :

-   คำว่า “กาสิยาต” หมายถึง สวมใส่ใช้สอยจากนิอฺมะฮฺ (สิ่งที่อัลลอฮฺโปรดประทานให้) ของอัลลอฮฺ


-   คำว่า “อาริยาตฺ” หมายถึง เปลือยเปล่าคือปราศจากการสำนึกและรู้คุณในนิอฺมะฮฺนั้น บ้างก็ว่า : หมายถึง นางจะปกปิดเพียงบางส่วนของเรือนร่างและจะเปิดเผยบางส่วนให้ปรากฏความงามของนางและอะไรในทำนองนั้น บ้างก็ว่า : นางจะสวมใส่เสื้อผ้าที่บางซึ่งบ่งลักษณะสีผิวเรือนร่างของนาง


-   คำว่า “มาอิลาตฺ” บ้างก็ว่า หมายถึง เอนเอียงออกจากการภักดีเชื่อฟังอัลลอฮฺ (ซ.บ.) และสิ่งที่พวกนางจำต้องรักษาเอาไว้โดยเคร่งครัด


-   คำว่า “มุมีลาตฺ” หมายถึง พวกนางจะทำให้คนอื่นๆ รู้ถึงการกระทำที่ถูกตำหนิของพวกนาง บ้างก็ว่าพวกนางจะเดินในสภาพที่หยิ่งยะโสโอหัง โดยทำให้หัวไหล่ของพวกนางด้วยลักษณะที่เอียงไปทางด้านข้าง อันเป็นลักษณะการเหวี่ยงของหญิงโสเภณี หรือ พวกนางจะหวีผมลักษณะเช่นนั้นให้แก่หญิงอื่น


-   คำว่า ศีรษะของพวกนางเหมือนกับตระโหนกของอูฐ หมายถึง พวกนางจะทำให้ศีรษะของพวกนางใหญ่โตเทอะทะด้วยการพันผ้าคลุมหัว (ผ้าสาระบั่น) หรือเศษผ้าที่ใช้พันเป็นแถบหรืออะไรในทำนองนั้น ซึ่งอิมาม อัสสุยูฏียฺ กล่าวว่า เป็นเครื่องหมายของหญิงที่เป็นนักร้อง

ส่วนท่านอัล-มาซิรียฺ กล่าวว่า พวกนางจะทำทรงผมด้วยการถักเปียและขมวดเปียนั้นขึ้นไปบนศีรษะและรวมเป็นก้อนตรงส่วนกลางของศีรษะจึงกลายเป็นเหมือนกับตระโหนกอูฐและทำให้ศีรษะต้องเอียงไปข้างหนึ่ง (ดะลีลุลฟาลิหีน บิ ฏุรุกฺ ริยาฏิสศอลิหีน มุฮัมมัด อิบนุ อัล-ลาน เล่มที่ 4 หน้า 418-419)


ดังนั้น นัยของหะดีษบทนี้จึงพูดถึงสภาพของสตรีในยุคสุดท้ายว่าจะมีลักษณะดังที่กล่าวมาซึ่งเราคงนึกออกเมื่อได้เคยเห็นภาพของดาราหรือนางแบบที่แต่งตัวและทำทรงผมในลักษณะดังกล่าว จึงมิได้หมายถึงมุสลิมะฮฺที่แต่งตัวปกปิดเอาเราะฮฺมิดชิด คลุมฮิญาบ และมิได้มีกริยาท่าทางเช่นนั้นแต่อย่างใด



والله أعلم بالصواب

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น