อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ท่านครูจับแพะชนแกะ แล้วหาว่าอัลบานีย์ ตัดสินว่า อิบนุอุษัยมีนเป็นกาเฟร





เมื่อท่านครูจับแพะชนแกะ แล้วหาว่าอัลบานีย์ ตัดสินว่า อิบนุอุษัยมีนเป็นกาเฟรโดยทางอ้อม

นายอะหมัดรอซีดี อิสมัญ อัลอัชอะรีย์ อ้างว่า
หลักฐานดังกล่าวว่า ตามทัศนะของชัยค์อัลบานีย์ตรงนี้ เขาได้หุก่มตัดสินชัยค์อุษัยมีน ว่าตกเป็นกาเฟร เป็นความเชื่อที่ตกมุรตัดโดยทางอ้อม เนื่องด้วยอุษัยมีนให้ความหมายของคำว่าอิสติวาอฺของอัลลอฮฺเป็นความหมายว่า สถิต[الإستقرار] แต่อัลบานีย์บอกว่า ความหมายสถิต[الإستقرار]เป็นความหมายของมนุษย์ทั่วไป
พี่น้องชาวอะลุสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ที่เคารพรักทุกท่านครับ ตัวผู้โพสเองมิได้หุก่มตัดสินใคร เพราะตัวผู้โพสมิใช่ผู้รู้ เป็นเพียงแต่ผู้ถ่ายทอดจากอุลามาอฺอะลุสซุนนะฮ์ของเราอีกทีหนึ่งเท่านั้น
หลักฐานที่ผู้โพสกล่าวว่า อัลบานีย์ ตัดสิน อุษัยมีน ว่าตกเป็นกาเฟรนั้น มาจากอุลามาอฺผู้ทรงธรรมนามอันยิ่งใหญ่ในด้านหลักความเชื่อแห่งยุคสะลัฟศอลิห์(300ปีแรก)คือท่านชัยค์อิหม่ามอัฏเฏาะฮฺฮาวี่ย์(ร.ฎ.) ท่านได้หุก่มตัดสินว่า
ومن وصف الله بمعنى من معاني البشر , فقد كفر
“ และผู้ใดที่พรรณนาอัลลอฮฺด้วยความหมายหนึ่งจากบรรดาความหมายของมนุษย์ ถือว่าเขาผู้นั้นตกเป็นกาเฟรแล้ว ”
>>>>>>>
ชี้แจง
ไม่มีสักอักษรเดียวที่อัลบานีย์ตัดสิน ชัยค์ อิบนุอุษัยมีนเป็น กาเฟร
และอัลบานีย์ก็ไม่ได้เอาคำพูดของอิหม่ามอัฏฏอฮาวีย์ข้างต้น มาตัดสิน อิบนุอุษัยยมีน ไม่มีเลย แต่ นายอะหมัดรอซีดี อิสมัญ อัลอัชอะรีย์ เองเอามาประกอบ แล้วอ้างอัลบานีย์ว่าตัดสินเช็คอิบนุอุษัยมีนว่าเป็นการเฟร
สำหรับคำพูด ของอิหม่ามอัฏฏอฮาวีย์ ข้างล่าง นายอะหมัดรอซีดี อิสมัญ อัลอัชอะรีย์
ก็ไม่เข้าใจ แล้วมักจะนำมาอ้างโจมตีคนที่แปลความหมายอายะฮหรือหะดิษสิฟาต
ومن وصف الله بمعنى من معاني البشر , فقد كفر
“ และผู้ใดที่พรรณนาอัลลอฮฺด้วยความหมายหนึ่งจากบรรดาความหมายของมนุษย์ ถือว่าเขาผู้นั้นตกเป็นกาเฟรแล้ว ”
...........
มาดูปราชญ์ตัวจริงเขาอธิบาย คำพูดอิหม่ามอัฏเฏาะฮาวีย์ข้างต้นดังนี้
มาดูคำอธิบายของ อิบนุอะบิลอิซ อันหะนะฟีย์ ว่า
نَبَّهَ بَعْدَ ذَلِكَ عَلَى أَنَّهُ تَعَالَى بِصِفَاتِهِ لَيْسَ كَالْبَشَرِ ، نَفْيًا لِلتَّشْبِيهِ عَقِيبَ الْإِثْبَاتِ ، يَعْنِي أَنَّ اللَّهَ تَعَالَى وَإِنْ وُصِفَ بِأَنَّهُ مُتَكَلِّمٌ ، لَكِنْ لَا يُوصَفُ بِمَعْنًى مِنْ مَعَانِي الْبَشَرِ الَّتِي يَكُونُ الْإِنْسَانُ بِهَا مُتَكَلِّمًا ، فَإِنَّ اللَّهَ لَيْسَ كَمِثْلِهِ شَيْءٌ وَهُوَ السَّمِيعُ الْبَصِيرُ
หลังจากดังกล่าว (หลังจากที่กล่าวว่า อัลกุรอ่านกะลามุลลอฮ จริงๆ) เขาได้ เตือนให้ระวัง ว่า แท้จริงอัลลอฮตะอาลา ด้วยบรรดาคุณลักษณะของพระองค์นั้น ไม่เหมือน กับมนุษย์ ,เป็นการปฏิเสธ การคล้ายคลึง หลังจากที่ได้ยืนยัน หมายถึง แท้จริง อัลลอฮตะอาลา นั้น และแม้ว่า ทรงถูกพรรณนาคุณลักษณะว่าแท้จริง พระองค์ คือ ผู้ทรงพูด แต่ พระองค์จะไม่ถูกพรรณาคุณลักษณะ ด้วยความหมาย จากบรรดาความหมายของมนุษย์ ที่บรรดามนุษย์ เป็นผู้ที่พูดด้วยมัน เพราะแท้จริง อัลลอฮ ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์ และพระองค์คือผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็นยิ่ง –ชัรหุอะกีดะฮอัฏเฏาะหาวียะฮ 1/207
................
สรุปคือ แม้ว่าอัลลอฮจะถูกพรรณนาด้วยคุณลักษณะ ว่า เป็นผู้ทรงพูด แต่ไม่ได้หมายความว่า เหมือนการพูดของมนุษย์ เพราะทรงไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน ผมขอยกตัวอย่างเช่น อัลลอฮ ทรงเป็นผู้ทรงเห็น ทรงได้ยิน แต่ไม่ได้มีความหมายว่า เห็น และได้ยินเหมือนมนุษย์ และคุณลักษณะอื่นๆก็เช่นกัน นี่คือความหมายของคำพูดของอิหม่ามอัฏฏอฮาวีย์ ไม่ใชหมายถึง ห้ามแปลความหมายที่มนุษย์แปลกัน
เพราะฉะนั้นการที่ นายอะหมัดรอซีดี อิสมัญ อัลอัชอะรีย์ เอาคำพูด อิหม่ามอัฏฏเฏาะฮาวีย์ มาเป็นเครื่องมือ ยัดเหยียดว่า ชัยค์อัลบานีย์ตัดสิน ชัยค์อิบนุอุษัยมีนว่าเป็นการเฟานั้น เป็นการไร้อามานะฮ และก่อฟิตนะฮทางวิชาการโดยแท้ วัลอิยาซุบิลละฮ
และนี่คือ คำพูดของอัลบานีย์
لا يجوز استعمال ألفاظ لم ترد في الشرع , لا يجوز أن يوصف الله بأنه مستقر , لأن الإستقرار أولا ً : صفة بشرية
โดยอัลบานีย์ กล่าวว่า“ ไม่อนุญาติให้ใช้บรรดาคำต่างๆที่มิได้มีรายงานระบุมาจากศาสนา , ไม่อนุญาติให้พรรณนาคุณลักษณะให้แก่อัลลอฮฺว่าพระองค์นั้นทรง อิสติวาอฺ “ สถิต ” [ مستقر ] เพราะอันที่จริงความหมายของคำ อิสติวาอฺ โดยประการแรกเลยนั้นคือ เป็นคุณลักษณะของมนุษย์ทั่วไป ”
อ้างอิงหนังสือ เมาซูอะฮ์ อัลอัลลามะฮ์ อัลอิหม่าม มุญัดดิด อัลอัศร์ ... กิตาบ อัลอัสมาอฺ วัศศิฟาต ยุซฺ 1 หน้า 344
มันคือ การเห็นต่างในความหมาย ของคำ ระหว่างอุลามาอฺทั้งสองท่าน แล้วมีชัยฏอน มาสร้างความสับสนให้แก่คนอาวามว่า "ชัยค์อัลบานีย์ ตัดสิน ชัยค์อิบนุอุษัยมีน ว่าเป็นกาเฟร โดยทางอ้อม โดยเอาคำของอิหม่ามอัฏเฏาะฮาวีย์มาสอดใส้ นะอูซุบิลละฮ โต๊ะครูพันธ์นี้ไม่เคยพบเคยเห็นมันจริงๆ
والله أعلم بالصواب

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น