“ได้ยินไหม โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย ?” เป็นหนังสือที่เรียบเรียงขึ้นมา โดยการรวบรวมอายะฮฺอัลกุรอานที่อัลลอฮฺทรงเรียกบ่าวของพระองค์ด้วยกับสำนวน “โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย” ซึ่งมีทั้งหมก 90 อายะฮฺหรือ 90 คำเรียกร้อง ซึ่งในการเรียบเรียงหนังสือในครั้งนี้ได้มีการนำเสนอเนื้อหาสาระและข้อคิดต่าง ๆ ที่ได้รับจากคำเรียกร้องดังกล่าว ที่ผ่านการศึกษา การวิเคราะห์ และพินิจใคร่ครวญจากตำรับตำราต่าง ๆ รวมถึงจากมุมมองของบรรดานักวิชาการทั้งในอดีตและปัจจุบัน...
(ข้อความส่วนหนึ่งจาก “คำนำของผู้เรียบเรียง” หนังสือ : ได้ยินไหม โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย ?”)
//////////////////////////////////////////////////////
...... คำเรียกร้องที่ 1 .....
การมีมารยาทต่อท่านรสูลุลลอฮ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และห้ามเลียนแบบพฤติกรรมของผู้ปฏิเสธศรัทธา
อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ดำรัสว่า
ความว่า “โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย จงอย่าพูดว่า รออินา แต่จงพูดว่า อุนซุรนา และจงฟัง และสำหรับผู้ปฏิเสธการศรัทธานั้น คือการลงโทษอันแสนเจ็บปวด” (สูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺ : 104)
@@@@ เนื้อหาสาระและข้อคิดที่ได้รับจากคำเรียกร้อง @@@@
**** อัลลอฮฺทรงเรียกบรรดาผู้ศรัทธาด้วยคุณลักษณะเฉพาะที่แตกต่างไปจากผู้อื่น คือคุณลักษณะที่มีความผูกพันกับองค์อภิบาลและศาสนทูตของพวกเขา คุณลักษณะที่ความศรัทธาได้ซึมซับเข้าสู่หัวใจของพวกเขาด้วยการตอบรับองค์อภิบาลและศาสนทูตของพระองค์
****.คำว่า “รอฮินา” เป็นคำที่บรรดาเศาะหาบะฮฺเคยใช้กับท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เพื่อต้องการที่จะให้สนใจฟังในสิ่งหนึ่งสิ่งใด ด้วยคำพูดที่ว่า “รออินา ยารสูลุลลอฮฺ” ซึ่งหมายความว่า “ขอความกรุณาฟังเราสักนิดหนี่ง โอ้ท่านศาสนทุตของอัลลอฮฺ” แต่คำนี้จะมีความหมายอื่นด้วยเช่นกัน เช่น ในภาษาฮิบรูมีคำที่ออกเสียงคล้ายกับคำนี้และมีความหมายว่า “จงฟัง ขอให้เจ้าจงหูหนวก” ยิ่งไปกว่านั้น ในภาษาอาหรับมันยังหมายความอีกด้วยว่า “คนโง่แกมหยิ่ง” นอกจากนี้แล้ว ในภาษาที่ใช้ในการสนทนาของคนสนิทสนมกันยังหมายถึง “ถ้าหากท่านฟังเรา เราก็จะฟังท่าน” แล้วถ้าหากบิดลิ้นให้ออกเสียงผิดเพี้ยนไปนิดหนึ่งเป็น “รออิยะนา” มันก็จะหมายความว่า “เด็กเลี้ยงแกะของเรา” ดังนั้น เพื่อที่จะป้องกันการใช้คำพูดกำกวมที่ฟังดูดีแต่อาจจะมีคนชั่วนำไปใช้ในทางผิด บรรดาผู้ศรัทธาจึงได้ถูกแนะนำให้พูดว่า “อุนซุรนา” ซึ่งแปลว่า “จงฟังเรา” ซึ่งจะมีความหมายที่ตรงกว่าและไม่มีความมายที่เลวแอบแฝงอยู่
**** การใช้วิธีการพลิกแพลงคำพูดหรือใช้ถ้อยคำที่กำกวมหรือไม่ก็บิดเบนมันให้เป็นการดูถูกโดยการออกเสียงให้ผิดไปเล็กน้อยของชาวยิวที่มีต่อท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม นั้นก็เพื่อเป็นการดูถูกและเหยียดหยาม รวมถึงเพื่อตอบสนองความโกรธแค้นและความอิจฉาริษยาของพวกเขาที่มีท่านและบรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย การห้ามที่ถูกนำมากล่าวในสถานการณ์นี้ทำให้เราเข้าใจได้ว่า อัลลอฮฺทรงปกป้องท่านศาสนทูตของพระองค์และทรงปกป้องบรรดาผู้ศรัทธาและเป็นการป้องกันคนที่พระองค์ทรงรักไว้ ให้รอดพ้นจากกลอุบายและเจตนาร้ายของศัตรูเจ้าเล่ห์ทั้งหลายมาตลอด
****ผู้ศรัทธาเมื่อจะพูดหรือกล่าวถึงท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม สมควรที่สุดที่จะต้องมีการเลือกสรรคำพูดที่คู่ควรกับตำแหน่งอันสูงส่งของท่าน
**** เมื่อท่านนบีถูกด่าทอ ใส่ร้าย หรือล้อเลียนเป็นหน้าที่สำหรับผู้ศรัทาทุกคนที่จะต้องยอมเสียสละทั้งชีวิตและทรัพย์สินเพื่อปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของท่าน
****การเป็นศัตรูระหว่าวชาวยิวกับมุสลิมจะมีตราบจนถึงวันกิยามะฮฺ ฉะนั้นย่อมเป็นภารกิจสำหรับผู้ศรัทาที่จะต้องตระเตรียมตัวเองใมหพร้อมในทุกสถานการณ์ เพื่อนำชัยชนะกลับมาสู่อิสลาม
**** ไม่อนุญาตให้ผู้ศรัทธาเลียนแบบผู้ปฏิเสธศรัทธา ทั้งในด้านคำพูด อิริยาบถหรือการกระทำ การแต่งกาย การเฉลิมฉลอง การปฏิบัติศาสนกิจ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่ศาสนาไม่บัญญัติให้แก่เราและไม่อนุญาตให้ปฏิบัติ
**** ความแตกต่างระหว่างผู้ศรัทธากับผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาไม่ใช่เพียงเชื่อว่าพระเจ้านั้นมีจริงหรือไม่เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นความแตกต่างในการเชื่อฟังและการตอบสนองในคำสั่งสอนหรือบทบัญญํติของอัลลอฮฺอีกด้วย
………………………………………………………..
เรียบเรียง โดย : อบูอิบานะฮฺ ฟิตยะตุลฮัก
(จากหนังสือ : ได้ยินไหมโอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย ? [หนังสือที่รวบรวม 90 คำเรียกร้องสำหรับผู้ศรัทธา] )
อดทน เพื่อชัยชนะ โพสต์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น