อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

มีสื่อใดบ้างออกข่าว คือก่อการร้าย


".. มีสื่อใดบ้างออกข่าวนี้ มีสื่อใดบ้างเรียกพฤติกรรมนี้ว่า "ก่อการร้าย" หรือ "หัวรุนแรง" ?? และหากผู้ต้องหาเป็นมุสลิมล่ะ สื่อจะแสดงท่าทีอย่างไร ?? .."
... ขออัลเลาะฮฺซ.บ.โปรดทรงอภัยโทษและเมตตาผู้เสียชีวิตทั้งสามท่านนี้ด้วยเทอญ อามีน อามีน อามีน ...
(เหตุเกิดที่ประเทศสหรัฐอเมริกา)
มุสลิมทั้งครอบครัว ถูกจ่อยิงเข้าที่ศีรษะเสียชีวิตทั้ง 3 คนที่อพารต์เมนท์ในอเมริกา
สำนักงานสอบสวนประจำรัฐนอร์ท แคโรไลนา ได้แถลงว่า “ผลการสอบสวนเบื้องต้นนั้นเป็นการบ่งชี้ว่าอาชญากรรมในครั้งนี้ มีแรงจูงใจจากเหตุทะเลาะเบาะแว้งกันมาช้านานระหว่างเพื่อนบ้านเกี่ยวกับเรื่องที่จอดรถ แต่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้งสามคนนั้นได้ยืนยันว่า มันเป็นอาชญากรรมที่ก่อเกิดจากความเกลียดชัง
“การสังหารโหดในครั้งนี้ไม่ใช่การทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่องที่จอดรถอย่างแน่นอน นี้คืออาชญากรรมจากความเกลียดชัง” นายมูฮัมหมัด อบู ซัลฮา บิดาของลูกสาวทั้งสองคนที่ถูกยิงจ่อศีรษะจนเสียชีวิต กล่าวกับหนังสือพิมพ์ชื่อ News & Observer โดยเขากล่าวเพิ่มเติมว่า “ชายผู้นี้ได้หาเรื่องลูกสาวของผมและสามีของเขา มาสองสามครั้งก่อนหน้านี้ และชายผู้นี้ได้พูดกับเขาทั้งสอง พร้อมกับโชว์ปืนที่เขาพกมาด้วย และลูกของผมกับลูกเขยรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก แต่ไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่า เขาจะทำอะไรที่ไปไกลขนาดนี้” นายมูฮัมหมัดพร้อมเล่าให้ฟังว่า ลูกสาวของเขาเล่าได้ให้เขาฟังว่า “พ่อค่ะ เขาคนนั้น จงเกลียดจงชังพวกเรา เพราะเครื่องแต่งกายของเรา ที่แต่งตัวแบบมุสลิมค่ะ”
นางสาวซูซาน บารากัต พี่สาวของเหยื่อที่เสียชีวิต ได้เรียกร้องให้ทางการ “สอบสวนเรื่องการถูกฆาตกรรมอย่างโหดร้ายนี้ให้ถึงที่สุด ด้วยข้อหาอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชัง”
ฆาตกรรายนี้ชื่อ “เครก สตีเฟน ฮิกส์” อายุ 46 ปี ถูกควบคุมตัวไว้ที่สถานคุมขังใน เดอร์แฮม เคาน์ตี้ ด้วยข้อหาฆาตกรรม 3 กระทงในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนผู้เสียชีวิต ประกอบด้วย “ดีอาห์ แชดดี บารากัต” อายุ 23 ปี กับภรรยาของเขา “ยูซอร์ อาบู-ซัลฮา” อายุ 21 ปี และน้องสาวของฝ่ายหญิง ชื่อว่า ราซาน อาบู-ซัลฮา อายุ 19 ปีโดยบุกยิงนักศึกษามุสลิมทั้ง 3 คนนี้ ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ใกล้กับมหาวิทยาลัยนอร์ท แคโรไลนา เมืองแชเปิล ฮิลล์ รัฐนอร์ท แคโรไลนา เมื่อประมาณ 17.15 น. ของวันอังคารที่ 11 ก.พ. (ตามเวลาท้องถิ่น)
นายบารากัตเป็นชาวซิเรียอเมริกัน นักศึกษาปีที่สอง ในสาขาวิชาทันตกรรมของมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา โดยเขาและยูซอร์เพิ่งแต่งงานกันเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และฝ่ายหญิงก็มีแผนที่จะลงเรียนสาขาเดียวกันกับสามีของนางในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้ ซึ่งนางได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยเรียบแล้ว ส่วนราซาน อาบู-ซัลฮา น้องสาวของนางยูซอร์ เพิ่งเริ่มเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบสิ่งแวดล้อม ที่มหาลัยนอร์ท แคโรไลนา เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมานี้
ทางด้านนายบารอกัต เคยมีการเรียกร้องและรวบรวมเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวซิเรีย และสองสามีภรรยา ได้เดินทางไปตุรกี เพื่อให้ตรวจรักษาฟันฟรีกับพี่น้องชาวซิเรีย เมื่อปีที่แล้วนี้เอง ก่อนหน้านี้นายบารอกัตเคยเป็นอาสาสมัคร เดินทางไปที่ปาเลสไตน์เพื่อให้การตรวจรักษาฟันฟรีให้กับพี่น้องชาวปาเลสไตน์ด้วยเช่นกัน
“จากลักษณะฆาตกรรมอันเหี้ยมโหดของคดีอาชญากรรมนี้ ประกอบกับข้อความต่อต้านศาสนาที่ผู้ก่อเหตุโพสต์ เครื่องแต่งกายทางศาสนาของเหยื่อ 2 ใน 3 คน และโวหารต่อต้านมุสลิมที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆในสังคมอเมริกัน เราจึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ให้มีการบังคับใช้กฎหมายจากทั้งของรัฐและรัฐบาลกลาง จัดการกับข่าวลือที่ว่าคดีนี้อาจมีแรงจูงใจจากความมีอคติ” นิฮาด อะวัด จากองค์การสภาความสัมพันธ์อเมริกัน-อิสลามิค (CAIR) กล่าวในการแถลงการณ์ในกรณีนักศึกษาทั้ง 3 คนที่ถูกฆาตกรรมหมู่ในครั้งนี้
ส่วนภรรยาของนายฮิกส์ ชื่อคาร์เรน ยืนยันว่าสามีของเขาไม่ได้เกลียดมุสลิม “ดิฉันสามารถที่จะพูดได้อย่างแน่ใจว่า สาเหตุของการฆาตกรรมครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอย่างใดกับความเชื่อทางศาสนาของผู้เคราะห์ร้ายทั้ง 3 คนนี้ แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทะเลาะแบะแว้งกันเรื่องที่จอดรถที่สามีของดิฉันกับเพื่อนบ้าน ซึ่งมีต่อกันมานานแล้ว” นางคาร์เรนได้กล่าวต่อหน้าสื่อของอเมริกา
รูปโปรไฟล์บนเฟซบุ๊คของนายฮิกส์ โพสข้อความแสดงให้เห็นชัดเจนว่า เขาเป็นคนไร้ศาสนา โดยได้มีการอ้างอิงว่าศาสนานั้น ทำให้ก่อให้เกิดปัญหาของการรบราฆ่าฟันกันบนโลกใบนี้
อย่างไรก็ตาม มีผู้คนจำนวนมากกว่า 2,000 คน ร่วมกันออกมาจุดเทียนที่มหาวิทยาลัยนอร์ท แคโรไลนา เมืองแชเปิล ฮิลล์ แคมปัส ร่วมกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต เพื่อรำลึกถึงการจากไปของครอบครัวมุสลิมทั้ง 3 คนนี้ ที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ 11/02/2015
เนื่องจากข่าวที่มุสลิมถูกฆาตกรรมในครั้งนี้ ไม่ได้รับการสนใจจากสื่อกระแสหลักทั่วโลกเท่าใดนัก จึงทำให้มีการกระพือข่าวในโซเชียลมีเดียสื่อสังคมออนไลน์ โดยการติดแฮชแท็ก ‪#‎MuslimLivesMatter‬ และ ‪#‎CallItTerrorism‬
หมายเหตุ – ถ้ามุสลิมถูกฆ่า สื่อกระแสหลักไม่เคยให้ความสนใจ และรัฐบาลของประเทศนั้นๆ จะไม่ต้ังข้อหาว่าเป็นการก่อการร้าย แต่ถ้าเป็นมุสลิมที่เป็นลงมือสังหารแล้วล่ะก็ ทั้งสื่อและรัฐบาลจะช่วยกันประโคมข่าวลงความเห็นในทันทีทันใด โดยไม่มีการสอบสวน ว่าเป็นการก่อการร้าย
ที่มาและรูปภาพต่างๆ :
1. http://www.aljazeera.com/…/muslim-students-killed-north-car…
2. http://www.nytimes.com/…/muslim-student-shootings-north-car…
3. http://www.usatoday.com/…/north-carolina-muslim-s…/23222317/
4. http://www.dailymail.co.uk/…/Thousands-mourners-gather-cand…
5. http://www.independent.co.uk/…/chapel-hill-shooting-three-y…
#MuslimLivesMatter #CallItTerrorism ‪#‎ChapelHillShooting‬









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น