อิสลามสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อิสลามไม่เพียงแต่ส่งเสริม แต่ยังเรียกร้องบรรดาผู้เป็นแม่ทั้งหลายให้เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมจนครบ 2 สำหรับผู้ที่มีความสามารถจะให้ได้ วัยทารกคือช่วงวัยที่เด็กกินนมแม่เป็นอาหารหลักเริ่มตั้งแต่วันแรกที่เกิดไปจนถึงช่วงปลายของขวบปีที่สอง นั่นคือมีระยะเวลาทั้งหมด 2 ปีโดยประมาณ อัลลอฮฺ ซุบหานะฮูวะตะอาลา ได้ตรัสว่า ความว่า “และมารดาทั้งหลายนั้น จะให้นมแก่ลูกๆ ของนางภายใน 2 ปีเต็ม สำหรับผู้ที่ต้องการจะให้ครบถ้วนในการให้นม” (อัล-บากอเราะฮฺ 2 : 233)
ปัจจัยที่ส่งผลอย่างยิ่งต่อนิสัยของเด็กในช่วงวัยนี้ก็คือ การให้นม บรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างยอมรับว่าเด็กทารกนั้น นอกจากจะได้รับประโยชน์จากนมที่เขาดูดแล้วเขายังได้รับอิทธิพลในด้านนิสัยจากแม่นมมาด้วย ผ่านนมที่นางให้เขา มีผู้กล่าวว่า การให้นมนั้นสามารถเปลี่ยนนิสัยได้
สิ่งที่ควรให้ความสำคัญอีกประการคือ ไม่ควรให้นมจากน้ำนมที่หะรอม ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายด้วยค่าตอบแทนที่หะรอม อิมาม อัล-เฆาะซาลีย์ กล่าวว่า แท้จริงน้ำนมที่ได้มาจากสิ่งหะรอมนั้นไม่มีความประเสริฐอยู่เลย เมื่อใดที่ทารกได้รับมันแล้ว เลือดเนื้อของเขาก็จะก่อตัวจากสิ่งที่เลวทราม นิสัยใจคอก็จะเอนเอียงไปสู่สิ่งที่เลวทรามเช่นกัน
การให้นมคือการสื่อสารระหว่างลูกกับแม่ เขาจะรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยในตักและอ้อมแขนทั้งสองของนาง การให้นมไม่เพียงให้ความอิ่มทางร่างกายเท่านั้น แต่ยังให้ความอิ่มทางใจใส่แก่เด็กที่โหยหาความรัก การดูแลเอาใจใส่อีกด้วย
สำหรับการนำน้ำนมจากธนาคารน้ำนมมนุษย์ สภาเพื่อการวิจัยและศึกษาค้นคว้าปัญหาศาสนาแห่งยุโรป ได้กล่าวว่า ไม่มีข้อโต้แย้งในเรื่องของหลักกฎหมายอิสลามที่จะเอาน้ำนมในธนาคารน้ำนมมนุษย์มาใช้ประโยชน์เมื่อมีความจำเป็น การใช้ประโยชน์จากน้ำนมนี้ไม่มีผลผูกพันถึงการห้ามแต่งงาน เพราะการเลี้ยงดูทารกด้วย (เป็นแม่นม) เพราะว่าน้ำนมเหล่านั้นได้ถูกผสมปนเปกัน และก็ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของน้ำนมนั้น
ที่มา : หนังสือการแพทย์และการดูแลผู้ป่วยที่สอดคล้องกับวิถีมุสลิม โดย ยูซูฟ นิมะ, สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น