อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เติมตาชั่งให้เต็มความดีด้วยวิธีง่าย ๆ



………………………………………………..
61. จงรักกันและกันเพื่ออัลลออฺ
ย้ำอีกครั้งกับความรักระหว่างผู้ศรัทธา
ด้วยความรักซึ่งกันและกันจะก่อให้เกิดพลัง
จากนั้นจะทำการสิ่งใดก็สำเร็จผล
อินชาอัลลอฮฺ
ท่านรซูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า “อัลลอฮฺ ตะอาลา จะกล่าวในวันกิยามะฮฺว่า คนที่รักกันเพราะความเกรียงไกรของข้าอยู่ที่ไหน ? ในวันนี้ ข้าจะให้พวกเขาเข้าอยู่ภายใต้ร่มเงาของข้า ในวันที่ไม่มีร่มเงาอื่นใด นอกจากร่มเงาของข้าเท่านั้น” (มุสลิม)
..........................................................................
62. จงหวั่นเกรงต่อนรกอยู่เสมอ
นี่คือสิ่งที่น่ากลัว
เราอาจจะหัวเราะ สนุกสนาน มีความสุขกับเรื่องบางเรื่องบนโลกใบนี้ แต่ก็ควรจะสำนึกอยู่เสมอว่า
เบื้องหน้านั้นมีสวรรค์และนรกรออยู่
ตรวบใดที่เรายังไม่แน่ใจว่าจะเป็นชาวสวรรค์หรือชาวนรก
เสียงหัวเราก็ไม่ควรดังนัก
และความสนุกสนานก็ไม่ควรถึงขั้นลืมตน
ท่านรซูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า “ในวันนั้น (วันกิยามะฮฺ) ขุมนรกจะถูกนำมา มันถูกล่ามด้วยสายสะพายเจ็ดหมื่นเส้น สายสะพายแต่ละเส้นมีมลาอิกะฮฺเจ็ดหมื่นท่านที่จะคอยฉุกลากขุมนรกไว้” (มุสลิม)
...............................................................
63. จงร้องไห้ด้วยความเกรงกลัวต่ออัลลอฮฺ
น้ำตาที่มีค่าที่สุด
ไม่ใช่น้ำตาเสียใจ หรือ น้ำตาดีใจที่ได้รับสิ่งพึงปรารถนา
แต่มันคือน้ำตาที่หลั่งออกมาด้วยกับความเกรงกลัวต่ออัลลออฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา)
ซึ่งไม่ง่ายนักที่มันจะไหลออกมาจากดวงตา
ของคนหัวใจแข็งกระด้างอย่างเรา ๆ
ท่านรซูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า “จะไม่ตกนรก ผู้ที่ร้องไห้เพราะยำเกรงต่ออัลลอฮฺ จนกว่าน้ำนมจะไหลย้อนกลับเต้าของมัน ฝุ่นจากการต่อสู้ในหนทางของอัลลออฺกับควันไฟของนรกญะฮันนัม ไม่มีโอกาสรวมตัวกันได้แน่” (ติรมีซี)
……………………………………………………………
64. ไม่ลุ่มหลงดุนยา รู้ค่าของมัน
จริงสิ เราก็เห็นผู้คนมามากต่อมาก
ทั้งร่ำรวยล้นฟ้า ตำแหน่งสูงเทียมเมฆ มีศักดิ์ศรีสูงลิบลิ่ว
สุดท้ายก้ต้องตายกลายเป็นดิน
ไม่ต่างอะไรกับคนจน ไร้ตำแหน่ง ไร้ศักดิ์ศรี
แล้วดุนยานี้มันแค่ไหนกัน...!
ท่านรซูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า “ถ้าจะนำโลกนี้ไปเปรียบเทียบกับโลกหน้า ก็ไม่ผิดอะไรกับการที่คนหนึ่งของพวกท่านเอานิ้วจุ่มลงในทะเล แล้วมองดูซิว่ามีอะไรติดมาบ้าง” (มุสลิม)
...................................................................
65. อย่าลุ่มหลงงานอาชีพจนลืมโลกหน้า
คนทำงานเพื่ออะไร....
หาเงิน..ได้เงินแล้วเอาไปไหน.....
ซื้อของกินของใช้....
กินใช้แล้วเป็นไง.....
อิ่มหมีพีมัน.......
แล้วก็เติบโต...โตไปสักพักก็เจ็บ......
นานเข้าก็ตาย....แค่นี้เองหรือชีวิต.....!
หากเรารู้ว่ามันไม่ใช่แค่นี้....
ชีวิตมีเป้าหมายเพื่อการภักดีพระเจ้า.....
ก็จงอย่าลุ่มหลงจนต้องลืมพระผู้เป็นเจ้าสิ.....
ท่านรซูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า “ท่านทั้งหลายจงอย่าจมปลักอยู่กับอาชีพการงาน จะเป็นเหตุให้ท่านหลงใหลอยู่ในโลกนี้” (ติรมีซี)
……………………………………………………….
66. จงขอต่ออัลลอฮฺ อย่าขอจากผู้อื่น
มือบนย่อมดีกว่ามือล่าง
มือที่ให้ประเสริฐกว่ามือที่ขอ
อย่าลดศักดิ์ศรีของตัวเองด้วยการหวังพึ่งจากมนุษย์
จงพึ่งพาอัลลออฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) เท่านั้น
ท่านรซูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า “การขอจะยังคงอยู่กับใครบางคน คนในหมู่พวกท่าน จนกว่าเขาจะไปพบกับอัลลอฮฺตะอาลา ในสภาพไม่มีเนื้อที่ใบหน้า” (บุคอรีและมุสลิม)
................................................................
67. จงทำงานหาริสกีด้วยมือของตนเอง
ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน
อย่าทำตัวเป็นภาระหรือขยะสังคม
จงสู้ให้สุดความสามารถ
หากสู้ถึงที่สุดแล้วแต่ยังไม่ได้มา
ท่านคือคนที่มีสิทธิ์ที่จะได้รับการช่วยเหลือ
ด้วยความเมตตาจากอัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา)
ท่านรซูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า “ไม่มีอาหารใดเลยที่คนหนึ่งรับประทานเข้าไป ดียิ่งไปกว่าอาหารที่เขารับประทานจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง และความจริง นบีดาวูด (อลัยฮิสสลาม) ก็ได้รับประทานอาหารที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของท่านเอง” (บุคอรี)
68. จงหวังในการอภัยจากอัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) อยู่เสมอ
ตราบใดที่ดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้นทางทิศตะวันตก
หรือวิญญาณยังไม่ถึงคอหอย
วันเวลาแห่งการให้อภัยยังเปิดอ้าอยู่เพื่อเรา
จงใช้โอกาสนั้นเสียก่อนจะหมดโอกาส
ท่านรซูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า อัลลอฮฺทรงตรัสว่า “โอ้ลูกหลานอาดัม ถ้าหากบาปของเจ้ามีอยู่เต็มฟากฟ้า แล้วเจ้าได้วิงวอนขออภัยโทษต่อเรา เราก็จะอภัยให้แก่เจ้า โอ้ลูกหลานอาดัม ถ้าหากเจ้ามาหาเราในสภาพที่มีบาปเต็มแผ่นดิน แล้วเจ้าได้มาพบกับเราโดยเจ้าไม่ได้นำสิ่งใดมาตั้งภาคีกับเรา เราก็จะมอบการอภัยโทษให้เจ้าเต็มแผ่นดินเช่นเดียวกัน” (ติรมีซี)
.................................................
69. อย่าได้ท้อหากแม้ท่านเป็นคนยากจน
โลกเป็นสนามสอบ
บางคนถูกทดสอบด้วยความเจ็บป่วย
ปัญหาครอบครัว ปัญหาการเงิน
และอีกสารพัดข้อสอบ
จงอดทนและฟังข่าวดีหนึ่ง จากท่านนบี....
ท่านรซูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า “ผู้ศรัทาที่ยากจนจะได้เข้าสวรรค์ก่อนผู้ศรัทธาที่ร่ำรวย 500 ปี” (ติรมีซี)
...............................................................
70. หากท่านเป็นสตรี จงระวังต่อนรก
มีผู้หญฺงอีกกี่ร้อยล้านที่ไม่ได้อ่านหะดีษนี้
เราที่ได้อ่านคำเตือนจากนบี ควรหลกหนีให้ห่างไกล
ให้สตรีที่อยู่ในนั้นเป็นผู้อื่นเถิดที่ไม่ใช่เรา
เพราะพวกเขาไม่ยอมรับรู้และไม่ใส่ใจในคำเตือนนี้
ท่านรซูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า “ฉันมองเข้าไปในสวรรค์ ฉันเป็นชาวสวรรค์ส่วนใหญ่เป็นคนจน ฉนมองลงไปในนรก ฉันเห็นชาวนรกส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง” (บุคอรีและมุสลิม)
..........................................................................
71. จงเป็นผู้บริจาคแม้จะเพียงเล็กน้อย
ผู้ที่รู้จักให้เท่านั้น ที่สมควรจะได้รับ
ท่านรซูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า “มือบนดีกว่ามือล่าง มือบนคือมือบริจาค ส่วนมือล่างคือมือที่ขอ” (บุคอรีและมุสลิม)
...............................................................
72. จงขยันทำงาน
ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด อดทน
เป็นเหมือนหนึ่งคาถาที่ทำให้ชาวจีน รวยมานักต่อนักแล้ว
นบีก็สอนเรามาตั้งนาน
แต่จะแปรมาสู่การดำเนินการไม่ค่อยจะเป็น
มันน่าเศร้าตรงนี้แหละ.....!
ท่านรซูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า “การที่คนใดในหมู่พวกท่านรวบรวมมัดฟืนไว้บนบ่าของเขา ย่อมดีกว่าการที่เขาจะแบมือขอใคร ซึ่งเขาอาจให้หรือไม่ให้ก็ได้” (บุคอรีและมุสลิม)
.........................................................................
73. นึกถึงความตายบ่อย ๆ
ท่านนบีทิ้งผู้เตือนไว้สองอย่าง
หนึ่งพูดได้
อีกหนึ่งพูดไม่ได้
พูดได้คืออัลกุรอาน
ส่วนพูดไม่ได้คือความตาย
ทั้งสองคือผู้เตือนที่อมตะจนกว่าโลกสลาย
ท่านรซูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า “ท่านทั้งหลายจงรำลึกถึงสิ่งที่ตัดขาดความสำราญต่าง ๆ เถิด (หมายถึงความตาย)” (ติรมีซี)
…………………………………………………….
74. พอใจในสิ่งที่ตนมี
หากจะสนองความอยากของมนุษย์
แน่แท้พวกเขาจะต้องปรารถนาให้ภูเขาเป็นทอง
ลูกเดียวยังไม่พอ
ต้องการเท่าภูเขาอีกสองลูก
จนกว่าดินจะเข้าไปอยู่ในท้องขณะนอนเปื่อยอยู่ในกุบูรนั่นแหละ ถึงจะพอ.....
ท่านรซูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า “ความรวยมิใช่ทรัพย์สมบัติมาก แต่ความรวยอยู่มีความพึงพอใจในสิ่งที่ตนมี” (บุคอรีและมุสลิม)
......................................................................
75. เมื่อขัดสนจงเข้าหาอัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา)
บางครั้งเราลืมไปว่า
อัลลอฮิคือผู้ที่ทรงร่ำรวย
เวลามีปัญหาเรามักเข้าหามนุษย์ก่อนเข้าหาอัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ต่อไปนี้ต้องเรียงเรื่องใหม่
ต้องเข้าหาอัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ก่อนใครทั้งหมด
ท่านรซูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า “ผู้ใดที่ความยากจนเกิดขึ้นกับเขา และเขาได้ขอต่อมนุษย์ช่วยปลดเปลื้องมัน ความยากจนของเขาจะไม่ถูกขจัดออกไปได้เลย และผู้ใดที่ขอจากอัลลอฮฺให้ช่วยปลดเปลื้องมัน อัลลอฮฺรีบประทานปัจจัยแก่เขาทันทีหรืออาจประวิงไว้ก่อน” (อบูดาวูดและติรมีซี)
…………………………………………………….
76. ถ่อมตนไม่ถือตัวไม่หยิ่งยโส
มนุษย์ถูกบังเกิดมาจากดิน
ตัวก็เล็ก อายุก็น้อย...สู้ภูเขา ต้นไม้ไม่ได้
ทั้งอายุยาวกว่าและแข็งแรงบึกบึนกว่า
ที่สำคัญ....
หากอัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) หยุดลมหายใจไม่ให้เข้ารูจมูก ไม่เกินห้านาที ตาย!
แล้วจะทำตัวหยิ่งยโสโอหัง ยิ่งใกหญ่กันไปถึงไหนกัน
ท่านรซูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า “แน่แท้อัลลอฮฺได้บัญชาแก่ฉันว่าให้ท่านทั้งหลายจงถ่อมเนื้อถ่อมตัวต่อกัน จนกว่าจะไม่มีใครแสดงความโอหังกับใครและไม่มีใครละเมิดใคร” (มุสลิม)
...........................................................................
77. อย่าหยาบคาย อย่าขี้หวง อย่ายโส
ไม่มีใครชอบความหยาบคาย ขี้หวง และยโส
ในเมื่อท่านเองไม่ชอบ
ก็ต้องไม่ลืมว่า คนอื่นเขาก็ไม่ชอบเช่นกัน
ดังนั้นจงหลีกห่างเสีย
ท่านรซูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า “ฉันจะไม่บอกท่านให้รู้จักชาวนรกหรือ พวกเขาคือทุกคนที่หบายคาย ขี้หวง และหยิ่งยโส” (บุคอรีและมุสลิม)
.....................................................................................
78. มีความสุขุม สำรวมตน
มุสลิมที่ดีให้ความสุขุม สำรวมตน
ไม่รีบร้อน ลนลาน กระโตกกระตาก
ควรเป็นคนนิ่ง สงบ ภูมิฐาน
บางคนบอก ทำยบากเหมือนกันนะเนี๊ยะ
เถอะน่ะ พยายามฝึกเข้าหน่อย
คงไปได้ อินชาอัลลอฮฺ
ท่านหญิงอาอิชะฮฺ (เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ) เล่าว่า ฉันไม่เคยเห็นท่านรซูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) หัวเราะอย่างเต็มที่จนเห็นลิ้นไก่เลย แท้จริงการหัวเราะของท่านเป็นเพียงการการยิ้มเท่านั้น“ (ติรมีซี)
................................................................................................
79. จงทำตัวอ่อนโยนอยู่เสมอ
จงทำตัวดั่งมหาสมุทร
เพราะมหาสมุทร ด้วยเหตุผลที่มันวางตัวอยู่ในที่ต่ำ
สายน้ำใหญ่น้อยจึงไหลลงสู่มัน
เช่นดียวกับกความสุภาพอ่อนโยน จะนาซึ่งความดีเสมอ
ท่านรซูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า “แน่แท้อัลลอฮฺนั้นสุภาพอ่อนโยน พระองค์รักความสุภาพอ่อนโบนในแต่ละกิจการ” (บุคอรีและมุสลาม)
.......................................................................................
80. จงใกล้ชิดกับผู้คนด้วยความสุภาพ นุ่มนวล อ่อนโยน
การสร้างคนให้มีอัคลากหรือมารยาทที่ดี
คือเป้าหมายที่อัลลอฮฺ (ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ส่งนบีมา
ท่านรซูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า “แน่แท้อัลลอฮฺได้บัญชาแก่ฉันว่าให้ท่านทั้งหลาย จงถ่อมเนื้อถ่อมตัวต่อกัน จนกว่าจะไม่มีใครแสดงความโอหังกับใคร และไม่มีใครละเมิดใคร” (จากอิยาฏ บุตร หิมาร บันทึกโดย มุสลิม)
.................



………………………………………

เติมตาชั่งให้เต็มความดีด้วยวิธีง่าย ๆ (ชุดที่ 4) ***
รวบรวม / เรียบเรียง โดย : มันศูร อับดุลลอฮฺ

(จากหนังสือ : เติมตาชั่งให้เต็มความดีด้วยวิธีง่าย ๆ )
อดทน เพื่อชัยชนะ โพสต์




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น