อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ผู้ได้รับความไว้วางใจของผู้ที่อยู่บนฟ้า



ท่านนบี ศอ็ลฯ กล่าวว่า

أَلاَ تَأْمَنُونِى وَأَنَا أَمِينُ مَنْ فِى السَّمَاءِ ، يَأْتِينِى خَبَرُ السَّمَاءِ صَبَاحًا وَمَسَاءً

พวกท่านไม่ไว้วางใจฉัน กระนั้นหรือ ทั้งๆที่ฉันคือ ผู้ได้รับความไว้วางใจของผู้ที่อยู่บนฟ้า ,ข่าวคราวแห่งฟากฟ้าได้มายังฉันทั้งยามเจ้าและยามเย็น – รายงานโดยมุสลิม

صح عن علي بن الحسن بن شقيق قال قلت لعبد الله بن المبارك كيف نعرف ربنا عزوجل قال في السماء السابعة على عرشه ولا نقول كما تقول الجهمية إنه هاهنا في الأرض فقيل  هذا لأحمد بن حنبل فقال هكذا هو عندنا

รับรองเศาะฮีหฺจากอลี บิน อัล-หะสัน บิน ชากิก เขากล่าวว่า “ฉันกล่าวกับอับดุลลอฮ บิน อัล-มุบาร็อก ว่า เราจะรู้จักพระผู้เป็นเจ้าของเราได้อย่างไร?” อิบนุล มุบาร็อก ตอบว่า “พระเจ้าของเราอยู่บนชั้นฟ้าที่เจ็ด เหนืออรัชของพระองค์ เราจะไม่กล่าวเช่นที่พวกญะฮฺมียะฮฺเชื่อว่า อัลลอฮทรงอยู่ที่นี่ หมายถึง บนหน้าแผ่นดิน” หลังจากนั้น มีผู้ถามถึงความเห็นของอิมามอะหฺมัด บิน หัมบัล เกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านอิบนุล มุบาร็อก ตอบว่า “เช่นนั้นแหล่ะ เขาก็มีความเห็นเหมือนเรา”- อัลอุลูว์ 1/149


 ท่านอับดุลเกาะดีร อัลญัยลานีย์ นักวิชาการตะเศาวูฟ กล่าวว่า

وهو بجهة العلو مستو على العرش، محتو على الملك، محيط علمه بالأشياء، {إليه يصعد الكلم الطيب والعمل الصالح يرفعه})

และพระองค์อยู่ทิศเบื้องสูง ทรงเป็นผู้สถิตเหนือบัลลังค์ ทรงเป็นผู้มีอำนาจเหนือการปกครอง ความรู้ของพระองค์ ครอบคลุมบรรดาสรรพสิ่ง (บรรดาถ้อยคำ ที่ดีจะ (ถูกพา) ขึ้นสู่พระองค์ และการงานที่ดีก็จะ (ถูก) ยกขึ้นสู่พระองค์เช่นกัน” (ฟาฏิร/10) –
ดู الغنية لطالبي طريق الحق لعبد القادر الجيلاني (ج1 ص121 و123


 อิบนุฟารีส (ฮ.ศ 342) กล่าวว่า

السماء في اللغة: يقال لكل ما ارتفع وعلا قد سَمَا يَسمُو، وكل سقف فهو سماء، ومن هذا قيل للسحاب: السَّماءُ، لأنها عالية

คำว่า “อัสสะมาอฺ” ในทางภาษา จะถูกกล่าว(ถูกเรียก)แก่ทุกสิ่งที่ อยู่สูง “سَمَا يَسمُو (มันอยู่สูง) และทุกๆหลังคา มันคือ สะมาอฺ และจากสาเหตุนี้ จึงถูกกล่าวแก่ คำว่า เมฆ ว่า อัสสะมาอฺ เพราะมันอยู่เบื้องสูง - ดู
تهذيب اللغة لأبي منصور الأزهري (ج13 ص117

การที่กล่าวว่า อัลลอฮอยู่บนฟ้า หมายถึงอยู่เบื้องสูง เหนือมัคลูค แยกจากบรรดามัคลูคทั้งหลาย ไม่ใช่ฟ้าบรรจุอัลลอฮไว้ ถ้าคนที่ทำความเข้าใจด้วยอิคลาศ ปราศจากอคติ คงไม่กล่าวหาว่า “วะฮบีย์ ให้สถานที่แก่อัลลอฮ หรือวะฮบีย์มีอะกีดะฮยิว


ท่าน มูฮำหมัด บิน ยะซีด (ฮ.ศ 286) ปราชญ์ยุคสะลัฟอธิบายว่า
:
“والسؤال عن كل ما يعقل بـ”مَن” كما قال عز وجل: {أأمنتم من في السماء أن يخسف بكم الأرض}. فـ”مَن” لله عز وجل”

และการถามคำถามด้วยกับคำว่า “มัน(ที่แปลว่าใครหรือผู้ใด-ผู้ที่ในภาษาอาหรับ)” จากทุกๆสิ่งที่มีสติปัญญา ดังเช่นที่ อัลลอฮ์ อัซซะวะญัล ได้ตรัสว่า “พวกเจ้าจะปลอดภัยละหรือ จากผู้ที่อยู่เหนือ ฟากฟ้าจะให้แผ่นดินสูบพวกเจ้า…” ดังนั้น เฉพาะคำว่า “มัน” ณ ที่นี่ ใช้สำหรับพระองค์เท่านั้น [อัลมุกตะศ๊อบ เล่ม 2 หน้า 51]

เพราะฉะนั้น คำว่า ผู้ที่อยู่บนฟ้า ในอายะฮนี้ คือ อัลลอฮ


อิหม่าม บัยฮะกีย์(ฮิจเราะห์ ที่ 458)
 (وقال {أَمِنْتُمْ مَنْ فِي السَّمَاءِ} وأراد من فوق السماء ، كما قال {وَلَأُصَلِّبَنَّكُمْ فِي جُذُوعِ النَّخْلِ} [طه : 71] يعني على جذوع النخل ، وقال {فَسِيحُوا فِي الْأَرْضِ} [التوبة : 2] يعني على الأرض ، وكل ما علا فهو سماء ، والعرش أعلى السماوات ، فمعنى الآية والله أعلم: أأمنتم من على العرش ، كما صرح به في سائر الآيات) الاعتقاد والهداية إلى سبيل الرشاد على مذهب السلف وأصحاب
الحديث- تأليف البيهقي (ص116)

พระองค์ตรัสว่า “พวกเจ้าจะปลอดภัยหรือจากผู้ที่อยู่ในท้องฟ้า” พระองค์ต้องการ(บอกว่า)พระองค์คือ ผู้ที่อยู่เหนือชั้นฟ้า เช่นที่พระองค์ตรัสว่า “และฉันจะเอาพวกท่านไปตรึงไว้ในต้นอินทผลัม”(ซูเราะฮฺฎอฮา อายะฮฺที่ 71) หมายถึงบนต้นอินทผลัม(ไม่ใช่ในอินทผาลัม فِي جُذُوعِ النَّخْلِ) และที่พระองค์ตรัสว่า “ดังนั้นพวกท่าน จงท่องเที่ยวไปในแผ่นดิน”(ซูเราะฮฺอัตเตาบะฮฺ อายะฮฺที่ 2)หมายถึงบนแผ่นดิน(ไม่ใช่มุดดินลงไปเที่ยวใต้แผ่นดิน فَسِيحُوا فِي الْأَرْضِ) และทุกๆสิ่งที่อยู่เหนือขึ้นไปนั่นก็คือชั้นฟ้า และอัล-อัรชฺ(บัลลังก์)นั้นอยู่ข้างบนสุดของชั้นฟ้าทั้งหลาย และนี่คือความหมายของอายะฮฺดังกล่าว วัลลอฮุอะอฺลัม(อัลลอฮฺทรงรู้ดีที่สุด) พวกเจ้าจะปลอดภัยหรือจากผู้ที่อยู่เหนืออัรชฺ(บัลลังก์) ดังเช่นที่พระองค์ได้ชี้แจงไว้ในอายะฮฺต่างๆที่เหลืออยู่อื่นๆ [จากหนังสือ อัลเอี๊ยะติกอด วัลฮิดายะห์ อิลาซะบีลิรเราะซาจ อะลามัซฮะบิสสะละลัฟ วะอัศฮาบิ้ลฮะดีษ หน้าที่ 116]



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น