อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ไสยศาสตร์ (อัส-สิหฺรฺ)




อัส-สิหฺรฺ (ไสยศาสตร์) คือของขลัง เวมมนต์ และการผูกเงื่อนปมที่มีผลต่อหัวใจและร่างกาย ไสยศาสตร์เป็นสิ่งที่ชั่วร้ายโดยสมบูรณ์ เป็นความอธรรม การทำร้าย การละเมิด และล่วงล้ำสิทธิของผู้อื่น ต่อร่างกายของเขา ทรัพย์สินของเขา สติปัญญาของเขา หรือความสัมพันของเขากับคนอื่น และเหตุที่อัสสิหฺรฺเป็นบาปใหญ่ ก็เพราะว่าคนที่จะทำไสยศาสตร์นั้นเขาจะต้องปฏิเสธศรัทธาเสียก่อน

พระองค์อัลลอฮฺ (ศุบฮานะฮูวะตะอาลา) ตรัสว่า

وَاتَّبَعُوا مَا تَتْلُو الشَّيَاطِينُ عَلَىٰ مُلْكِ سُلَيْمَانَ وَمَا كَفَرَ سُلَيْمَانُ وَلَٰكِنَّ الشَّيَاطِينَ كَفَرُوا يُعَلِّمُونَ النَّاسَ السِّحْرَ وَمَا أُنزِلَ عَلَى الْمَلَكَيْنِ بِبَابِلَ هَارُوتَ وَمَارُوتَ وَمَا يُعَلِّمَانِ مِنْ أَحَدٍ حَتَّىٰ يَقُولَا إِنَّمَا نَحْنُ فِتْنَةٌ فَلَا تَكْفُرْ فَيَتَعَلَّمُونَ مِنْهُمَا مَا يُفَرِّقُونَ بِهِ بَيْنَ الْمَرْءِ وَزَوْجِهِ وَمَا هُم بِضَارِّينَ بِهِ مِنْ أَحَدٍ إِلَّا بِإِذْنِ اللَّهِ وَيَتَعَلَّمُونَ مَا يَضُرُّهُمْ وَلَا يَنفَعُهُمْ وَلَقَدْ عَلِمُوا لَمَنِ اشْتَرَاهُ مَا لَهُ فِي الْآخِرَةِ مِنْ خَلَاقٍ وَلَبِئْسَ مَا شَرَوْا بِهِ أَنفُسَهُمْ لَوْ كَانُوا يَعْلَمُونَ ( 102 ) 

"และพวกเขาได้ปฏิบัติตามสิ่งที่บรรดาชัยฏอน ในสมัยสุลัยมานอ่านให้ฟัง และสุลัยมานหาได้ปฏิเสธการศรัทธาไม่ แต่ทว่าชัยฏอนเหล่านั้นต่างหากที่ปฏิเสธการศรัทธา โดยสอนประชาชนซึ่งวิชาไสยศาสตร์และสิ่งที่ถูกประทานลงมา แก่มะลาอิกะฮ์ทั้งสอง คือ ฮารูต และมารูต ณ เมืองบาบิล และเขาทั้งสองจะไม่สอนให้แก่ผู้ใดจนกว่าจะกล่าวว่า แท้จริงเราเพียงเป็นผู้ทดสอบเท่านั้น ท่านจงอย่าปฏิเสธการศรัทธาเลย แล้วเขาเหล่านั้นก็ศึกษาจากเขาทั้งสอง สิ่งที่พวกเขาจะใช้มันยังความแตกแยกระหว่างบุคคลกับภรรยาของเขา และพวกเขาไม่อาจทำให้สิ่งนั้นเป็นอันตรายแก่ผู้ใดได้ นอกจากด้วยการอนุมัติของอัลลอฮฺเท่านั้น และพวกเขาก็เรียนสิ่งที่เป็นโทษแก่พวกเขา และมิใช่เป็นคุณแก่พวกเขา และแท้จริงนั้นพวกเขารู้แล้วว่าแน่นอนผู้ที่ซื้อมันไว้นั้น ในปรโลกก็ย่อมไม่มีส่วนได้ใด ๆ และแน่นอนเป็นสิ่งที่ชั่วช้าจริง ๆ ที่พวกเขาขายตัวของพวกเขาด้วยสิ่งนั้น หากพวกเขา" (อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัลบาเกาะเราะฮฺ 1:102)

ท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ได้กล่าวว่า
“พวกท่านพึงห่างไกลอันตราย 7 ประการ มีผูกล่าวว่า: โอ้ท่านรสูลุลลออฺ มันมีอะไรบ้าง ท่านกล่าวว่า : ..และการทำไสยศาสตร์..” (บันทึกหะดิษโดยอิมามอัลบุคอรีย์ เลขที่ 2766 และมุสลิม เลขที่ 89)

ท่านบะญาละฮฺ บินอับดะฮฺ เล่าว่า ได้มีสาส์นของท่านอุมัร(ร่อฎียัลลอฮุอันฮุมา) มาถึงเราก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตหนึ่งปีว่า
“จงประหารชีวิตผู้ชายและผู้หญิงที่ทำไสยศาสตร์ทุกคน” (บันทึกหะดิษโดยอิมามอะหฺมัด เลขที่ 1657 อบุดาวูด เลขที่ 3043 ชัยคฺอัล-อัลบานีกล่าวว่าเป้นหะดิษเศาะฮีหฺ)

ท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ได้กล่าวว่า
“แท้จริงการเสกเป่า เครื่องรางของขลังทั้งหลาย และของเสน่ห์ต่างๆนั้น เป็นการตั้งภาคี” (บันทึกโดยอิมามอะหฺมัด เลขที่ 3615 อบุดาวูด เลขที่ 3883 ชัยคฺอัล-อัลบานีกล่าวเป็นหะดิษหะซัน)








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น