อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

การเลี้ยงดูเด็กเป็นเรื่องของส่วนรวม




การเลี้ยงดูนั้น เป็นสิทธิของผู้เยาว์ที่จะต้องได้รับจากผู้ที่จะต้องรับผิดชอบเขา คอยให้การดูแลปกครอง 

สำหรับมารดาก็มีหน้าที่ในการเลี้ยงดูเด็กที่เป็นบุตรของเขา และเป็นผู้สมควรเลี้ยงลูกมากที่สุด

ท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า
"เธอนั้นเหมาะสมที่สุดที่จะเลี้ยงดูเขา" 

การเลี้ยงดูเป็นสิทธิของเด็ก จึงต้องเป็นหน้าที่ของมารดา ในเมื่อเด็กนั้นต้องการความใกล้ชิด คือแม่ 
และไม่มีผู้อื่น เพื่อว่าเด็กนั้นจะได้ไม่เสียสิทธิที่จะได้จากการเลี้ยงดู และฝึกฝนเขา แต่ถ้าหากว่าเด็กนั้นยังมีคุณย่าที่จะคอยดูแลอุปถัมภ์ ซึ่งย่านั้นก็พอใจที่จะกระทำ แล้วผู้เป็นมารดาก้ไม่สนใจ สิทธิของนางก็เลยหมดไป


ทุกคนที่มีหน้าที่เลี้ยงดูก็มีสิทธิ์ที่จะต้องทำการเลี้ยงดู และผู้ถูกให้เลี้ยงดุก็มีสิทธฺจะต้องได้รับการเลี้ยงดู แต่ว่าผู้ที่จะต้องได้รับการเลี้ยงดูนั้น หนักกว่าผู้เลี้ยงดูในเรื่องสิทธิ หากผู้เลี้ยงดูสละสิทธิของตัวเอง สิทธฺของผู้ที่จะได้รับการเลี้ยงดูนั้น ก็ยังไม่หมดไป

หากผู้ที่ไม่ใช่มารดาได้บริจาคค่าเลี้ยงดูให้กับเด็กๆ แล้วก็ตาม สิทธิของมารดาเด็กก็ยังไม่หมดไป ตราบใดที่เด็กนั้นยังเล้กอยู่ เพื่อว่าเด็กจะได้ไม่เกิดอันตรายโดยการถูกกีดกันจากมารดาของเขา เพราะว่านางนั้นเป็นผู้มีจิตรใจผูกพันสงสารลูกมากกว่าใครทั้งหมด ตลอดจนความรักและอดทนในการให้บริการลูกของเขา

الله أعلم بالصواب









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น