ปัญหาที่เกิดขึ้นในอิสลาม มักเกิดจากมุสลิมมากกว่าคนต่างศาสนาด้วยซ้ำ เห็นได้จากกรณีของคุณเอิญ ที่เข้ารับอิสลามและแต่งงานกับมุสลิม นางได้ขอคำปรึกษาจากผม นางกล่าวว่า
สวัสดีค่ะ
เอิญไปเจอเวฟที่ท่าทางคุณ iprohem โพสตอบคำถามกับผู้คนเมื่อสามปีที่แล้วค่ะ ไม่ทราบว่ายังสามารถให้คำตอบกับทางดิฉันได้บ้างไหมค่ะ เกี่ยวกับเรื้่องการหย่าทางศาสนาอิสลามค่ะ
เนื่องจากว่า อิฉันเป็นพุทธแล้วมาแต่งกับกับสามีที่เป็นอิสลาม ได้ประมาณสามเดือนกว่าๆค่ะ และทำพิธีก่ะกันและอยู่กินแบบสามีกันแบบถูกต้องเรียบร้อยแล้วค่ะ
แต่เนื่องจากพอย้ายมาอยู่ที่บ้านสามีก็ทำให้ได้รับรู้เรื่องราวต่างๆของสามีมากมาย เรื่องความเจ้าชู้ของสามี ที่มีเมียอยู่ก่อนแล้วแต่ที่บ้านสามีไม่ใครรับรู้เรื่องภรรยาคนนี้ของสามีของดิฉันเลยคือสามีของดิฉันไม่เคยพาผู้หญิงคนนี้มาที่บ้านเลยมีแต่คนที่ทำงานที่รับรู้เรื่องนี้ แล้วพอพาดิฉันเข้ามาอยู่ที่บ้านทางสามีดิฉันก้อยังคงติดต่อกับผู้หญิงคนนี้อยู่
- ฉันจึงอยากสอบถามว่าแบบนี้ดิฉันสามารถขออย่าได้หรือไม่
- เรื่องค่าเลี้ยงดูทุกวันนี้สามีก็ไม่ค่อยให้เงินในกาใช้จ่ายแถมบางทียังมาขอจากฉันไปด้วย ( ดิฉันเปิดร้านอาหารอิสลามอยู่ที่บ้านแม่สามีค่ะเลยมีรายได้บ้าง)
- แล้วแบบนี้หาก ผู้หญิงคนนี้ถือว่าเป็นภรรยาอีกคนใช่ไหมค่ะ หรือว่าเค้าต้องได้รับการยินยิมจากฉันหรือว่ายังไงค่ะ บังเอิญดิฉันไม่ค่อยรู้เรื่องศาสนาอิสลามเท่าไหร่ค่ะ
- แบบนี้ดิฉันควรทำอย่างไรดีค่ะ รบกวนช่วยไขข้อสงสัยให้หน่อยนะค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
ผมก็ตอบนางไปว่า
ก่อนอื่น ก็ต้องขอบคุณอัลลอฮฺผู้ทรงประทานแสงสว่างให้กับท่านและมุสลิมผู้ซึ่งยึดปฎิบัติคำสอนของพระองค์ ยิ่งไปกว่านั้น ท่านได้รับสิทธิพิเศษมากมายหรือที่เรียกกันว่า ความประเสริฐ จากอัลลอฮฺ อันเนื่องการเข้ารับอิสลามของท่าน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านได้ทำลงไปก่อนเข้ารับอิสลาม หากสิ่งนั้นเป็นความดีมันก็จะถูกบันทึกเป็นความดีแก่ตัวท่าน และหากมันเป็นความชั่วร้ายหรือสิ่งที่ไม่ดี มันก็จะถูกลบล้างด้วยการเข้ารับอิสลามของท่าน ดังนั้น ท่านควรขอบคุณอัลลอฮฺด้วยการปฎิบัติซึ่งสิ่งที่ดีและหลีกเลี่ยงสิ่งที่ไม่ดี
ประการต่อมา เมื่อคนๆหนึ่งเป็นมุสลิมแล้ว เขาต้องเข้าใจและตระหนักในคำสอนของอิสลาม และปฎิบัติกับมัน แม้ว่าคำสอนเหล่านั้นอาจขัดแย้งกับความรู้สึกของเขาก็ตาม เช่น อัลลอฮฺทรงสั่งใช้ให้มุสลิมละหมาดห้าเวลา มุสลิมก็ต้องทำการละหมาดห้าเวลา ไม่ว่าเขาจะขี้เกียจหรือไม่ชอบการละหมาดก็ตาม อัลลอฮฺทรงสั่งให้มุสลิมบริจาคทาน (จ่ายซากาต) มุสลิมก็ต้องจ่ายซากาต แม้ว่าเขาจะไม่ชอบบริจาคเงินเขาแก่คนอื่นก็ตาม เหตุผลหลักที่เขาต้องทำตามคำสั่งของอัลลอฮฺ เพราะเขาเป็นมุสลิมที่เชื่อว่า อัลลอฮฺทรงมีจริงและการตอบแทนจากอัลลอฮฺ ณ โลกอะคีระฮฺก็เป็นเรื่องจริง หากเขาไม่ทำตาม เขาก็จะได้รับโทษจากอัลลอฮฺแน่นอน
อิสลามเป็นศาสนาที่สั่งให้มุสลิมทุกคนต้องยุติธรรม แม้กับคนต่างศาสนาก็ตาม ไม่ใช่ว่า เมื่อเขาเป็นมุสลิม การกระทำของเขาก็ถือว่ายุติธรรมไปหมด ไม่เลย การกระทำของมุสลิมจะยุติธรรมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการที่เขาทำตามอิสลามหรือไม่ ถ้าทำตามอิสสลามก็ถือว่ายุติธรรม แต่ถ้าขัดกับคำสอนอิสลาม เมื่อนั้นก็ถือว่า เขาได้อยุติธรรม ดังนั้น คนที่ไม่ยุติธรรม ไม่ว่่า เขาจะเป็นมุสลิมก็ตาม จะไม่ถือการการกระทำของเขาที่ไม่ยุติธรรมนั้นเป็นคำสอนของอิสลามแต่อย่างใด ซึ่งการกระทำที่ไม่ยุติธรรมนั้นจะเกิดขึ้นกับมุสลิมด้วยกันหรือกับคนต่างศาสนาก็ตาม ก็ถือว่าเป็นความอยุติธรรม
จากสิ่งที่ผมได้พูดไปนั้น จึงเข้าใจได้ว่า แม้ว่าสามีของคุณเอิญจะเป็นมุสลิมก็ตาม แต่การกระทำของเขาที่ไม่ถูกต้องก็ไม่ถือว่าเป็นคำสอนของอิสลามแต่อย่างใด เช่นเดี่ยวกันกับคุณเอิญ เมื่อคุณเอิญเป็นมุสลิมแล้ว สิ่งที่คุณเอิญต้องเข้าใจคือ เราต้องยอมรับกับคำสอนอิสลาม แม้สิ่งนั้นอาจขัดกับความรู้สึกของเราก็ตาม
การที่มุสลิมคนหนึ่งคนใดจะมีภรรยาสองคนถึงสีคนนั้น เป็นสิ่งที่อิสลามอนุญาติให้กระทำได้ ซึ่งเป็นสิทธิของสามี โดยไม่จำเป็นต้องขอจากภรรยาคนแรก แต่การมีคนที่สองหรือสามหรือสีนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ สามีต้องมีความสามารถ สามารถให้ค่าเลี้ยงดูให้แก่ภรรยาและลูกๆตามความเหมาะสมของแต่ละคน ซึ่งหน้าที่ของสามีต้องเลี้ยงดูครอบครัว แต่กรณีของคุณเอิญนั้น ฟังจากการบอกเล่าของคุณเอิญแล้ว คงไม่มีความสามารถที่จะมีคนที่สอง เพราะลำพังตัวคุณเอิญเอง เขาก็ยังไม่มีความสามารถที่จะเลี้ยงดูและให้ค่าใช้จ่ายแก่คุณเอิญเลย ดังนั้น การที่เขาไปมีคนที่สองนั้น ไ่ม่ได้เป็นคำสอนของอิสลามเลย แม้ว่าการแต่งงานของเขากับคนที่สองนั้นไม่เป็นโมฆะก็ตาม แต่การกระทำของเขานั้น ถือว่าเป็นความอยุติธรรม
หากเขาไม่ให้ค่าเลี้ยงดูคุณเอิญอย่างพอเพียงแล้ว คุณเอิญก็สามารถขอหย่าจากเขาได้ โดยอาจทำได้ผ่านคณะกรรมการอิสลามของแต่ละจังหวัดที่มีคณะกรรมการอิสลาม
อย่่างไรก็ตาม อิสลามเป็นศาสนาที่ไม่ส่งเสริมการหย่า และเห็นว่า การหย่านั้นเป็นสิ่งที่อัลลอฮฺทรงเกลียดมันมากที่สุด และเป็นแนวทางสุดท้าย หากไม่มีแนวทางอื่นมาแก้ปัญหาครอบครัว
ภรรยาที่อดทน (ศอบัร) กับความอยุติธรรมสามีของนางได้นั้น เขาผู้นั้นย่อมจะได้รับผลบุญที่ยิ่งใหญ่ในโลกอะคีระฮฺ
และครอ่บครัวที่ดีที่สุดคือครอบครัวที่มีการให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกัน แม้หน้าที่หลักในการเลี้ยงดูครอบครัวจะเป็นหน้าที่ของสามีก็ตาม
ดังนั้น ผมจึงมอบการวิเคราะห์ปัญหาของครอบครัวที่เกิดขึ้นกับคุณเอิญว่า คุณเอิญจะเลือกแนวทางไหน สำหรับผมแล้ว ผมไม่อยากเห็นครอบครัวมุสลิมต้องเกิดความแตกแยก อันเนื่องจากการที่คุณสามีไปมีอีกคน
ผมขอให้อัลลอฮฺทรงตอบแทนคุณเอิญในความดีที่คุณได้กระทำ อามีน
วัสลาม
.............................
ผศ.ดร.อิบรอเฮม สือแม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น