อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

จิตใจอันงดงามล้ำเลิศ




วันหนึ่งท่าน ฮาซัน บิน อาลี อิบนิ อาบีฎอลิบ
กำลังนั่งอยู่ที่หน้าบ้านของท่านที่เมือง กุฟะฮฺ
จู่ๆ ก็มีชายอาหรับชนบท(บัดวีย์) คนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้
แล้วชี้มาที่ท่าน ฮาซันพร้อมกับด่าว่าท่านอย่างสาดเสียเทเสีย
เขาเอ่ยคำหยาบคายต่อหน้าท่านฮาซัน
ไม่ทันที่ท่านฮาซันจะหักห้าม เขาเอ่ยถึงท่าน อาลีและท่านหญิงฟาตีมะฮฺ
ซึ่งเป็นบิดามารดาของท่านฮาซัน แล้วก็ด่าท่านทั้งสองด้วยคำหยาบคายเช่นกัน
ท่านฮาซันมองดูเหตุการณ์ต่างๆ ด้วยความสงบ ท่านถามว่า...
"ทำไม่ท่านถึงด่าข้าและบิดามารดาของข้าล่ะ?"
แต่ทว่าอาหรับชนบทคนนั้นไม่ตอบว่ากระไร มิหนำซ้ำยังเพิ่มคำด่า
ที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิมอีก ท่านฮาซันจึงลุกขึ้นเข้าไปใกล้เขาแล้วพูดขึ้นว่า
"โอ้ท่าน...บางทีท่านอาจจะหิว กระหายไป ป่วยไข้ก็ได้
หรือว่าท่านต้องการสิ่งใดจากข้ากระนั้นหรือ?"
แทนที่อาหรับคนนั้นจะตอบคำถาม เขากลับเพิ่มคำด่าว่าหนักขึ้นไปอีก
ในที่สุดท่านฮาซันจึงสั่งให้คนใช้ของท่านนำเอาเงินมาถุงหนึ่ง
มอบให้แก่ อาหรับชนบทคนนั้น
ท่านฮาซันกล่าวขึ้นด้วยความสุภาพอ่อนโยนว่า...
"โอ้ท่าน...ข้าขออภัยจากท่านด้วย ที่บ้านข้าไม่มีทรัพย์สินอันใดหรอก
นอกจากเงินถุงนี้แหละ เอาไปเถอะเราให้ท่าน"
เมื่อเห็นเช่นนั้นชาวอาหรับบัดวีย์นั้นถึงกับนิ่งอึ้ง
น้ำตาคลอเบ้าและอุทานออกมาว่า...
"ขอสาบานด้วยอัลลอฮฺ ข้าขอยืนยันว่า...
เจ้าคือหลานชายของท่านรอซูลุลอฮฺ ฉันมาที่นี่ มิได้มาขอสิ่งใดจากเจ้า
ข้าต้องการทดสอบจิตใจอันงดงามล้ำเลิศของเจ้าเท่านั้น
โอ้หลานของท่านศาสดา....!"
ชายคนนั้น "เข้าสวมกอด" ผู้ที่ "เขารักอย่างยิ่ง"
โดยไม่ได้เอาเงินในถุงนั้นไปแต่อย่างใด

.............................
อับดุลรอมาน หะระตี




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น