อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ซูเราะฮฺ อัล- มะอาริจญ์ : บทนำ



***** บทนำ *****

ชื่อ : ซุเราะฮฺนี้ได้ชื่อมากจาคำว่า الْمَعَارِجِ (อัล-มะอาริจญ์) ในอายะฮฺที่ 3

ระยะเวลาของการประทานซูเราะฮฺ :
เนื้อหาสาระของซูเราะฮฺเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า ซูเราะฮฺนี้ได้ถูกส่งมาในสถานการณ์ที่แทบจะเหมือนกับเมื่อตอนที่ซูเราะฮฺ อัล – ฮากเก๊าะฮฺ ได้ถูกประมานมา

เนื้อหาสาระ :
ซูเราะฮฺนี้ให้คำตักเตือนและคำคาดโทษแก่บรรดาผู้ปฏิเสธทีเห็นเป็นเรื่องสนุกเมื่อได้ยินเรื่องการสิ้นโลกและการฟื้นคืนชีพหลังความตายในโลกหน้า เรื่องสวรรค์และนรก และท้าทายท่านรอซูลุลลอฮฺให้สร้างวันสิ้นโลกขึ้นมาตามคำขู่ถ้าหากว่าสิ่งที่ท่านพูดเป็นเรื่องจริงและพวกเขาสมควรที่จะถูกลงโทษในนรกเพราะการปฏิเสธ ตลอดทั้งซูเราะฮฺมีเจตนาที่จะตอบโต้การปฏิเสธนี้

ซูเราะฮฺนี้เริ่มต้นด้วยคำพูดว่า : “มีคนผู้หนึ่งได้เรียกร้องต้องการให้มีการลงโทษบรรดาผู้ปฏิเสธ และเมื่อการลงโทษนี้เกิดขึ้นก็จะไม่มีใครสามารถป้องกันได้ แต่มันจะเกิดขึ้นในเวลาที่ได้กำหนดไว้แล้ว อัลลอฮฺทรงมีวิธีการของพระองค์เองในการที่จะทำให้มันเกิดขึ้น แต่พระองค์มิได้เป็นอธรรม ดังนั้น นบีเอ๋ย จงอดทนต่อสิ่งที่พวกเขาพูดเถิด พวกเขาคิดว่ามันยังอยู่อีกไกล แต่เราเห้นมันอยู่แค่เอื้อมนี่เอง”

หลังจากนั้นก็มีการกล่าวว่า : “วันสิ้นโลกที่พวกเขาเร่งเร้าให้เกิดขึ้นโดยเร็วอันเนื่องมาจากพวกเขาเห็นว่าเป็นเรื่องตลกขบขันนั้นเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวมาก และเมื่อมันมาถึงมันจะทำให้คนทำบาปท้อแท้สิ้นหวัง ในตอนนั้น พวกเขาจะยอมยกภรรยา ลูก ๆ และญาติใกล้ชิดเพื่อเป้นค่าไถ่ให้ตนเองพ้นจากการถูกลงโทษ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถรอดพ้นการลงโทษไปได้”

หลังจากนั้น ผู้คนก็ได้ถูกเตือนว่า : “ในวันนั้น ชะตากรรมของมนุษย์จะถูกตัดสินอย่างเคร่งครัดจากความเชื่อและความประพฤติของพวกเขา คนที่หันห่างอกจากสัจธรรมในโลกนี้และสะสมทรัพย์สินไว้โดยไม่ยอมให้ตกถึงมือคนยากจนจะถูกส่งไปลงโทษในนรก ส่วนคนที่กลัวการลงโทษของพระเจ้าที่นี่และศรัทธาในชีวิตโลกหน้า ดำรงนมาซ ใช้จ่ายทรัพย์สินเพื่อช่วยเหลือคนยากจน หลีกเลี่ยงการกระทำที่ผิดศีลธรรมและความชั่วร้าย ซื่อสัตย์ในการทำธุรกิจ ปฏิบัติตามสัญญาอย่างครบถ้วนและเป็นพยานยืนยันความจริงจะมีสถานที่อันมีเกียรติรออยู่ในสวรรค์”

ในตอนสรุป บรรดาผู้ปฏิเสธแห่งมักกะฮฺที่กรูกันเข้ามาเยาะเย้ยท่านรอซูลุลลอฮฺได้ถูกเตือนว่า : “ถ้าหากสูเจ้าไม่เชื่อ อัลลอฮฺก็จะเอาคนอื่นที่ดีกว่าสูเจ้ามาแทนสูเจ้า” และท่านรอซูลุลลอฮฺก็ได้รับการปลอบใจว่า : “อย่าไปใส่ใจต่อการเยาะเย้ยถากถางและการทำเป็นเรื่องตลกขบขันของคนพวกนั้น จงปล่อยพวกเขาให้พูดเรื่องไร้สาระและทำตัวโง่เง่าต่อไปถ้าพวกเขาต้องการที่จะพบกับความสิ้นหวังและความอัปยศในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ และพวกเขาจะได้เห็นจุดสุดท้ายอันชั่วร้ายของพวกเขาเอง”


..................................................
จากหนังสือ : ตัฟฮีมุลกุรอาน ความหมาย คัมภีร์ อัล-กุรอาน เล่ม 8 //อรรถาธิบายโดย : เมาลานา ซัยยิด อบุล อะลา เมาดูดี // แปลโดย : บรรจง บินกาซัน
อดทน เพื่อชัยชนะ โพสต์



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น