อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ความประเสริฐและหัวใจที่ศรัทธาของศอฮาบะฮ



ไม่เป็นที่ประหลาดใจแก่ชนรุ่นหลังอย่างเราๆ ท่านๆ ทั้งหลายในปัจจุบันเลยว่า เหตุใด “อิสลาม” จึงถูกเผยแพร่แผ่กระจายไปทั่วแผ่นดินของอัลลอฮอย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่ผู้ศรัทธาในสมัยของบรรดาศอฮาบะฮมีจำนวนไม่มากนัก คำตอบที่ได้ หาใช่ “ปริมาณ หรือ จำนวนคน” ไม่ แต่สิ่งที่ชนยุคโลกาภิวัตน์อย่างเราซึ่งมากด้วยจำนวนและปริมาณ (ยังไม่นับรวมเทคโนโลยีอันทันสมัย) ไม่สามารถเทียบเทียมได้ คือ “หัวใจแห่งศรัทธา” ต่างหาก “หัวใจ” ที่มาดแม้นว่าบาดแผลที่กายจะสาหัสเพียงใด สักกี่หยดเลือดถูกหลั่งลงดิน จะถูกทรมานด้วยวิธีการโหดร้ายป่าเถื่อนทารุณสักเพียงไหน ก็มิอาจทำให้ “หัวใจแห่งศรัทธาของบรรดาศอฮาบะฮฺดาวนำแห่งประชาชาติอิสลาม” โอนเอียง หวั่นไหว หรือสั่นคลอนแม้แต่น้อย ไม่มีศาสตราวุธใดที่มีอานุภาพ สามารถทำลาย “หัวใจแห่งศรัทธา” ของพวกเขาได้
ถึงแม้ว่าร่างกายของบรรดาศอฮาบะฮดาวเด่นแห่งประชาชาติอิสลาม ผู้พิทักษ์ปกป้องอิสลามยิ่งกว่าชีวิตของพวกเขาเอง ยิ่งกว่าบุคคลผู้เป็นที่รักในครอบครัวของพวกเขาเอง จะถูกฝังลงสู่ผืนแผ่นดินของอัลลอฮฺแล้วก็ตาม แต่ชื่อเสียงเรียงนาม ความสามารถ ความโดดเด่น และจริยวัตรอันงดงาม ยังคงส่องประกายเจิดจรัสจ้ายิ่งกว่าหมู่ดาวบนท้องนภายามราตรีกาล และยังถูกจารึกกล่าวขานในหน้าประวัติศาสตร์อิสลาม ตราบจนวันกิยามะฮฺ

1) #ท่านอบูบักร อัศศิดดิ๊ก – ฉายานาม “อัศศิดดิก : ผู้สัจจริง” ผู้เป็นสหายคนสนิทของท่านรอซูล เป็นชายคนแรกที่เข้ารับอิสลาม โดยปราศจากความลังเลสงสัยใดๆ ท่านเป็นบิดาของท่านหญิงอาอิชะฮฺ (ภริยาท่านนบี ) และเป็นหนึ่งในสี่บรรดาคอลีฟะฮฺผู้ทรงคุณธรรม ท่านอบูบักรเป็นกำลังสำคัญและให้ความช่วยเหลือท่านนบี ในการเผยแพร่และปกป้องศาสนาในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านสรรพกำลัง ความคิด ทรัพย์สิน และชีวิต ท่านเป็นผู้ที่รักและศรัทธาโดยปราศจากความคลางแคลง พูดน้อย ยำเกรงต่ออัลลอฮฺ เป็นอย่างมาก นอบน้อมถ่อมตน ระวังตนจากความผิดต่างๆ รักความยุติธรรม นำความถูกต้องวางไว้เหนืออำนาจ ชอบแข่งขันสร้างความดีงาม ใช้ชีวิตอย่างสมถะ เป็นผู้มีความรู้มากและเฉลียวฉลาด ชาญชัยและหาญกล้า มีจิตใจเอื้ออาทร
ดังที่ท่านนบี ได้เคยกล่าวไว้ว่า

“ไม่มีทรัพย์สินของผู้ใดที่ยังประโยชน์แก่ฉัน ในการเผยแพร่ศาสนา เช่น ทรัพย์ของอบูบักรอีกแล้ว”
(บันทึกโดย ติรมีซีย์ และอิบนุมาญะฮฺ)

“มาดแม้น การศรัทธาของอบูบักร ถูกนำมาชั่งเทียบกับศรัทธาของประชาชาตินี้ แน่แท้ ศรัทธาของอบูบักรย่อมหนักกว่า”
(รายงานโดย อัลบัยฮะกีย์)

“ประชาชาติของฉันที่มีเมตตาธรรมมากที่สุดคือ อบูบักร และผู้ที่เข้มแข็งในศาสนามากที่สุดคือ อุมัร”
(รายงานโดย อะฮฺหมัด, อิบนุมาญะฮฺ)

2) #ท่านอุมัรฺ บินคอฏฏอบ – ฉายานาม “อัลฟารูก : ผู้จำแนกความถูกผิด” ผู้ซึ่งเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว กล้าหาญ มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและเฉียบคม เป็นผู้ถ่อมตน ผู้ซึ่งถูกกล่าวขานว่า “สัจธรรมนั้นอยู่ที่ลิ้นและหัวใจของเขา” อีกทั้งยังเป็นบิดาของท่านหญิงฮัฟเซาะฮฺ (ภริยาท่านนบี )

3) #ท่านอุษมาน บินอัฟฟาน – ท่านเป็นผู้ที่ได้แต่งงานกับบุตรสาว 2 คนของท่านนบี จึงได้รับฉายานามว่า “ซุลนูรัยนฺ : เจ้าของรัศมีสองดวง" หรือบุรุษแห่งสองรัศมี หรือผู้เป็นเจ้าของสองดวงประทีป ท่านเป็นผู้สนับสนุนและอุทิศสรรพกำลังและทรัพย์สินเพื่อการเผยแพร่ศาสนา อีกทั้งยังเป็นผู้ที่แม้แต่มวลมลาอิกะฮฺยังละอายต่อท่าน
4) #ท่านอะลี บินอบีฏอลิบ – ฉายานาม “อบุลฮาซัน และอบูตุรอบ” เป็นเด็กชายคนแรกที่เข้ารับอิสลาม และเป็นผู้ที่ขึ้นไปนอนบนเตียงและพร้อมจะรับคบดาบของศัตรูแทนท่านรอซูล ท่านเป็นบุตรเขยของท่านนบี (คือแต่งงานกับท่านหญิงฟาตีมะฮฺบุตรสาวท่านนบี ) เป็นผู้ที่มีความรู้เปรียบดั่งมหาสมุทรแห่งความรู้ มีศรัทธาที่มั่นคงต่ออัลลอฮฺ กล้าหาญ ยุติธรรม

..........
Mdf Cht





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น