ชาวอยุโรปได้อาศัยประโยชน์จากองค์ความรู้ของชาวอาหรับที่มีบันทึกอยู่ในตำราภูมิศาสตร์และบันทึกการเดินทางของเดินเดินทางชาวอาหรับ
ยุโรปไม่เคยรู้จักภูมิศาสตร์ของดินแดนส่วนในของทวีปแอฟริกานอกจากอาศัยตำราและแผนที่ของชาวอาหรับที่ยังคงเป็นแหล่งอ้างอิงแห่งเดียวเกี่ยวกับดินแดนของแอฟริกา จนกระทั่งถึงคริสต์ศตวรรษที่
19
ทฤษฎีที่ว่าโลกมีสัณฐานกลมไม่เป็นที่ยอมรับในหมู่ชาวยุโรป
ขนาดที่นักภูมิศาสตร์ชาวมุสลิมได้รวบรวมองค์ความรู้และมีความสอดคล้องกับข้อเท็จจริงในเรื่องนี้มานมนานแล้ว
และนั่นย่อมเป็นสิ่งที่ทำให้คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสมีความคิดที่ว่า
ทางด้านทิศตะวันตก (มหาสมุทรแอตแลนติก) อาจจะเป็นเส้นทางที่นำให้เขาไปถึงอินเดีย
และทำให้เขาค้นพบโลกใหม่ (ทวีปอเมริกา) ในที่สุด
และผู้ที่มีส่วนอย่างสำคัญในเรื่องนี้ก็คือ
อัช-ชะรีฟ อัล-อิรีสียฺ ซึ่งชาวยุโรปได้รับข้อมูลที่ละเอียดเกี่ยวกับอินเดีย, จีน
และดินแดนในแอฟริกาเหนือจากตำรา “นุซฮะตุลมุชต๊ากฯ” ของอัช-ชะรีฟ อัล-อิดริสียฺ
ในสมัยของกษัตริย์โรเจอร์ที่ 2 แห่งนครพอเลอร์โม่ อัช-ชะรีฟ
อัล-อิรีสียฺ ได้สร้างรูปโลกที่เป็นทรงกลมทำจากโลหะเงิน เพื่ออธิบายถึงแคว้นทั้ง 7 ถวายแก่พระองค์
ตำราภูมิศาสตร์ของ อัล-อิดริสียฺ
เป็นตำราภูมิศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในช่วงยุคกลาง
ในหน้าแรกของตำราเล่มนี้
อัล-อิดริสียฺ ระบุอย่างชัดเจนว่า “โลกนั้นมีสัณฐานกลม”
ตำราภูมิศาสตร์เล่มนี้ถูกตีพิมพ์ในกรุงโรมปี
ค.ศ.1592 เป็นภาษาอาหรับที่ถูกคัดลอกมาส่วนหนึ่ง
ต่อมาก็ถูกแปลเป็นภาษาละติ ในปี ค.ศ.1619
ซึ่งทำให้องค์ความรู้ในวิชาภูมิศาสตร์มีการพัฒนาอย่างแพร่หลายในยุโรป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น