อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

จิตวิทยาสื่อยิวหากินกับความลืมง่ายของมนุษย์



ถ้าพี่น้อง เข้า google search ภาพคำว่า "abu ghraib" หรือข้อมูล ก็จะพบเหตุการณ์ทรมานเชลยหรือนักโทษในสถานกักขัง อบูฆุร็อยบฺ (أبو غريب) ที่อิรัก
นั่นคือหนึ่งในความชั่วร้าย เป็นผลจากการที่อเมริกาและพันธมิตร ฮั้วกับชีอะฮฺทำสงครามเข่นฆ่าชาวอิรัก

พี่น้องโปรดร่วมกัน search และเก็บข้อมูลต่างๆไว้เป็นหลักฐานย้ำเตือนตัวเองและสังคมโลก ให้รับรู้ว่า พวกเขาเข่นฆ่าชาวอิรักไปตั่งเท่าไหร่ ข่มขืนสตรีไปเท่าไหร่ เหตุการณ์ที่ทหารบุกไปตามบ้านเรือน เข่นฆ่าคนในบ้าน ข่มขืนสตรีของครอบครัวเหล่านั้นในบ้าน และทั้งในคุก

วันนี้จะมานำเสนอชาวโลกว่า 'สิ่งที่ IS กระทำนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าการที่อเมริกาบุกอิรักซะอีก' ... เอาหลักฐานข้อเท็จจริงตบหน้าสื่อยิวและชีอะฮฺเถอะพี่น้อง สงครามครั้งนั้นและการยึดครองของหุ่นเชิด มันเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ไปเรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้คือการใช้กระแส IS มาอำพรางกลบเกลื่อนความเลวร้ายที่ตนก่อไว้เท่านั้นเอง

พี่น้อง เรื่องของสงคราม การตัดคอ เชือดคอ จับคุกเข่าประหาร มันคือสิ่งที่ปฏิบัติกันมาเป็นเรื่องธรรมดาตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบันซาอุดีก็ยังมีการลงโทษแบบประหารตัดคอ ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้คือสิ่งปกติธรรมดา ที่เป็นไปตามกติกาสังคมมนุษย์ สงครามในปัจจุบันก็มีการยิงกัน ระเบิดกัน ISIS ก็ทำสิ่งเหล่านี้เหมือนกัน แถมอาวุธที่ใช้ยังด้อยกว่า เบากว่าประเทศต่างๆโดยเฉพาะมหาอำนาจไม่รู้กี่เท่า
แต่อิสลามห้ามเรื่องการทำร้าย ทรมานเชลยศึก ข่มขืน ทารุณกรรม ความบ้าคลั่ง และแน่นอนว่า กติกาสากลก็ห้ามเช่นกัน แต่ดูเหมือนทหารจากประเทศนิยมลัทธิประชาธิปไตยจะมีอุปนิสัยป่าเถื่อนวิปริต แต่สำหรับกลุ่มมุสลิมนิยมรัฐอิสลาม ไม่มีความโหดร้ายป่าเถื่อนเช่นนั้นเลย

>> พี่น้องคงไม่ปฏิเสธนะว่า ผู้ที่บุกรุกอิรัก ตลอดจนผู้ให้ความร่วมมือ และก่อให้เกิดผลเลวร้ายต่างๆต่อชาวอิรัก โลกหน้าเขาจะต้องถูกสอบสวนชำระโทษ และเช่นเดียวกัน พี่น้องจะปฏิเสธหรือไม่ว่า ไม่ว่าจะเป็นมุสลิมเองก็ตาม จะผู้นำประเทศ หรือจะผู้รู้ระดับไหนก็ตาม ไม่ได้มีการการันตีใดๆว่าจะรอดพ้นจากการถูกสอบสวน หากมีส่วนเกี่ยวข้องหรือเป็นเหตุในการที่ทำให้ชาวอิรักเกิดผลร้ายเช่นนี้

.......................
โดยอัซซาบิกูน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น