ส่วนหนึ่งจากฮุก่มต่างๆสำหรับผู้ที่มีภรรยาหลายคน และฮุก่มการที่่เสียงเล็ดลอดออกมาจากนอกสถานที่ร่วมหลับนอนของสามีภรรยา
สามารถนำบรรดาภรรยามาร่วมหลับนอนในเวลาเดียวกันได้หรือไม่?
قال ابن قدامة رحمه الله :
... فإن رضيت امرأتاه بالسكن سوية في مسكن واحد جاز ذلك لأن الحق لهما فلهما المسامحة في تركه . وكذلك إن رضيتا بنومه بينهما في لحاف واحد . ولكن إن رضيتا بأن يجامع واحدة بحيث تراه الأخرى لم يجز ، لأن فيه دناءة وسخفا وسقوط مروءة فلم يبح برضاهما .
" المغني " 8 / 137.
อิบนุกุดามะฮฺได้กล่าวว่า
หากภรรยาทั้งสองของเขาพึงพอใจที่จะอยู่ที่เดียวกัน ในห้องๆ เดียว ดังกล่าวก็เป็นที่อนุญาต เพราะมันเป็นสิทธิ์ของหล่อนทั้งสอง แล้วการให้อภัยที่จะไม่ทำการดังกล่าวก็เป็นของหล่อนทั้งสอง และก็เช่นเดียวกันหากทั้งสองพึงพอใจโดยให้สามีนอนกลางระหว่างภรรยา ทั้ั้งสอง ภายไต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน (ก็เป็นสิทธิ์ของทั้งสอง ในผ้าห่มผืนเดียวกัน (ก็เป็นสิทธิ์ของทั้งสอง) ทว่าหากทั้งสองพึงพอใจที่จะให้สามีร่วมประเวณีภรรยาคนหนึ่งโดยที่ภรรยาอีกคนมองเห็น ก็ไม่เป็นที่อนุญาต เพราะในสิ่งดังกล่าวนั้น มีแต่ความต้อยต่ำ ความไร้เหตุผล ความตกต้ำด้านมารยาท มันไม่ได้ทำทั้งสองพึงพอใจแต่อย่างใด
อัลมุฆนีย์ 8 / 137
فالصحيح في هذه المسألة :
أنه يحرم وطء المرأة بمرأى أحد ، اللهم إلا إذا كان الرائي طفلاً لا يدري فهذا لا بأس به ، أما إن كان الطفل يتصور ما يفعل فلا ينبغي أيضا أن يحصل الجماع بمشاهدته ولو كان طفلاً ؛ لأن الطفل قد يتحدث عما رأى من غير قصد
" شرح كتاب النكاح من زاد المستقنع " شريط 17
มันเป็นที่ต้องห้ามที่จะมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาคนหนึ่งด้วยกับการมองของคนอื่นอีกคน โอ้อัลลอฮฺ เว้นแต่ว่าผู้มองนั้นจะเป็นเด็ก ไม่รู้ประสีประสา เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร ส่วนหากว่าเด็กนั้นสามารถที่จะรู้เรื่องราวที่ทำ มันก็ไม่ควรเช่นกันที่จะให้การมีเพศสัมพันธ์เกิดขึ้นโดยมีการมองของเด็ก ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเด็ก เพราะว่าเด็กนั้น จะเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เขาเห็น โดยไม่มีเป้าหมายอะไร (เล่ามันซะทุกเรื่อง)
ชัรหฺ กิตาบ อันนิกาหฺ จาก ซาดุลมัสตักนิอฺ เทป 17
ฮุก่มการที่่เสียงเล็ดลอดออกมาจากนอกสถานที่ร่วมหลับนอนของสามีภรรยา ( ฮะรอม )
قال الحسن البصري :
كانوا -- أي : الصحابة أو كبار التابعين - يكرهون " الوجس " ، وهو أن يطأ إحداهما والأخرى تسمع الصوت - ولفظ الكراهة عند المتقدمين معناه التحريم -.
رواه ابن أبي شيبة في " المصنف " 4 / 388.
อัลหะซัน อัลบัศรีย์ กล่าวว่า
พวกเขานั้น (เศาะฮาบะฮฺ และตาบิอีนอาวุโส) รังเกียจ "อัลวัจสฺ" นั่นก็คือ การที่คนสองคนนั้นมีเพศสัมพันธ์กัน และมีคนอื่นได้ยินเสียง และคำว่าน่ารังเกียจ ณ ที่คนรุ่นก่อนๆ นั้น มีความหมายว่า เป็นที่ต้องห้าม
รายงานโดย อบูชัยบะอฺ ใน "อัลมุศ็อนนิฟ" 4/388
الكراهة معناها التحريم عند المتقدمين من الصحابة
"จากคำพูดของ ท่านฮะซันอัลบัสรีย์ ทีว่า เป็นที่น่ารังเกลียดนั้น ตามหลักของนักฟิกฮฺ แล้ว หมายถึง ฮะรอม "
................................
Ilyas Lertsuksakda แปล
Hamzah Assalafy Thailand Sabi เรียบเรียง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น