อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ผู้ที่มีภรรยาหลายคนและเสียงเล็ดลอด



ส่วนหนึ่งจากฮุก่มต่างๆสำหรับผู้ที่มีภรรยาหลายคน และฮุก่มการที่่เสียงเล็ดลอดออกมาจากนอกสถานที่ร่วมหลับนอนของสามีภรรยา
สามารถนำบรรดาภรรยามาร่วมหลับนอนในเวลาเดียวกันได้หรือไม่?

قال ابن قدامة رحمه الله :
... فإن رضيت امرأتاه بالسكن سوية في مسكن واحد جاز ذلك لأن الحق لهما فلهما المسامحة في تركه . وكذلك إن رضيتا بنومه بينهما في لحاف واحد . ولكن إن رضيتا بأن يجامع واحدة بحيث تراه الأخرى لم يجز ، لأن فيه دناءة وسخفا وسقوط مروءة فلم يبح برضاهما .
" المغني " 8 / 137.

อิบนุกุดามะฮฺได้กล่าวว่า
หากภรรยาทั้งสองของเขาพึงพอใจที่จะอยู่ที่เดียวกัน ในห้องๆ เดียว ดังกล่าวก็เป็นที่อนุญาต เพราะมันเป็นสิทธิ์ของหล่อนทั้งสอง แล้วการให้อภัยที่จะไม่ทำการดังกล่าวก็เป็นของหล่อนทั้งสอง และก็เช่นเดียวกันหากทั้งสองพึงพอใจโดยให้สามีนอนกลางระหว่างภรรยา ทั้ั้งสอง ภายไต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน (ก็เป็นสิทธิ์ของทั้งสอง ในผ้าห่มผืนเดียวกัน (ก็เป็นสิทธิ์ของทั้งสอง) ทว่าหากทั้งสองพึงพอใจที่จะให้สามีร่วมประเวณีภรรยาคนหนึ่งโดยที่ภรรยาอีกคนมองเห็น ก็ไม่เป็นที่อนุญาต เพราะในสิ่งดังกล่าวนั้น มีแต่ความต้อยต่ำ ความไร้เหตุผล ความตกต้ำด้านมารยาท มันไม่ได้ทำทั้งสองพึงพอใจแต่อย่างใด
อัลมุฆนีย์ 8 / 137

فالصحيح في هذه المسألة :
أنه يحرم وطء المرأة بمرأى أحد ، اللهم إلا إذا كان الرائي طفلاً لا يدري فهذا لا بأس به ، أما إن كان الطفل يتصور ما يفعل فلا ينبغي أيضا أن يحصل الجماع بمشاهدته ولو كان طفلاً ؛ لأن الطفل قد يتحدث عما رأى من غير قصد
" شرح كتاب النكاح من زاد المستقنع " شريط 17

มันเป็นที่ต้องห้ามที่จะมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาคนหนึ่งด้วยกับการมองของคนอื่นอีกคน โอ้อัลลอฮฺ เว้นแต่ว่าผู้มองนั้นจะเป็นเด็ก ไม่รู้ประสีประสา เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร ส่วนหากว่าเด็กนั้นสามารถที่จะรู้เรื่องราวที่ทำ มันก็ไม่ควรเช่นกันที่จะให้การมีเพศสัมพันธ์เกิดขึ้นโดยมีการมองของเด็ก ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเด็ก เพราะว่าเด็กนั้น จะเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เขาเห็น โดยไม่มีเป้าหมายอะไร (เล่ามันซะทุกเรื่อง)
ชัรหฺ กิตาบ อันนิกาหฺ จาก ซาดุลมัสตักนิอฺ เทป 17

ฮุก่มการที่่เสียงเล็ดลอดออกมาจากนอกสถานที่ร่วมหลับนอนของสามีภรรยา ( ฮะรอม )

قال الحسن البصري :
كانوا -- أي : الصحابة أو كبار التابعين - يكرهون " الوجس " ، وهو أن يطأ إحداهما والأخرى تسمع الصوت - ولفظ الكراهة عند المتقدمين معناه التحريم -.
رواه ابن أبي شيبة في " المصنف " 4 / 388.
อัลหะซัน อัลบัศรีย์ กล่าวว่า
พวกเขานั้น (เศาะฮาบะฮฺ และตาบิอีนอาวุโส) รังเกียจ "อัลวัจสฺ" นั่นก็คือ การที่คนสองคนนั้นมีเพศสัมพันธ์กัน และมีคนอื่นได้ยินเสียง และคำว่าน่ารังเกียจ ณ ที่คนรุ่นก่อนๆ นั้น มีความหมายว่า เป็นที่ต้องห้าม
รายงานโดย อบูชัยบะอฺ ใน "อัลมุศ็อนนิฟ" 4/388

الكراهة معناها التحريم عند المتقدمين من الصحابة
"จากคำพูดของ ท่านฮะซันอัลบัสรีย์ ทีว่า เป็นที่น่ารังเกลียดนั้น ตามหลักของนักฟิกฮฺ แล้ว หมายถึง ฮะรอม "

................................
Ilyas Lertsuksakda แปล
Hamzah Assalafy Thailand Sabi เรียบเรียง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น