อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

มุสลิมเลือกผู้นำ



ห้ามสนับสนุนผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ไม่ใช่ผู้ศรัทธา ถ้าหากว่ามีผู้สมัครที่เป็นผู้ศรัทธาแข่งขันด้วย เพราะการให้ผู้ไม่ศรัทธามาปกครอง ผู้ศรัทธานั้นเป็นสิ่งต้องห้ามตามมติเอกฉันท์ของนักวิชาการอิสลาม ดังอัลลอฮตรัสว่า

ولن يجعل الله للكافرين على المؤمنين سبيلا  ( النساء 141)

“และอัลลอฮจะไม่ทรงให้บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธามีทางใดเหนือบรรดาผู้ศรัทธาเป็นอันขาด”

(อันนิซาอ 141)

         ในหนังสือ เมาซูอะห์ อัลฟิกฮียะห์ (6/218) ได้กล่าวถึง เงื่อนไขของการเป็นผู้นำ ซึ่งนักวิชาการได้ตั้งเงื่อนไขของการเป็นผู้นำไว้หลายเงื่อนไข บางเงื่อนไขนักวิชาการได้เห็นพ้องต้องกัน แต่บางเงื่อนไขพวกเขาก็มีความเห็นแตกต่างกัน


 เงื่อนไขที่นักวิชาการเห็นพ้องกันคือ

     1- ผู้ปกครองต้องนับถือศาสนาอิสลาม เพราะมันเป็นเงื่อนไขหนึ่งของการเป็นพยาน และเป็นเงื่อนไขของการปกครองที่ชอบธรรม

     2- ต้องมีสภาวะผู้นำ รวมถึงมีความคิด สติปัญญา และบรรลุนิติภาวะ เด็กหรือคนวิกลจริตจะเป็นผู้นำไม่ได้ ตามหลักการอิสลาม

     3- ต้องเป็นผู้ชาย ไม่ถูกต้องที่จะให้ผู้หญิงเป็นผู้นำ เพราะตำแหน่งผู้นำ ต้องเกี่ยวข้องกับงานที่มีความเสี่ยง และบางทีต้องใช้อาศัยร่างกายที่แข็งแรง โดยธรรมชาติร่างกายผู้หญิงอ่อนแอ รับไม่ไหวกับการเป็นผู้นำกองทัพ หรือดูแลกองทัพ หรือบางทีต้องเข้าร่วมรบด้วย

     4- เชื่อมั่นในตัวเอง คือเป็นคนเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ เสียสละ เพราะทั้งหมดจะเป็นสิ่งทีทำให้มีการเชื่อฟังคำสั่งในการทำสงคราม หรือเรื่องนโยบายในการปกครองและเป็นกำลังใจของประชาชน

     5- เป็นเสรีชน

     6- มีไหวพริบ ปฏิภาณ ร่างกายไม่พิการ เพื่อการเป็นผู้นำที่แข้มแข็ง

ทั้งหมดคือเงื่อนไขของการเป็นผู้นำที่นักวิชาการมีความเห็นพ้องกัน


เชคยิบรีน ถูกถามว่า ฮุก่มอย่างไรการที่มุสลิมไปร่วมในการปกครอง และไปร่วมในการคัดเลือกผู้ปกครอง ?

         ท่านตอบว่า  ไม่อนุญาติไห้ผู้ศรัทธามีส่วนร่วมในการให้กำลังใจผู้ปฎิเสธ หรือคัดเลือกเขาให้เป็นผู้นำของบรรดาผู้ศรัทธา เพราะการกระทำเช่นนั้นเป็นการส่งเสริมช่วยเหลือสนับสนุนและนับถือพวกเขา อัลลอฮให้ตัดการติดต่อ และตัดความอาทรระหว่างผู้ศรัทธากับผู้ไม่ศรัทธา ถึงแม้จะเป็นญาติพี่น้องกันทางสายเลือด ดังพระองค์ตรัสว่า

لا تتخذوا أباءكم وإخوانكم أولياء إن استحبوا الكفر على الإيمان ( التوبة 23)

“บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! จงอย่าได้ถือเอาบิดาของพวกเจ้า และพี่น้องของพวกเจ้าเป็นมิตร หากพวกเขาชอบการปฏิเสธศรัทธาเหนือการอีมาน”

(เตาบะห์  23)

         แต่ถ้าหากว่ามีผู้ศรัทธาเข้าไปร่วมในการปกครอง แล้วทำให้พวกเขาฟังเสียงมุสลิมหรือทำอะไรที่เป็นประโยชน์ให้กับประชาชนที่เป็นมุสลิม แต่ถ้าปล่อยการปกครองทั้งหมดให้กับผู้ปฏิเสธแล้วมันจะเป็นผลร้ายต่อสังคมมุสลิม  และไม่มีหนทางที่มุสลิมจะเลือกผู้ปกครองที่เป็นมุสลิมมาปกครองมุสลิมได้ ก็อนุญาตไห้ไปร่วมปกครองกับผู้ปฏิเสธได้ เพื่อเสนอแนวทางที่เป็นประโยชน์กับสังคมมุสลิมโดยรวม  แต่การที่มุสลิมไปเลือกผู้ปฏิเสธเป็นผู้นำนั้นไม่อนุญาตตามหลักการอิสลาม เพราะจะทำให้ผู้ปฏิเสธออกกฎมาปกครองมุสลิม ทั้งหมดคือคำตอบของเชคยิบรีน



         ท่านต้องรับผิดชอบที่ไปเลือกผู้ไม่ศรัทธามาเป็นผู้นำผู้ศรัทธา แต่ถ้าไม่มีผู้ศรัทธาลงสมัครรับเลือกตั้งเลยก็ไม่ผิดหลักการอิสลาม  ในการที่ผู้ศรัทธาจะเลือกคนที่เป็นอันตรายน้อยที่สุดและทำประโยชน์ไห้กับผู้ศรัทธามากที่สุดมาเป็นผู้นำของเขา


والله أعلم


الإسلام سؤال وجواب

شريف الريس   แปล

 http://www.islammore.com/


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น