อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ภูต-ผีไม่ใช่วิญญาณของคนตาย แต่มันคือญิน-ชัยตอน



แต่..อิสลามเชื่อในเรื่องของ ญิน และ ชัยฏอน ส่วนมุสลิมจะไม่เรียกญินหรือชัยฏอนว่าเป็นพวกภูตผีปีศาจ....
ตามหลักการอิสลามนั้น ไม่มีเรื่องของภูตผีหรือวิญญาณ
เมื่อตายแล้ว วิญญาณออกจากร่าง จะถูกเก็บเอาไว้ที่ โลกอะลัมบัรฺซัค คือโลกที่อยู่ระหว่างโลกดุนยา (โลก ปัจจุบัน) กับโลกอาคิเราะฮฺ (โลกแห่งการพิพากษา) ซึ่งเป็นโลกที่เก็บวิญญาณของบุคคล ที่เสียชีวิตไปแล้วนั่นเอง
แต่ที่เราเห็นเล่านั้น คือมารร้าย ชื่อว่า ญิน และ ชัยฏอน เป็นผู้ที่ไม่เคารพเชื่อฝั่งคำสั่งของพระเจ้า และต้องการล่อลวงบรรดาลูกหลานอาดัมให้หลุดจากแนวทางของศาสนา

ไม่ว่าจะเรื่อง ยุยงเรื่องความโกรธ ขาดความอดทน เมื่อโกรธเขาจะมายุให้เราเอาคืนแล้วทะเลาะกัน กระซิบกระซาบในหัวใจ ให้ออกห่าง ล่อลวงบรรดาผู้คนที่ศรัทธาอ่อนแอ แต่สิ่งที่เหล่านี้กลัว คือบรรดามุมินฮฺ (บรรดาผู้ศรัทธาและปฎิบัติตามหลักศาสนาที่ถูกต้อง)

ญินและชัยฏอนเขามีการคงอยู่ แค่วันสิ้นโลกเท่านั้น ดังนั้น ญินและชัยฏอน จะพยายามทุกวิถีทางให้มนุษย์หลงตามมัน โดย 1 ในวิธีการนั้น คือ ออกมากลั่นแกล้งแปลงร่าง ต่างๆ ให้คนหวาดกลัว จนความศรัทธาสั่นคลอน แล้วหันไปพึ่งพิงของศักดิ์สิทธิ ที่ไม่มีอยู่ในหลักการอิสลาม
เพื่อที่คนเหล่านั้น จะได้ไปพึ่งสิ่งอื่นที่ไม่ใช่พระเจ้า

ทั้ง ญิน และ ชัยฎอนนี้ ไม่สามารถมีฤทธิ์และอำนาจฆ่ามนุษย์ได้ มีที่อยู่อาศัยบริเวณที่รกร้าง ซากปรักหักพัง สถานที่สกปรกต่างๆ บริเวณที่โล่ง ตามป่าเขา รวมถึงห้องน้ำ และสถานที่ ที่มีรูปปั้นทั้งหลาย

ดังนั้น มุสลิมจะมีวิธีป้องกันเหล่ามารร้ายอยู่แล้ว ด้วยการขอความคุ้มครองต่อพระเจ้า ให้พ้นจากชัยฏอนมารร้าย ก่อนทุกครั้งไม่ว่าจะทำกิจกรรมใดๆ

ไม่ว่าจะก่อนนอน ก่อนทานข้าว หรือเข้าไปในสถานที่ต่างๆค่ะก่อนเข้าบ้าน /ปิดบ้าน ฯลฯ

วิธีป้องกันญินและชัยฏอน

คร่าวๆสั้นๆไม่ยากเลย

1. เวลามักริบให้รีบเข้าบ้านเพราะญินและชัยฏอนจะออกมาแยะ ลักษณะคล้ายฝูงค้างคาวออกจากถ้ำ

2. ปิดประตูหน้าต่างให้กล่าว บิสมิลลา ฮิรฺเราะฮฺมานิรเราะฮีม คำแปล : “ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปรานีผู้ทรงเมตตาเสมอ” ประตูหน้าต่างบานใด กล่าวพระนามของฮัลลอฺฮฺ ทั้งญินและชัยฏอน จะเข้าประตูหน้าต่างบานนั้นไม่ได้

3. เวลาปิดถุง หม้อข้าว หม้อทุกชนิด ถุงของกินทุกอย่างให้กล่าว บิสมิลลา ฮิรฺเราะฮฺมานิรเราะฮีม เช่นกัน เพราะยามดึก ญิณและชัยฏอน จะหากิน อาหารของเขา คือ กระดูกและถ่าน หากเราปัสสาวะรด กระดูก หรือเหยียบเศษอาหาร บรรดาชัยฏอรเหล่านั้นจะมาทำร้ายเรา เพราะไปทำลายอาหารเขา

4. ก่อนเข้าบ้านให้กล่าวบิสมิลลา ฮิรฺเราะฮฺมานิรเราะฮีม

5. ที่รกร้าง บ้านร้างเก่าๆ ป่าเขา ซากปรักหักพังต่างๆ นั่นเป็นที่อยู่ของเขา โค้ง 100 ศพ มีศาลตั้ง ขับรถไม่ต้องบีบแตรนะคะ ไม่ใช่ศาสนาของเรา แต่กล่าว อะอูซุ บิลลาฮิ มินัช-ชัยฏอนิร-เราะญีม. คำแปล : ฉันขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺ ให้พ้นจากมารที่ถูกสาปแช่ง แทน.. ญิณและชัยฏอนมารร้ายที่อาศัยอยู่ จะกระเจิงไปเอง ไม่งั้นจะมาให้เห็นเป็นรูปต่างๆ ให้เราหวั่นไหว อีหม่านสั่นคลอน...แล้วจะมาบ่นว่าเห็นผีอีก...

6. ห้องนอน ที่นอน ในบ้านอย่ามีมากมาย เหลือใช้เกินความจำเป็น เช่น ห้องนอน ที่นอน หากมีแยะ มันก็จะเป็นที่อยู่ของชัยฏอนเช่นกัน เช่นมี ห้องนอน 6 ห้อง ใช้จริงๆ แค่ 3 ห้อง อีก 3 ห้อง นั่นแหละ สวรรค์ของพวกนี้เลย หากแต่ ใช้ 3 เผื่อไว้อีก 1 ไว้ใช้ยามญาติมาเยี่ยมเยียน นั่นน่ะได้ ที่นอน มี 6 ใช้ 3 อีก 3 ก็ เป็นที่นอนของมัน

อยู่แบบพอเพียง ดีกว่าอยู่แบบอลังการณ์งานสร้าง...สร้างไว้เผื่อมารร้าย...

7. รูปทุกชนิด ที่อยู่ในบ้าน หรือข้าวของเครื่องใช้ สิ่งใดเป็นรูปของสิ่งมีชีวิตให้เอาออก หรือเก็บลงแฟ้ม ถ้ายังมีอยู่ตอนดึก ยามค่ำคืน จะออกมา ปาร์ตี้กันเต็มบ้านเลย.. เสียง ก่อกแกร่กๆ นั่นและเขากำลังมา

8. เมื่อจะมีการหลับนอนกับสามีภรรยา ให้กล่าวดุอาเช่นกัน เพราะชัยฏอนจะไม่มาเป็นวุ่นวาย และหากเป็นประสงค์ของพระเจ้า ท่านก็ได้บุตรที่ได้รับความคุ้มครองจาก พระองค์อัลลอฮฺ ซุบบะฮานะฮูวะตะอาลา

คำอ่าน : บิสมิลลาฮิ อัลลอฮุมมะ ญันนิบนิชชัยฏอนะ วะญัน นิบิชชัยฏอนะ มาเราะซักตะนา

คำแปล : ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮฺ โอ้อัลลอฮฺโปรดทรงให้ชัยฏอนห่างไกลจากฉัน และให้ชัยฏอนห่างไกลจากสิ่ง (บุตร) ที่พระองค์ทรงประทานแก่เรา
บันทึกโดย บุคอรี-มุสลิม

9. ก่อนทานอะไรให้กล่าว บิสมิ้ลลาฯ ไม่เช่นนั้น ชัยฏอนจะทานอาหารกับเราด้วย อยากใจดีเผื่อแผ่มารด้วยเหรอ...ถ้าลืม แล้วนึกออก ให้กล่าว บิสมิลลาฮิ วัลเอาวะลุ วัลอาคิลุ

10. ควรทานอาหารด้วยมือขวา เพราะมือซ้ายจะเป็นของชัยฏอน เมื่ออาหารตกพื้นให้รีบเก็บขึ้นมา หากไม่เปื้อนหรือโดนสิ่งนะญิส ให้ทำความสะอาดเอาออกบางส่วนก็ทานได้

11. เมื่อจะเข้าห้องน้ำ และก่อนออกจากห้องน้ำให้กล่าวดุอาอฺ

12. เมื่อเดินทางไปพักที่พักต่างๆ ให้กล่าวดุอาดังต่อไปนี้

أَعُوْذُبِكَلِمَاتِ اﷲِالتَّامَّاتِ
مِنْ شَرِّمَاخَلَقَ

คำอ่าน : อะอูซุ บิก้าลิมาติ้ลลา ฮิตตามมาติ มินชัรริมา ค่อลักกฺ

คำแปล : ฉันขอความคุ้มครองด้วยพจนาถของอัลลอฮฺ ที่สมบูรณ์ ให้พ้นจากความชั่วร้ายของสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างมา บันทึกโดย มุสลิม

13. ก่อนนอนให้ขอดุอาอฺ โดยการเป่าที่ฝ่ามือแล้วอ่าน กุล 3 กุล (อันนาส , อัลฟะลัก อัลอิคลาส ) จากนั้นลูบให้ทั่วร่างกาย ทำ 3 ครั้ง

ก่อนล้มตัวนอนให้กล่าวดุอาอฺว่า "บิสมิกัลลอฮุมมะ อะหฺยา วะอะมูตะ" ความว่า "ด้วยนามของอัลลอฮฺ โอ้อัลลอฮฺพระองค์ทรงทำให้ฉันมีชีวิตและทำให้ฉันเสียชีวิต"

อ่านกุ้ล 3 กุ้ล (อันนาส , อัลฟะลัก อัลอิคลาส
แล้วให้อ่านอายะฮฺ กุรซีย์ก่อนนอนทุกคืน เพื่อคุ้มครองป้องกันจากความชั่วร้าย ยามค่ำคืน จะเป็นพลทหารจะรักษาการณ์ให้เรา ยามหลับใหล จนถึงรุ่งเช้า อยู่ใน ซูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺ : 255

คำอ่าน :

อัลลอฮุ ลาอิลาฮะอิ้ลลา ฮุวั้ลหัยยุ้ลก็อยยูม
ลาต๊ะคุซุฮู สิน่ะตูวฺ วะลาเนามฺ
ละฮูมาฟิสสะมาวาติ วะมา ฟิ้ลอัรฺฎ
มันซั้ลละซี ยัซฟะอุ อินดุฮู อิ้ลลาบิอิซนิฮฺ
ยะอฺ ละมุ มาบัยนะอัยดีฮิม วะมาค้อลฟะฮุม
วะลายุฮีฏูนะบิ ชัยอิน มินอิ้ลมิฮี อิ้ลลาบิมาชาอฺ
วะสิอะกุรซียฺ ยุฮุสสะมาวาติวั้ลอัรฺฎ
วะลายะอูดุฮู หิฟซุฮุมา
วะฮุวั้ล อะลียฺ ยุ้ล อะซีม

คำแปล :

อัลลอฮฺ (ทรงเป็นเจ้า) ซึ่งไม่มีพระเจ้าใดๆ (อีกแล้ว) นอกจากพระองค์เท่านั้น ทรงเป็นเสมอ ทรงดำรงอยู่ ความง่วงและความหลับไม่ครอบงำพระองค์ พระองค์ทรงสิทธิ์ ในสรรพสิ่งที่มีอยู่ในชั้นฟ้า และสิ่งที่อยู่ในแผ่นดิน ใครเล่าที่จะให้การสงเคราะห์ (แก่ผู้อื่น) ณ พระองค์ได้ นอกจากจะเป็นไปโดยอนุมัติของพระองค์เท่านั้น พระองค์ทรงรอบรู้สิ่งที่มีอยู่ต่อหน้าพวกเขา และที่อยู่เบื้องหลังพวกเขา และพวกเขาไม่ครอบคลุมความรู้สักเพียงเล็กน้อยของพระองค์ นอกจากในสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ (จะให้พวกเขารู้) เท่านั้น เก้าอี้ (คืออำนาจปกครอง) ของพระองค์แผ่ไพศาลทั่วทั้งชั้นฟ้าและแผ่นดิน และการพิทักษ์มันทั้งสอง ไม่ทำให้พระองค์เหนื่อยยากเลย และพระองค์ทรงสูงส่ง อีกทั้งทรงยิ่งใหญ่


.............................
สุวัฒน์ อิสมาแอล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น