อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

การเลียนแบบชนกลุ่มอื่นที่มิใช่มุสลิม


การเลียนแบบ (อัตตะชับบุฮฺ)  นั้น  นักวิชาการได้แบ่งประเภทออกเป็น  2  ประเภท  กล่าวคือ

1.  การเลียนแบบที่อนุญาต (อัลญะวาซฺ) อาทิเช่น การเอาประโยชน์จากวิทยาการที่มีประโยชน์และอารยธรรมความเจริญของสังคมมนุษย์  เช่น การแพทย์, สถาปัตยกรรม, ฟิสิกส์, เคมี, อาวุธยุทธภัณฑ์  ฯลฯ ทั้งนี้เพราะเข้าอยู่ในนัยของหะดีษที่รายงานโดยอิบนุมาญะฮฺ  ว่า : \"การแสวงหาความรู้นั้นเป็นภารกิจจำเป็นเหนือมุสลิมทุกคน\"  และเข้าอยู่ในนัยกว้างๆ ของพระดำรัสที่ว่า  \"และสูเจ้าทั้งหลายจงตระเตรียมสำหรับพวกเขา  (ศัตรูของสูเจ้าทั้งหลาย)  ซึ่งสิ่งที่พวกท่านมีความสามารถจากพลัง...\"  (อัลอัมฟาลฺ  :  61)


2.  การเลียนแบบที่เป็นที่ต้องห้าม  (อัตตะฮฺรีม)  ดังกล่าวคือการเลียนแบบในด้านวิถีชีวิต , จริยธรรม , ประเพณีและจารีตต่าง ๆ อันเป็นสิ่งที่แปลกแยกจากวิถีทางของอิสลามและขัดแย้งกับอัตลักษณ์เฉพาะของประชาคมมุสลิมตลอดจนโครงสร้างทางจริยธรรม  ทั้งนี้เป็นเพราะสิ่งดังกล่าวจะนำพาไปสู่การสูญเสียอัตลักษณ์, บุคลิกภาพและความภาคภูมิใจในความเป็นมุสลิม

(เก็บความจากตัรบียะตุ้ลเอาล๊าด ฟิล อิสลาม ; อับดุลลอฮฺ นาซิฮฺ อัลวาน ; เล่มที่ 1 หน้า 142-143)

http://alisuasaming.com/





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น