อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

มรดกและคำสั่งเสียของท่านนบี




ท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม) ได้ทิ้งคัมภีร์กุรอานไว้เป็นมรดกแก่ประชาชาติของท่าน

รายงานจากท่านฏ็อลฮะฮฺ บินมุซัรฺริฟ  (ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ) เล่าว่า

ฉันได้ถามอับดุลลอฮฺ บินอบูเอาฟะฮฺว่า : ท่านรสูลุลลอฮฺทำพินัยกรรมไว้หรือไม่?
เขาตอบว่า : ไม่ฉันได้กล่าวว่า : แล้วเป็นไปได้อย่างไรที่เราได้ถูกสั่งให้ทำพินัยกรรม? เขาตอบว่า ; ท่านนบี ได้ทิ้งคัมภีร์ของอัลลอฮฺ (อัลกุรอาน)ไว้เป็นมรดก" (บันทึกหะดิษโดยอิมามอัลบุคอรีย์ เลขที่ 46.3)


ท่าานนบีได้สั่งเสียในเรื่องคัมภีร์อัลกุรอาน สุนนะฮฺของท่าน และครอบครัวของท่าน

รายงานจากท่านยะฮฺยา (ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ) เล่าว่า
"ครั้งหนึ่ง ท่านนบี  (ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม) ได้กล่าวว่า"ฉันได้ทิ้ง 2 สิ่งไว้กับพวกท่าน ตราบใดที่พวกท่านยึดมันไว้ พวกท่านจะไม่หลงทาง นั้นคือคัมภีร์ของอัลลอฮฺ และสุนนะฮฺของนบีของพระองค์" (บันทึกหะดิษโดยอิมามมาลิก เลขที่ 46.3)

รายงานจากท่านเซด บินอัรฺก็อม (ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ) เล่าว่า
"ในการกล่าวปราศรัยครั้งหนึ่ง ท่านนบีได้บอกผู้คนว่า
: พวกท่านทั้งหลาย ฉันเป็นมนุษย์คนหนึ่ง บางทีฉันจะต้องต้อนรับมลาอีกะฮ์แห่งความตาย จากพระผู้อภิบาลของฉัน...
ฉันจะทิ้ง 2 สิ่งที่สำคัญไว้ในหมู่พวกท่าน สิ่งแรกก้คือคัมภีร์ของอัลลอฮฺ ซึ่งในนั้นมีทางนำที่ถูกต้องและแสงสว่าง 
ดังนั้น จงยึดมั่นในคัมภีร์และปฏิบัติตามมัน 
สิ่งที่สอง ก็คือ ครอบครัวของฉัน (กล่าวคือ บรรดาผู้ที่ถูกห้ามรับซะกาต ตามการอธิบายความหมายของนักวิชาการบางท่าน" (บันทึกหะดิษโดยอิมามมุสลิม เลขที่ 31.5920)

والله أعلم بالصواب


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น