อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ระดับความร้ายแรงของบิดอะฮฺ


บิดดะฮฺทางศาสนา เป็นเฎาะลาละฮฺทั้งหมด แต่บิดอะฮฺไม่ได้มีความร้ายแรงในระดับเดียวกันทั้งหมด แต่บิดอะฮฺแบ่งได้หลายระดับ ซึ่งบางชนิดก็ร้ายแรงถึงขันหลุดออกจากศาสนา บ้างก็เทียบเท่ากับบาปใหญ่ หรือบ้างก็บาปเล็ก แต่ทั้งนี้บรรดาบิดอธฮฺทุกอย่างล้วนถือเป็นความหลงผิดทั้งสิ้น

บิดอะฮฺแบ่งออกตามความร้ายแรง ดังนี้

-บิดอะฮฺหะกีกียะฮฺ คือกิจการที่เป็นบิดอะฮฺล้วนๆ ชัดๆ ที่อุตริขึ้นใหม่ทางศาสนา ทั้งที่จริงแล้วมันไม่เกี่ยวกับอิบาดะฮฺแต่ประการใดเลย เช่น การทำตัวเป็นนักบวชไม่แต่งงาน การเฏาะวาฟหลุมสุสานวะลี

-บิดอะฮฺอิฏอฟียะฮฺ คือ บิดอะฮฺอย่างใดอย่างหนึ่งที่เห็นเป็นสองแง่สองมุม คือเมื่อดูในแง่หนึ่งจะเห็นได้ว่าเป็็นบิดอะฮฺ แต่เมื่อดูอีกแง่หนึ่งจะเห็นว่าไม่น่าเป็นบิดอะฮฺ เช่น การอาซานในละหมาดอีด การละหมาดนิศฟุชะอฺบาน การเศะละวาตหลังละหมาดพร้อมกันด้วยเสียงดัง
ดั่งท่านอิบนุหะญัร อัล-หัยตะมีย์ กล่าวถึงการเศาะละวาตนี้ว่า
"เริ่มแรกนั้นดูคล้ายเป็นสุนนะฮฺ แต่วิธีปฏิบัติกลับเป็นบิดอะฮฺ..."

-บิดอะฮฺกุลลียะฮฺ คือ บิดอะฮฺที่มีผลทำให้กิจการอื่นๆต้องเสียหายไปด้วย เช่น การปฏิเสธสุนนะฮฺ หรือหะดิษของท่านนบี ศ้อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม โดยถือว่าอัลกุรอานก็เพียงพอแล้ว

-บิดอะฮฺญุซอียะฮฺ คือ บิดอะฮฺที่ทำให้อย่างหนึ่งเสียไปเท่านั้น เช่น เปลี่ยนแปลงประโยคคำ การอาซาน เป็นต้น

เมื่อบิดอะฮฺต่างๆมีหุก่มที่หลากหลายไม่เหมือนกัน ชาวอะลุสสุนนะฮฺ วัลญะมาอะฮฺ ไม่ตัดสินพวกทำบิดอะฮฺด้วยหุก่มเดียวกัน แต่จะตัดสินไปตามระดับความร้ายแรงของบิดอะฮฺที่กระทำของแต่ละคน เพราะโทษของผู้ทำบิดอะฮฺเนื่องจากความไม่รู้ศาสนา(ญาฮิล) หรือเนื่องจากการตีความผิดพลาด ย่อมไม่เหมือนกับโทษของผู้รู้ที่เจตนาในสิ่งที่เป็นบิดอะฮฺ หรือผู้ที่เป็นถึงขั้นมุจญ์ตะฮิด(ผู้วินิจฉัยเองได้แต่กลับทำบิดอะฮฺ)

والله أعلم بالصواب
........................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น