“อัสสลามุอะลัยกุม”
ฉันกรอกเสียงลงในโทรศัพท์ด้วยเสียงที่หมดแรงเต็มที
“วะอะลัยกุมุสสลาม วะเราะฮฺมะตุลลอฮฺ”
เสียงเขาตอบออกมาอย่างแผ่วเบาไม่แพ้กัน
“ไม่สบายอีกแล้วหรอ ?”
อีกแล้ว…เสียงที่แสดงความห่วงใยอีกแล้ว … ช่างห่วงใยจริง ๆ เลยผู้ชายคนนี้
“อืม” ฉันตอบออกไปสั้น ๆ
“กินข้าวหรือยัง ?”
ประโยคเดิมๆ ที่เขาถามทุกวันและเป็นประโยคเดิมๆ ที่เมื่อก่อนมักทำให้ฉันแอบยิ้มเสมอ
“อืม”
เป็นอีกครั้งที่พูดแค่นี้ … แต่ฉันแอบยิ้มคนเดียว เขาสงสัยแน่เลย ทำไมฉันพูดน้อย
“วันนี้บังลงพื้นที่มา เจอเด็ก ๆ เยอะเลย ... เหนื่อยจัง”
เขาเริ่มพูดในสิ่งที่ฉันมักกระตือรือร้นเสมอ ฉันชอบฟังในเรื่องที่เขาเล่า
“อืม”
คำเดิม แต่ความรู้สึกของฉันไม่เหมือนเดิม…หวั่นไหวมากขึ้น
“ไม่ สบายอีกแล้วหรอ โดนแดดอีกละซี บอกแล้วว่าให้ระวัง ไม่ไหวเลยนะดูแลคนอื่นดีนักเชียว…แต่ไม่รู้จักดูแลตัวเอง แล้วข้าวนี้ยังไม่กินใช่ไหม ไม่ไหวเลยนะ…แบบนี้”
เมื่อไรจะหยุดพูดซักทีนะ ฉัน … กำลังจะแพ้ … อีกแล้ว....
“แค่นี้ก่อนแล้วกัน คลื่นไส้”
ฉันรีบพูดออกไป เพราะอาการผะอืดผะอมที่เป็นตั้งแต่เมื่อเช้าเริ่มกลับมาอีกครั้ง…และมันจะเป็นแบบนี้เสมอ เมื่อฉัน ... เครียด
“อย่าวางสายนะ บังเป็นห่วง”
ฉันได้ยินเสียงเขาตะโกนออกมา ก่อนที่ฉันจะอาเจียนจนหมดแรง และทุกอย่างกลายเป็นสีดำไปหมดในความรู้สึกฉัน
………………
“เป็นไงบ้าง! รู้ไหม ตอนที่เธอเป็นลมไป บังเขาโทรตามพวกฉัน ตามยาม แล้วก็ตามเธอมาที่โรงพยาบาลนี่แหละ”
เพื่อนฉันรีบบอก ทันทีที่ฉันลืมตาขึ้น หลังจากที่ฉันฟื้นขึ้นมา
ฉันเหลือบไปมองหน้าเขา เห็นความกังวลอย่างเห็นได้ชัด เขาห่วงฉันมากจริงๆ มากซะจนลืมคิดถึง … อะไรบางอย่าง…
“เธอ นะโชคดีรู้ไหม ที่บังเขาคอยเป็นห่วง ทั้งๆ ที่บังเขาไม่เคยใส่ใจใครมากขนาดนี้มาก่อนเลยนะ พวกก๊ะที่อยู่เอกเดียวกับบังบอกว่า บังเขาแทบจะไม่คุยกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน เลย เธอโชคดีนะ ที่ทำให้หัวใจของเจ้าชายน้ำแข็งคนนี้ละลายได้ใคร ๆ ก็อิจฉากันทั้งนั้น” เพื่อนของฉันแย่งกันพูด หลังจากที่เขาขอตัวไปละหมาด จนฉันหันซ้ายหันขวาตาม แทบไม่ทัน นอกจากยิ้ม…และยิ้ม !
“โชคดี” คำนั้นหลุดจากริมฝีปากของฉัน
ฉัน หมดแรง หมดแรงทั้งกายและใจ ไม่ใช่เพราะอะไร แต่มันเกิดจากการที่ฉันรู้สึกผิด รู้สึกผิดต่ออัลลอฮฺ ที่นับวันฉันเข้าใกล้คำว่าซินามากขึ้นทุกทีทุกที
ฉัน หมดแรง เพราะหลายเดือนที่ผ่านมาหลังจากที่ได้รู้จักกับผู้ชายคนนั้น…ฉันใช้เวลาหลัง มัฆริบไปกับการคุยโทรศัพท์ไปกับการแอบอมยิ้มเมื่อรู้ว่า…เขาเป็นห่วง กับการ หัวเราะกับเรื่องที่เขาเอามาเล่า
ความ รู้สึกของฉันไม่เหมือนเดิมเพราะฉันไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นแค่คนรู้จักอีกต่อ ไป ฉันรู้สึกกับเขามากกว่านั้น พี่ชายหรอ เพื่อนสนิท คนรัก หรือ…อะไร ฉันก็ไม่สามารถตอบได้
ฉัน รู้แต่ว่าฉันเป็นห่วง ฉันแคร์ และรู้สึกดีเมื่อรับรู้ว่าเขาก็คิดไม่ต่างจากฉันแต่…เมื่อฉันนั่งทบทวนดู แล้ว ฉันไม่พบคำว่าพี่ชายกับผู้ชายต่างสายเลือดตามหลักการอิสลาม
ฉัน ไม่พบคำว่า คนรักตามหลักการของอิสลาม นอกจากคนที่แต่งงานกันแล้ว และฉันก็ ไม่เคยรับรู้ ว่าคำว่าเพื่อนสนิทระหว่างชายกับหญิงจะมีตัวอย่างมันให้เห็นใน สมัยท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม
ฉันกับเขาเป็นอะไรกัน…เขาถึงได้ห่วงใยฉันขนาดนี้ ฉันไม่สามารถตอบคำถามตัวเองได้ พอ ๆ กับที่ฉันไม่สามารถตอบกับอัลลอฮฺได้เช่นกัน
ฉันรับรู้แค่เพียงว่าสำหรับชายหญิงที่ไม่ใช่พี่น้องและไม่ได้แต่งงานแล้ว…การเข้าใกล้เกินขอบเขต…นั้นคือซินา
ขอบ คุณสำหรับความห่วงใย…แต่จะดีกว่านี้หากเราเดินตามแนวทางของอัลลอฮฺ ไม่มีคำว่าเพื่อนสนิท คนรัก หรือพี่ชายสำหรับเราสองคน เพราะอิสลามไม่อนุมัติ เชื่อว่าบังคงเดินตามแนวทางที่ถูกต้อง มาอัฟด้วยที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเป็นภาระกับบังตลอด และมาอัฟมาก ๆ เลย ที่เป็นคนดึงให้บังตกต่ำลงจากที่ๆ บังเคยอยู่
แท้ จริงแล้วชายที่ดี ย่อมคู่ควรกับหญิงที่ดี คิดว่าบังน่าจะหาคนอื่นที่เหมาะสมมากกว่าผู้หญิงที่อ่อนแอทั้งกายและอีหม่าน คนนี้ ...อัสสลามุอะลัยกุม
หลัง จากจบประโยคนั้น เธอก็วางสายไป จากการคุยกับเธอทำให้ผมได้รู้ว่าเธอรู้สึก ผิดมากที่ทำให้ผู้ชายที่ไม่เคยโทรหาผู้หญิงอย่างผมต้องโทรหาเธอทุกคืน เธอ รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเริ่มต้นที่ทำให้ผมทำในสิ่งที่ไม่ดีที่ตัวเองไม่เคย ทำ เธอทำให้ผมละอาย
เมื่อก่อน…เธอคุยกับผู้อื่นไม่เลือก และไม่ปฏิเสธที่จะคุยกับผม
เมื่อก่อน…เธอไม่อ่านอัลกุรอานทุกวัน
เมื่อก่อน…เธอใส่หิญาบผืนสั้นนิดเดียว
เมื่อก่อน…เธอทั้งพูดและหัวเราะเสียงดัง
ตั้งแต่รู้จักกัน…ผมโทรหาเธอทุกคืน
ตั้งแต่รู้จักกัน…ผมไม่มีเวลาอ่านอัลกุรอาน
ตั้งแต่รู้จักกัน…ผมทำอะมัลน้อยลง
ตั้งแต่รู้จักกัน…ผมไม่เคยเบื่อเลยที่จะคุยกับเธอ
แต่…ผมมักจะหยิบยื่นหนังสือที่เกี่ยวกับอิสลามให้เธอเสมอ เพราะเธอบอกว่า เธอรู้น้อยเพราะเรียนสามัญมา
ทว่า…หนังสือพวกนั้น…ทำให้เธอห่างไกลจากผมทุกที ๆ
เธอเปลี่ยนไป ในขณะที่ผมเหมือนเดิม …
เธอ…มักจะไม่รับโทรศัพท์ผมหลังมัฆริบ เพราะอ้างว่าอ่านอัลกรุอาน
เธอ…ไม่คุยกับผมหลังอีชาอ์ เพราะเธอจะไปทำฮะลาเกาะฮฺ
เธอ…ไม่คุยกับผมตอนเช้า เพราะบอกว่าอ่านอัซการฺ
เธอ…พูดกับผมน้อยลง เพราะบอกว่า…ไม่มีอะไร ! จะพูด !
ผมเสียเธอไป…เพราะหนังสือ…ที่ผมเป็นคนหยิบยื่นให้
การที่คนเราไม่ใช่เนื้อคู่กันนั้นเป็นเพราะความดีของเราไม่มากพอกับความดีของเขาหรือเป็นเพราะความดีของเขาไม่มากพอกับความดีของเรา
แท้จริงแล้ว…ชายที่ดี…ย่อมคู่ควรกับหญิงที่ดี
เธอบอกให้ผมเลิกโทรหาเธอ พร้อมกับฝากข้อความนี้มากับเพื่อนของเธอ ...
“แล้วพ่อไปติดต่อแม่ยังไงค่ะ ?” เด็กสาววัย 18 ถามขึ้น
“พ่อก็ให้ปู่กับย่า ไปคุยกับตากับยาย หลังจากที่พ่อเรียนจบโท”
ผมตอบ พร้อมกับหันไปยิ้มกับเธอที่นั่งเย็บผ้าฟังผมเล่าเรื่องของเราให้ลูกฟัง
“แล้วแม่รู้ได้ไงครับว่าความดีของพ่อกับแม่คู่ควรกัน ?”
ลูกชายซึ่งเพิ่งกลับมาจากมหาลัยฯถามขึ้น
“ก็ ดูพฤติกรรมของพ่อเขาซี พ่อเขาก็เหมือนเดิม หลังจากที่คุยกับแม่ครั้งหลังสุด กลับไปอ่านอัลกุรอาน ละหมาดสุนัต และอยู่กับอัลลอฮฺมากขึ้น จากคำบอกเล่าของ น้าชายเราไง”
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง ชายที่ดีย่อมคู่ควรกับหญิงที่ดี … จริงๆ ด้วยค่ะ และลูกก็ดีใจที่ทั้งสองคนเป็นพ่อกับแม่ของหนู”
เด็กสาววัยรุ่นสรุปด้วยสีหน้ายิ้มแย้มตามด้วยเสียงหัวเราะของทุกคนในครอบครัว
ใช่ …ชายที่ดี … ย่อมคู่กับหญิงที่ดี …
.......................................
ประชาชาติ อิสลาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น