อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

"อินชาอัลลอฮ์" ในการให้คำมั่นสัญญา



          "อินชาอัลลอฮ์" หมายความว่า "หากพระองค์ทรงประสงค์" ซึ่งโดยทั่วไปผู้ที่เป็นมุสลิมจะใช้คำนี้ เมื่อต้องการรับปากว่าจะทำในสิ่งๆหนึ่งที่เขาตั้งใจไว้ ตามสิ่งที่ได้ตกลงกันไว้กับมุสลิมด้วยกันเอง จะเห็นว่าการใช้คำนี้จะติดปากผู้ที่เป็นมุสลิมบางคน แต่อีกหลายคนกลับไม่มีการพูดคำนี้เลย อาจเพราะว่าอาย เกรงว่าคนรอบข้างจะรู้ว่าเราเป็นมุสลิม หรือเกรงว่าคนอื่นไม่เข้าใจ หรืออาจเพราะมุสลิมไม่เข้าใจเสียเอง หรืออาจเพราะไม่แน่ใจว่าจะทำในสิ่งที่พูด และรับปากไว้ได้หรือไม่

          การรับปากว่าจะทำ เสมือนหนึ่งการให้คำมั่นสัญญา การให้ความหวังกับพี่น้องมุสลิมที่ตกลงกันไว้ว่า จะสามารทำได้สำเร็จตามที่รับปากไว้ หรือจะรีบทำให้ได้ตามที่พูดไว้ เพราะฉะนั้น มุสลิมจึงใช้คำว่า "อินชาอัลลอฮ์" ซึ่งมีพระนามของอัลลอฮ์ อยู่ในคำนั้น เพื่อเป็นพยานยืนยันในการรับปากทางคำพูด รวมทั้งการให้คำสัญญาในสิ่งนั้น

          ปัจจุบันเราจะพบว่า"อินชาอัลลอฮ" กลับไม่ได้เป็นอย่างที่ควรจะเป็น มุสลิมหลายต่อหลายคน รวมทั้งผู้ที่มีความรู้ จะใช้คำว่า "อินชาอัลลอฮ" เป็นการพูดเพื่อให้พ้นๆไป ในความรับผิดชอบต่อหน้าเท่านั้น แต่จะทำตามที่รับปากไว้หรือไม่นั้นไม่สำคัญ  เป็นคำที่ไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใส่ใจว่าการกล่าวคำว่า "อินชาอัลลอฮ" คือการกล่าวด้วยพระนามของพระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงยิ่งใหญ่ ผู้ทรงเกรียงไกรยิ่ง ผู้ทรงรอบรู้ในสิ่งเร้นลับและเปิดเผย พระนามของอัลลอฮ์ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการรับปาก และมั่นใจว่าจะทำให้สำเร็จได้ตามที่ได้ตกลงกันไว้ จึงกล่าวว่า "อินชาอัลลอฮ"

          "อินชาอัลลอฮ" หากพระองค์ประสงค์  ความประสงค์ของพระองค์อัลลอฮ์นั้น มนุษย์ไม่สามารถที่จะหยั่งรู้ได้ เหมือนกับการกำหนดกฏสภาวะการณ์ (กอฎอ-กอฎัร) ซึ่งเป็นกำหนดที่มนุษย์ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตต่อไปของชีวิตมนุษย์ผู้นั้น เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่สำหรับการทำงานเพียงเล็กน้อยที่เป็นความดี หรือการทำงานเพื่อศาสนาของพระองค์นั้น "อินชาอัลลอฮ" จึงเป็นสิ่งที่พระองค์พึงประสงค์จะให้เป็นไปตามการตั้งเจตนาที่ดี การกระทำในสิ่งที่เป็นความดี เมื่อเรากล่าวคำว่า "อินชาอัลลอฮ" นั่นคือการรับปากว่าจะปฏิบัติตามที่พูดไว้ และบุคคลที่เราพูดไว้หรือให้คำมั่นสัญญาไว้ ก็จะตั้งความหวังว่าเขาจะได้ในสิ่งที่ดีที่ได้กล่าวไว้ว่า "อินชาอัลลอฮ"

          เพราะฉะนั้นการใช้คำกล่าวว่า "อินชาอัลลอฮ" ซึ่งมีพระนามของอัลลอฮ์ จึงมิใช่เป็นการใช้อย่างพร่ำเพรื่อ หรือขอให้ผ่านพ้นไป ไม่ว่ากี่ครั้งก็จะกล่าวว่า "อินชาอัลลอฮ" แต่ไม่เคยที่จะปฏิบัติตามนั้นเลยสักครั้ง   แม้ว่าสิ่งที่รับปากนั้นจะเป็นการทำความดีก็ตาม

          มุสลิมกับคำว่า "อินชาอัลลอฮ" เป็นคำทีอยู่คู่กันในวิถีแห่งชีวิต เพราะเราดำเนินชีวิตด้วยพระประสงค์แห่งอัลลอฮ์  และทำทุกอย่างในสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ และทุกอย่างจะเกิดขึ้นไม่ได้หากพระองค์ไม่ประสงค์ให้เกิด

          ขอให้มุสลิมทุกคนใช้คำว่า "อินชาอัลลอฮ" ด้วยการตั้งเจตนาเพื่อให้เป็นไปตามพระประสงค์แห่งอัลลอฮ์ "อินชาอัลลอฮ"พระองค์จะให้ในสิ่งที่ท่านประสงค์ที่เป็นความดีได้เกิดขึ้น พระองค์จะทำให้เกิดความจำเริญ(บารอกัต) ในคำพูด คำกล่าว และจะทำให้เราเป็นผู้ที่คนอื่นไว้วางใจ และเชื่อมั่นในคำพูด คำสัญญาที่ให้ไว้ และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการยืนยันคำสัญญาที่ให้ไว้กับมนุษย์ผู้ต่ำต้อยด้วยกันเอง  และเราต้องพึงระลึกเสมอว่า "พระองค์อัลลอฮ์ นั้น มิทรงผิดคำสัญญา"


.........................................
โดย  อุมม์รอชิด
http://www.islammore.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น