อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

สุนนะฮฺของบรรดาเคาลีฟะฮฺอัรรอชิดีน

صحابة


นอกจากหลักฐานอ้างอิงจากกิตาบุลลอฮฺและสุนนะฮฺซึ่งถูกพิสูจน์ถูกต้องว่ามาจากสุนนะฮฺของท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมแล้ว ชาวอะลุสสุนะฮฺ วัลญะมาอะฮฺก็ยังต้องปฏิบัติตามในวิถีทางที่เหล่าเศาะฮาบะฮฺทั้งจากชาวมุฮาญิรีน และชาวอันศอรได้ดำเนินมา โดยเฉพาะแนวทางของบรรดาเคาะลีฟะฮฺอัร-รอชิดีน ร่อฎียัลลอฮุอันฮุม

ท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้สั่งเสียอย่างหนักแน่นให้ปฏิบัติยึดมั่นตามแนวทางของบรรดาเคาะลีฟะฮฺอัร-รอชิดีน และแนวทางของบรรดาผู้ปฏิบัติตามแนวทางเดียวกันในยุคต่อๆมาหลังจากศตวรรษแรกผ่านไป

ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
"จำเป็นแก่พวกท่านทั้งหลาย คือ สุนนะฮฺของฉัน และสุนนะฮฺของบรรดาเคาะลีฟะฮฺผู้รับทางนำอันเที่ยงธรรม พวกท่านจงยึดมั่นมันไว้ และจงกัดมันไว้(ให้แน่น) ด้วยฟันกราม และพวกท่านพึงระวังจากสิ่งต่างๆ อันเป็นเรื่องอุตริขึ้นใหม่(ในเรื่องศาสนา) เพราะทุกสิ่งที่อุตริขึ้นใหม่เป็นบิดอะฮฺ และบิดอะฮฺทุกอย่างนั้นเป็นความผิด" (เศาะเฮียะฮฺซุนันอบีดาวูด ของอัลบนีย์)

แนวทางของบรรดาเศาะหาบะฮฺของท่านรสูลยังเป็นหลักฐานสำคัญที่ชาวอะลุสสุนนะฮฺ วัลญามาอะฮฺนำมาใช้ในการทำความเข้าใจอัลกุรอาน และอัสสุนนะฮฺ เพราะตามทัศนะของพวกเขาแล้ว ย่อมไม่มีการขัดแย้งใดๆ ในระหว่างอัลกุรอาน และอัสสุนนะฮฺที่ถูกต้องอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะด้วยการกิยาสเปรียบเทียบ ความนิยม การค้นพบ หรือจะด้วยคำกล่าวของผู้รู้หรืออุลามาอฺท่านใด ทั้งนี้เพราะศาสนานั้นได้สมบูรณ์แล้วนับตั้งแต่สมัยที่ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมยังมีชีวิตอยู่

والله أعلم بالصواب


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น