อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

การขอความสิริมงคลต่อต้นไม้ ก้อนหิน วัตถุอื่นๆ



                        การขอความสิริมงคลต่อต้นไม้ ก้อนหิน วัตถุอื่นๆ ด้วยกับการพักอาศัย การอิบาดะฮฺอยู่ที่นั่น หรือการแขวนผ้า ไว้บนสิ่งเหล่านั้น เป็นสิ่งที่ไม่อนุญาตให้มุสลิมกระทำ เพราะมันเป็นการกระทำของพวกมุชริกีนไม่ใช่สิ่งที่มาจาก ศาสนาอิสลาม

จากท่านอิบนุวัฎฎอหฺได้รายงานว่า “ท่านอุมัรบินค็อฏฏ็อบได้สั่งใช้ให้ตัดต้นไม้ต้นหนึ่ง ซึ่งในขณะที่ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมยังมีชีวิตได้เคยไปนั่งใต้ต้นไม้ต้นนั้น และได้ตัดต้นไม้นั้นทิ้ง ซึ่งสาเหตุที่ใช้ให้ตัดต้นไม้นั้นทิ้งก็เพราะว่า บรรดามนุษย์กำลังไปทำอิบาดะฮฺกำลังไปละหมาดใต้ต้นไม้ ต้นนั้น ท่านอุมัรบินค็อฏฏ็อบกลัวเกิดความวุ่นวายจึงสั่งใช้ให้ตัดต้นไม้ต้นนั้นทิ้งเสย” (นาศิรบินอับดุลการีมอัลอักลฺ, อัลอะฮฺวาอฺวัลฟิร็อกวัลบิดะอฺ, ดารุ้ลวะฏอน, ริยาฏ, 1417, หน้าที่:25)

เชคอิสลามอิบนุตัยมียะฮฺ ได้กล่าวว่า การนำเอาต้นไม้ก้อนหิน ตาน้ำ หรือสิ่งอื่นมาเป็นสื่อในการบนบานของคน บางส่วน และการยึดเอาใบไม้ของมันมาเป็นสิ่งที่ให้ความเป็นสิริมงคล หรือการละหมาดที่นั่น แท้จริงมันเป็น การอิบาดะฮฺที่น่ารังเกลียดและมันเป็นการกระทำของพวกที่โง่เขลาเบาปํญญา และเป็นสาเหตุที่จะนำไปสู่การตั้ง ภาคีต่ออัลลอฮฺซุบหานะฮูวะตะอาลา (อับดุลรอซากบินตอฮิรบินอะหฺมัดมุอาซ, อัลญะฮฺลุบิมะสาอิลิลอิอฺติกอดวะหุกมุฮู, ดารุ้ลวะฏอน, ซาอุดิอารเบีย, 1996, หน้าที่: 414)

จากการเกิดขึ้นของการขอความสิริมงคลต่อก้อนหินและสิ่งอื่นๆ คือ การเก็บเอาก้อนหิน ดินจากมักกะฮฺ หรือ มะดีนะฮฺ และสถานที่อื่น ๆ มาเก็บรักษาไว้เพื่อขอความสิริมงคลจากมันและมีความเชื่อว่ามันสามารถที่จะให้ ประโยชน์และป้องกันโทษได้ (นาศิรบินอับดุลลอฮฺบินมุหัมมัดญะดีอฺ, ตะบัรรุกอันวาอุฮูวะอะหฺกามุฮู, มักตะบะตุรรุชดฺ, ซาอุดิอารเบีย, 2000, หน้าที่: 463)

.............................................
โดย  อ.อับดุลฮากีม มังเดชะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น