อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ศรัทธาต่ออัลกุรซีย์ของพระองค์อัลลอฮฺ




มุสลิมต้องศรัทธาว่ากุรซีย์ของพระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮานะฮูวะตะอาลา นั้นเป็นความจริง

"กุรซีย์" พระองค์อัลลอฮฺ ทรงตรัสไว้ ในอายะฮฺที่ 255 สูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺ ของพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน

 وَسِعَ كُرْسِيُّهُ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ وَلَا يَئُودُهُ حِفْظُهُمَا وَهُوَ الْعَلِيُّ الْعَظِيمُ ( 255 ) อัล-บะเกาะเราะฮ - Ayaa 255

" เก้าอี้พระองค์นั้นกว้างขวางทั่วชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และการรักษามันทั้งสองก็ไม่เป็นภาระหนักแก่พระองค์ และพระองค์นั้นคือผู้ทรงสูงส่ง ผู้ทรงยิงใหญ่" (อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺ 2:255)

"กุรซีย์" หมายถึง "เก้าอี้"

สำหรับในตับซีรอัลกุรอานของเมาลานา ซัยยิด อบุล อะลา เมาดูดี ชื่อ "ตัฟฮีมุลกุรอาน" เล่ม 1 หน้า 197 แปลโดยอาจารย์บรรจง บินกาซัน ได้ให้ความหมาย ว่า "อาณาจักรของพระองค์แผ่กว้างทั่วชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน" และอธิบายคำว่า "กุรซีย์" ว่า ในภาษาอาหรับซึ่งแปลว่า "เก้าอี้" หรือ "บัลลังค์" ได้ถูกแปลว่า "อำนาจ" เพราะบัลลังก์ได้ถูกใช้เป็นสัญญาลักษณณ์ที่เป็นรูปธรรมของอำนาจ แม้ภาษาอังกฤษ คำว่าเก้าอี้หรือบัลลังก์ก็ถูกใช้เป้นที่นั่งของผู้มีอำนาจ

แต่จากหลักฐานหะดิษ "กุรซีย์" คือ สถานที่วางพระบาท(เท้า)ของพระองค์อัลลอฮฺ

รายงานจากท่านอิบนุอับบาส ร่อฎียัลลอฮุอันฮุม กล่าวว่า
"อัล-กุรซีย์" หมายถึงสถานที่วางพระบาท ส่วน "อัล-อัรช์" ก็คือบัลลังค์ ซึ่งไม่มีผู้ใดสามารถคิดคำนวณ(ความกว้างใหญ่ไพศาล) ได้ นอกจากพระองค์อัลลอฮฺเท่่านั้น" (บันทึกหะดิษโดยอิมามอัล-หากิม ในอัล-มุสตัดร็อก และในตัฟซีรอิบนิกะษีร)
ท่านอิบนุอับบาส ร่อฎียัลลอฮุอันฮุม ได้อธบายว่า กุรซีย์ของพระองอัลลอฮฺ เมื่อเทียบกับอะรัชแล้ว อะรัชนั้นยิ่งใหญ่ไพศาล จนมองกุรซีย์ที่วางพระบาทของพระองค์อัลลอฮฺนั้นเพียงจุดเล็กๆ เมื่อเทียบกับอะรัช ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้เปรียบเทียบกุรซีย์กับอะรัชของพระองค์ กุรซีย์ก็เสมือนเหรียญวงๆที่เราไปวางกลางลานหรือท้องทุ่งทะเลทราย ที่มันยิ่งใหญ่สุดลูกหูลูกตา ดังนั้นอะรัชของพระองค์อัลลอฮฺนั้นทรงยิ่งใหญ่ จนท่านรสูลไม่รู้จะอธิบายอย่างไร แค่บอกให้มนุษย์เข้าใจเท่านั้น แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าอะรัชนั้นเป็นอย่างไร นี้คืออะกีดะฮฺของอะฮฺลุสสุนนะฮฺ วัล-ญะมาอะฮฺ แต่บางกลุ่ม อย่างอะชาอิเราะฮฺ เขาจะปฏิเสธซิฟัตของพระองค์อัลลอฺตะอาลา อย่างการประทับอะรัชของพระองค์ เขาบอกว่าประทับไม่ได้ ถ้าพระองค์พระทับก็ต้องอาศัยที่นั่ง ถ้าพระองค์ต้องนั่ง พระองค์ก็ยืนไม่ได้ พอนั่งแล้วก็ต้องอาศัยอะรัชเก้าอี้ อัลลอฮฺต้องยืนต้องนั่ง เหมือนกับสิ่งที่ถูกสร้าง แต่อะฮฺลุสสุนนะฮฺ วัล-ญะมาอะฮฺเชื่อตามตัวบทหลักฐาน ท่านรสูลกล่าวว่าพระองค์ทรงประทับเหนืออะรัช ก็คือจบ ส่วนพระองค์จะประทับอย่างไรมนุษย์ไม่มีสิทธิจะใปจินตนาการ

พระองคอัลลอฮฺไม่มีความจำเป็นใดๆ เลยที่จะต้องอาศัยพึ่งพาต่อกุรซีย์ และไม่ทรงอาสัยนั่งอยู่บาอะรัชนั้นแต่อย่างใด ทั้งหมดเป็นไปโดยหิกมะฮฺหนึ่งอันลึกซึ่งที่พระองค์ให้มีมันขึ้น และพระองค์ทรงบริสุทธิ์เกินกว่าที่จะต้องการหรืออาศัยต่ออะรัช กุรซีย์ หรือสิ่งใดๆ เพราะสภาพของพระองค์ทรงยิ่งใหญ่ และยิ่งไปกว่านั้นอะรัชและกุรซีย์ดังกล่าวล้วนถูกยกให้ล่องลอยอยู่ด้วยพลังและอำนาจของพระองค์

والله أعلم بالصواب

..........................




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น