อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2557

โลกมีสัณฐานกลม



THE ROUNDNESS OF THE EARTH




“พระองค์ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดินด้วยความจริงอันชัดแจ้ง พระองค์ทรงให้
กลางคืนที่คาบเกี่ยวเข้าไปในกลางวัน และทรงให้กลางวันคาบเกี่ยวเข้าไปในกลางคืน…”
(อัลกุรอาน 39:5)

ในอัลกุรอาน คำที่ใช้บรรยายถึงจักรวาลนั้นน่าสนใจยิ่ง คำภาษาอาหรับว่า “ ตักวีร ” หมายความว่า “สิ่งหนึ่งเกยซ้อนกับอีกสิ่งหนึ่ง เหมือนกับการพับผ้า” (พจนานุกรมภาษาอาหรับอธิบายว่า เป็นการพันสิ่งหนึ่งเข้ากับอีกสิ่งหนึ่ง)
ข้อความในอายะฮ์เกี่ยวกับเวลากลางวันและกลางคืนที่คาบเกี่ยวซึ่งกันและกัน แสดงข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับสัณฐานของโลก การคาบเกี่ยวกันในลักษณะดังกล่าวจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อโลกมีรูปทรงกลมเท่านั้น ความจริงข้อนี้ได้ปรากฏชัดอยู่ในอัลกุรอานตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 แล้ว ทั้งที่ในขณะนั้นเรื่องสัณฐานกลมของโลกยังไม่มีใครรู้เลย
อย่างไรก็ตามเราควรตระหนักว่าความเข้าใจทางดาราศาสตร์ในเวลานั้น ทำให้เรารับรู้เกี่ยวกับโลกได้แตกต่างกัน แต่ก่อนนั้นเคยเชื่อกันว่า โลกแบน การคำนวณและการอธิบายทางวิทยาศาสตร์ล้วนอาศัยความเชื่อนี้ แต่ทว่าข้อความในอัลกุรอานกลับมีข้อมูลที่มนุษย์เพิ่งจะค้นพบกันเมื่อศตวรรษที่แล้วนี้เอง เนื่องจากอัลกุรอานเป็นวจนะของพระผู้เป็นเจ้า ทุกถ้อยคำในอัลกุรอานจึงเป็นจริงเสมอ รวมทั้งเรื่องที่กล่าวถึงจักรวาลก็เช่นกัน




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น