อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ต่อสู้นับซูโดยขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮ์




ท่านต้อลหะฮ์ (ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ)...ได้เล่าว่า...

ครั้งหนึ่งมีชายคนหนึ่งได้ถอดเสื้อผ้า
ของเขาออก และได้นอนลงบนทรายที่
กำลังร้อนจัดในฤดูร้อนและพูดกับตัวเขา
เองว่า..
"จงลิ้มรสไฟนรกซึ่งร้อนกว่านี้อีก
โอ้เจ้าซากศพในตอนกลางคืนและผู้ขี้เกียจในตอนกลางวัน"...
ขณะที่เขาอยู่ในสภาพเช่นนั้น..
ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ก็ได้เดินออกมา
จากร่มไม้ต้นหนึ่งมายังเขา..แล้วเขาก็พูด
กับท่านนบี(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ว่า..
..."นัฟซู (กิเลสอารมณ์)ของฉันมันมีอิทธิ
พลเหนือตัวฉัน"...
แล้วท่านนบี(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)ก็พูดกับเขาว่า..
"ไม่มียาที่จะรักษาโรคนี้ได้นอกจากวิธีที่
ท่านได้นำมาใช้..จงดูซิ!ประตูสวรรค์ได้ถูก
เปิดออกสำหรับท่านแล้ว"...

และบรรดามลาอิกะฮ์ก็คุยโอ้อวดการกระทำของท่านอยู่...
และแล้ว..ท่านนบี(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)ก็ได้บอกกับ
บรรดาซ่อฮาบะฮ์ของท่านว่า..."จงนำเอาไปเป็นบทเรียนแก่พี่น้องของท่านเถิด".


.............................
Potea Banguromo



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น