ตอนเด็กๆ เมื่อถึงค่ำวันศุกร์ (คือค่ำวันพฤหัสฯของไทย) พ่อแม่ หรือโต๊ะครู จะห้ามมิให้มีการฟังเพลง ดูที่วี แต่ให้มีการอ่านยาซีน (โดยให้หยุดอ่านสูเราะฮฺอื่นๆตามที่เคยอ่านกันตามปกติ) เพราะมีความเชื่อว่า วิญญาณพ่อแม่ สามี ภรรยา (ซึ่งภรรยาหรือสามีของเขาที่ยังมีชีวิตอยู่อาจแต่งงานกับคนใหม่) ปู่ย่าตายยาย ที่เสียชีวิตไปแล้วจะกลับมาบ้าน หากกลับมาเห็นลูกหลานมีการทำอิบาดะฮฺ วิญญาณผู้ตายก็จะมีความสุขสบายใจ หากลูกหลานไม่ได้ประกอบทำความดี มีแต่การกระทำในสิ่งที่ไร้สาระ วิญญาณผู้ตายก็โศกเศร้าเสียใจ และบางพื้นที่ก็จะมีข้าวเหลือไว้ในหม้อ กับข้าวก็ต้องมีเหลือไว้ เพื่อให้วิญญาณได้รับประทาน และยังมีการเตรียมเสื่อที่นอนผ้าห่มไว้ เพื่อให้วิญญาณที่กลับมาได้นอนพักผ่อนจนกว่าจะแสงสว่าง และในคืนก่อนวันออกบวช (คืนของวันอิดิลฟิฏริ) จะมีการจุดเผากะลาบริเวณทางเข้าหน้าบ้านทั้งสองด้าน เพื่อต้อนรับวิญญาณญาติๆที่มาเยือน
แต่ความเชื่อเหล่านี้กลับไม่มีหลักฐานจากกิตาบุลลอฮฺและรสูลรองรับแม้แต่บทเดียว หนำซ้ำความเชื่อที่ว่าวิญญาณจะกลับมาบ้าน หรือวิญญาณจะอยู่กับที่ๆเขาตายนั้น กลับเป็นความเชื่อของคนต่างศาสนิก ที่มีความเชื่อเรื่องเวี่ยนว่ายตายเกิด
เมื่อผู้หนึ่งได้เสียชีวิตไปจากโลกนี้แล้ว วิญญาณผู้นั้นจะไปอยู่อีกโลกหนึ่งที่เรียกว่า "อลัมบัรซัค" ซึ่งเป็นโลกที่ถูกปิดกั้นไว้จนกราบวันกิยามะฮฺ มนุษย์กับวิญญาณผู้ตายจึงไม่สามารถติดต่อพบเจอกันได้
ชัยคฺ อะลีย์ ญุมอะฮฺ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "เรื่องราวในลักษณะเช่นนี้ไม่ถูกกล่าวถึงในอัลกุรอานและไม่มีรายงานมาจากอัลหะดิษ ว่า วิญญาณผู้ตายจะกลับมาวนเวียนเยี่ยมเยียนบ้านของตนเองหลังจากที่ตนได้ตายจากไป
อัลลอฮฺทรงตรัสว่า..
ومن ورآئهم برزخ إلى يوم يبعثون
“และเบื้องหน้าของพวกเขานั้นมีโลกบัรซัค จนกระถึงวันที่พวกเขาจะถูกฟื้นคืนชีพขึ้นมา” (ซูเราะฮฺ อัล-มุอฺมินูน : 100)
ซึ่งตรงนี้แสดงให้เห้นว่าวิญญาณนั้นจะถูกยกขึ้นไปยังพระผู้อภิบาลของพวกเขาแล้ว และจะไปอยู่ในโลกบัรซัคจนกระทั่งวันกิยามะฮฺและจะไม่กลับออกไปไหนทั้งนั้น นอกจากด้วยกับการยินยอมจากพระองค์อัลลอฮฺเท่านั้น
(ดู فتاوى البيت المسلم โดย ชัยคฺ อะลีย์ ญุมอะฮฺ มุฟตีย์ใหญ่แห่งอียิปต์ หน้าที่ 178)
สำหรับเรื่องที่ว่าวิญญาณผู้ตายจะกลับบ้านนั้น ได้ถูกล่าวไว้ในหนังสือ ดะกออิกุ้ลอัคฺบ๊าร ฟี ซิกริล ญันนะฮฺ วันฺน๊าร ของอิหม่ามอับดุรร่อฮีม อิบนุ อะฮฺมัด อัลกอฎีย์
ซึ่งได้กล่าวถึงเรื่องวิญญาณกลับมาบ้านเอาไว้อย่างละเอียด ในบทที่ 19 ว่า
"ด้วยวิญญาณหลังจากออก (จากร่าง) จะมายังสุสาน (กุบู๊ร) และบ้านของตน (หน้า 18,19) โดยมีข้อความระบุว่า เมื่อถึงวันอีด, วันอาชูรรออฺ, วันศุกร์แรกจากเดือนร่อญับ, ค่ำคืนนิสฟูชะอฺบาน, ค่ำคืนอัลก็อดฺร์ และค่ำคืนวันศุกร์ บรรดาวิญญาณของผู้ตายจะออกจากสุสานของพวกเขาและจะหยุดยืนอยู่หน้าประตูบ้าน ของพวกเขา..."
หนังสือเล่มนี้ เต็มไปด้วยเรื่องราวที่เสียหาย, เรื่องเล่าที่คลุมเครือ และผู้แต่งหนังสือ ไม่สนใจในการพิจารณาระดับของบรรดาหะดีษ ไม่ว่าจะเป็นหะดีษซ่อฮีฮฺ, ฎ่ออีฟหรือเมาฎูอฺ และส่วนใหญ่จะเป็นกรณีหลัง (ฮะดีษเมาฎูอฺ) ผู้อ่านควรระวังในการอ่านหนังสือเล่มนี้ เป็นอย่างมาก (กุตุ๊บ ฮัซฺซะร่อ มินฮา อัลอุละมาอฺ ; อบูอุบัยดะฮฺ มัชฮู๊ร อิบนุ ฮะซัน อ๊าล ซัลมาน เล่ม 2/207-208)
และสำหรับเรื่องวิญญาณเป็นหนึ่งกิจการของพระองค์อัลลอฮฺตะอาลา เป็นเรื่องเร้นลับ ให้เราเชื่อและศรัทธาแต่ไม่ต้องวิเคราะห์เจาะลึกถึงมัน
พระองค์อัลลอฮฺ (ศุบฮานะฮูวะตะอาลา) ตรัสว่า
(وَﻳَﺴْﺌَﻠُﻮْ نَكَ عَنِ الرُّوْحِ قُلِ الرُّوْحُ مِنْ أَمْرِرَبِّىْ وَمَاأُوْتِيْتُمْ مِنَ الْعِلْمِ إِلاَّقَلِيْلاً)
الإسراء ٨٥
และพวกเขาจะถามท่านถึงเรื่องวิญญาณ ท่านจงกล่าวเถิดว่า วิญญาณนั้น เป็นหนึ่งจากกิจของพระผู้อภิบาลของฉัน และพวกท่านมิได้ถูกนำมาจากความรู้ (ในเรื่องวิญญาณ) นอกจากเพียงเล็กน้อยเท่านั้น” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลอิสรออฺ : 85)
الله أعلم بالصواب
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น