อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เงียบไว้ดีที่สุด




ครั้งหนึ่งท่านศาสนทูต (ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะศัลลัม)
ได้นั่งอยู่กับบรรดาสหายของท่าน (ศอฮะบะฮฺ)

จากนั้นได้มีบุรุษท่านหนึ่งได้กล่าว ด่าทอท่านอบูบักรฺ (รอฎิยัลลอฮุ อันฮุ)
ซึ่งสร้างความเจ็บปวดให้แก่ท่าน

หากแต่ท่านอบูบักรฺก็ยังคงนิ่งเฉยต่อการกระทำดังกล่าว
บุรุษท่านนั้นก็ยังคงใช้คำพูดที่หยาบช้าต่อท่านอบูบักรฺ

หากแต่ท่านอบูบักรก็ไม่ตอบโต้ใดๆ ต่อเขา
และเมื่อบุรุษโง่เขลาท่านนั้น
ได้กล่าวร้ายต่อท่านอบูบักรเป็นครั้งที่สาม

ท่านอบูบักรจึงได้ตอบโต้กลับไป เมื่อถึงตอนนั้น
ท่านศาสนทูต (ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะศัลลัม) ได้ลุกขึ้น

ท่านอบูบักร (รอฎิยัลลอฮุ อันฮุ) จึงได้ถามท่านว่า
“ท่าน ไม่พอใจในการกระทำของฉันหรือ ท่านรอซูล”

ท่านศาสนทูตจึงตอบว่า
“เปล่า หากแต่ (เมื่อท่านนิ่งเฉย) มลาอิกะฮฺได้ลงมาจากสวนสวรรค์
และโต้แย้งต่อคำพูดของบุรุษท่านนั้นแทนท่าน

แต่เมื่อท่านได้เริ่มโต้ตอบกับบุรุษท่านนั้น มลาอิกะฮฺท่านนั้นก็จากไป
และมารร้าย (ชัยฎอน) ก็เข้ามานั่งแทนที่

และฉันก็ไม่สามารถที่จะนั่งอยู่ในสถานที่ที่มีชัย ฎอนนั่งอยู่”
(อบู ดาวูด เลขที่ 4878)


........................................
อับดุลรอมาน หะระตี โพส



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น