อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2557

หะดิษญารียะฮฺ





หะดิษต่อไปนี้เป็นหะดิษที่กลุ่มอะชาอีเราะฮยุคปัจจุบัน พยายามบิดเบือนเพื่อที่จะให้เป็นหะดิษเฎาะอีฟ ทั้งๆที่เป็นหะดิษเศาะเฮียะ ทั้งนี้เพราะขัดกับความความเชื่อของพวกเขาที่ว่า อัลลอฮ ซุบฮานะฮุวะตะอา ทรงปราศจากสถานที่ ปราศจากทิศ คือ ทรงไม่อยู่เบื้องบน ,ทรงไม่อยู่เบื้องล่าง,ทรงไม่อยู่เบื้องขวา,ทรงไม่อยู่เบื้องซ้าย

และใครเชื่อว่า อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาอยู่เบื้องสูง คนนั้น มีอากีดะฮที่หลงผิด ดังนั้น อายะฮอัลกุรอ่านหรือหะดิษที่ตัวบทได้ยืนยันว่าทรงอยู่ทิศเบื้องสูง พวกเขาก็จะต่อต้านโดยการเปลี่ยนความหมายไปเป็นอย่างอื่นหรือไม่ก็พยายามหาเหตุมาสนับสนุนว่าหะดิษนั้นเฎาะอีฟ (หลักฐานอ่อน) และส่วนหนึ่งจากหะดิษดังกล่าวคือ หะดิษญารียะฮ ต่อไปนี้ รายงานจากมุอาวียะฮ บิน ลหะกัม อัสสะละมี กล่าวว่า

وَكَانَتْ لِيْ جَارِيَةٌ تَرْعَى غَنَمًا لِيْ اُحُدٍ وَالْجُوَانِيَةِ فَاطَّلَعْتُ ذَاتَ يَوْمٍ فَاِذَا بَالذِّئْبِ قَدْ ذَهَبَ بِشَاةٍ مِنْ غَنَمِهَا وَاَنَا رَجُلٌ مِنْ بَنِيْ آدَمَ اَسَفَ كَمَا يَاْسِفُوْنَ . لَكِنَّيْ صَكَكْتُهَا صَكَّةً فَاَتَيْتُ رَسُوْلَ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَعَظَّمَ ذَلِكَ عَلَيَّ . قُلْتُ يَارَسُوْلَ اللهِ اَفَلاَ اَعْتِقُهَا ؟ قَالَ : اِئْتِنِيْ بِهَا . فَقَالَ لَهَا : اَيْنَ اللهُ ؟ قَالَتْ : فِى السَّمَاءِ . قَالَ : مَنْ اَنَا ؟ قَالَتْ : اَنْتَ رَسُوْلُ اللهِ . قَالَ : اَعْتِقُهَا فِاِنَّهَا مُؤْمِنَة

มุอาวิยะฮ บิน หุกัม อัลอัสละมีย์ กล่าวว่า “ข้าพเจ้ามีทาสหญิงคนหนึ่ง เลี้ยงแพะให้ข้าพเจ้าที่ อุหุด และ ญุวัยนียะฮ ในวันหนึ่ง ข้าพเจ้า พบว่า แพะตัวหนึ่งที่นางดูแล ได้ถูกหมาป่าเอาไป และข้าพเจ้า เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่รู้สึกโกรธ เหมือนๆกับ บรรดาผู้ที่โกรธทั้งหลาย แต่ว่า ข้าพเจ้าได้ทุบตีนาง แล้วข้าพเจ้าได้ไปหาท่านรซูลุ้ลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮวะสัลลัมแล้ว ท่านได้ตักเตือนข้าพเจ้า ในเรื่องดังกล่าว

ข้าพเจ้าได้กล่าวว่า โอ้ รซูลุลลอฮ ข้าพเจ้าจะปล่อยนางให้เป็นอิสระได้ไหม? ท่านรซูลุลลอฮ กล่าวว่า “นำนางมาที่ฉัน แล้วรซูลุลลอฮได้กล่าวถามนางว่า “อัลลอฮอยู่ใหน? นางกล่าวตอบว่า “ อยู่บนฟากฟ้า” ท่านรซูลุลลอฮ กล่าวว่า “ฉันเป็นใคร? นางกล่าวว่า “ท่านคือ ศาสนทูตของอัลลอฮ ท่านรซูลุลลอฮ จึงกล่าวว่า “ปล่อยนางให้เป็นอิสระเถิด เพราะแท้จริงนางเป็นผู้หญิงที่ศรัทธา – รายงานโดย มุสลิม และอบีดาวูด
...........

หะดิษข้างต้น เป็นหลักฐานการอยู่เบื้องสูงของอัลลอฮ คือ อยู่บนฟากฟ้า จะอยู่ในรูปแบบใดนั้น ไม่มีใครทราบได้นอกจากอัลลอฮ เพราะไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์

...................................
โดย อะสัน หมัดอะดั้ม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น