อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

การยึดมั่นด้วยกับสิ่งที่อยู่บนบรรดาศอฮาบะฮฺและการปฏิบัติตามพวกเขา









ถึงตรงนี้หลังจากได้สืบสายรายงานไปถึง ท่านอิมามอะหฺมัด รอหิมะฮุลลอฮฺ ท่านได้กล่าวว่า:
( หลักพื้นฐานของสุนนะฮฺ ณ ที่เรา นั้น คือ:การยึดมั่นด้วยกับสิ่งที่อยู่บนบรรดาศอฮาบะฮฺของท่านรอซูลุลลอฮฺ อลัยฮิวัศศอลาตุวัสลาม)

ดังนั้นสิ่งที่อยู่บนบรรดาศอฮาบะฮฺของท่านรอซูลุลลอฮฺ คือ เครื่องชี้วัด สำหรับผู้อยู่บนสัจธรรม ซึ่งพวกเขาได้ยึดมั่น ด้วย หลักพื้นฐานนี้ คือสิ่งที่อยู่บน ท่านรอซูล และ บรรดาศอฮาบะฮฺผู้ทรงเกียรติของท่าน, และท่านรอซูลุลลอฮฺและบรรดาศอฮาบะฮฺผู้ทรงเกียรติและบรรดาคอลีฟะฮฺ อัรรอชิดูน มิได้กระทำสิ่งใด นอกเสียจาก เขาได้อยู่บน ทางนำ และการชี้นำ บนคัมภีร์ของอัลลอฮฺ และ บน สุนนะฮฺของท่านรอซูลุลลอฮฺ ใน เรื่องอะกีดะฮฺ และการทำอิบาดะฮฺ และเรื่องการใช้ชีวิตทั่วไป และการดำเนิน กิจการงานต่างๆของพวกเขา ,โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องอะกีดะฮฺ,ดังนั้นอิมาม อะหฺมัด รอหิมะฮุลลอฮฺ จึงได้ชี้แนะ ไปยัง หลักพื้นฐานอันยิ่งใหญ่นี้ และนี่คือกฎที่ครอบคลุมซึ่งมันนั้นไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดจากอิสลามที่หนีออกไปจากมัน และเรื่องที่สำคัญเป็นพิเศษ คือ เรื่องอะกีดะฮฺ

และที่ท่านอิมามอะฮฺมัดได้กล่าวว่า( หลักพื้นฐานของสุนนะฮฺ ณ ที่เรา นั้น คือ:การยึดมั่นด้วยกับสิ่งที่อยู่บนบรรดาศอฮาบะฮฺของท่านรอซูลุลลอฮฺ ศอลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม)
คือความแตกต่างกับพวกบิดอะฮฺ พวกเขานั้นได้ปฏิบัติตามอารมณ์ของพวกเขา และมุ่งไปยังการใช้สติปัญญาของพวกเขาแบบผิดพลาดเสียหาย หรือ ที่พวกเขาได้กล่าวอ้างกัน แท้จริงพวกเขานั้นมุ่งไปยังการอยู่บน หลักภาษาอาหรับ หรืออื่นๆของมัน จากการเปรียบเทียบต่างๆที่เป็นความผิดพลาดเสียหาย
ส่วนท่านอิมามอะหฺมัดและผู้ที่เป็นสะลัฟมาก่อนหน้าเขาจากบรรดาศอฮาบะฮฺ และบรรดาตาบิอีน และ บรรดาอิมามของอิสลาม แท้จริงพวกเขานั้นได้ยึดถือด้วยกับ คัมภีร์ของอัลลอฮฺ และสุนนะฮฺของท่านรอซูลลุลลอฮฺ อลัยฮิวัศศลาตุวัสลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขอบเขตของเรื่องอะกีดะฮฺ พวกเขาจะไม่ออกไปจากสิ่งดังกล่าว- อินชาอัลลอฮฺ –และในสิ่งดังกล่าวนั้นคือทางนำอันเที่ยงตรง
และท่านอิมามอะฮฺมัดได้กล่าวว่า(และการดำเนินตามด้วยกับพวกเขา)
คือ การดำเนินตามด้วยกับบรรดาศอฮาบะฮฺของท่านนบีย์มุฮัมมัด ศอลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม และพวกเขาคือ แบบฉบับและแบบอย่างที่ดีงาม และ มันเป็นการชี้แจงถึงหะดีษ ที่ว่า

فَعَليْكُمْ بسُنَّتِي وسُنَّةِ الخُلَفاءِ الرَّاشِدِينَ المَهْدِيِيِّنَ عَضُّوا عَلَيْهَا بالنَّواجِذِ، وَإِيَّاكُمْ وَمُحْدَثَاتِ الأُمُورِ

“ดังนั้นจำเป็นสำหรับพวกท่านจะต้องยึดมั่นต่อซุนนะฮฺของฉัน และซุนนะฮฺของบรรดาคูลาฟาฮฺอัรรอชีดีน(คอลีฟะห์ที่ได้รับการชี้นำอยู่ในทางนำที่ถูกต้อง) พวกท่านจงกัดมัน ด้วยกับฟันกราม และพวกท่านพึงระวัง จากการกระทำขึ้นมาใหม่ของกิจการงาน (ที่ถูกอุตริขึ้นมาในศาสนา)”
และเช่นเดียวกับสิ่งดังกล่าว คือ หะดีษของกลุ่มชนที่รอดพ้น ที่ท่านรอซูลได้บอกไว้ว่า

هده الأمةستفترق على ثلاث وسبعين فرقة كلها في النار إلاَّ واحدة
قالوا:من هي؟ قال: ماأناعليه واصحابي

“ประชาชาตินี้จะแตกออกเป็น73จำพวก ทุกๆจำพวกนั้นอยู่ในขุมนรก ยกเว้นจำพวกเดียวเท่านั้น”พวกเขาได้ถามว่า “คือผู้ใดเล่า? ท่านนบีย์ได้ตอบว่า”คือผู้ที่อยู่บนการปฏิบัติตามสุนนะฮฺของฉันและบรรดาศอฮาบะฮฺของฉัน “
หลังจากนั้นท่านนบีย์ได้กล่าวไว้เช่นเดียวกันในหะดีษอีกบทนึงว่า:

تركتكم على البيضاء ، ليلها كنهارها ، لا يزيغ عنها بعدي إلا هالك

“ฉันได้ทิ้งคำชี้นำที่ชัดเจนแก่พวกท่านแล้ว กลางคืนของมันนั้นเหมือนกลางวัน จะไม่มีใครหันเหออกไปจากมันนอกจากว่าเขานั้นเป็นผู้ที่หายนะ”
ดังนั้น บรรดาศอฮาบะฮฺ พวกท่านจงยึดมั่นด้วยกับเขา และพวกท่านจะไม่พบว่าในพวกเขานั้น เป็นผู้ที่หายนะ อินชาอัลลอฮฺ และบางคนที่หันเหออกไปหลังจากพวกเขา ,หมายถึง ในยุคสมัยอื่นของศอฮาบะฮฺ และสิ่งดังกล่าวนั้นคือในกลางยุคสมัยของบรรดาตาบิอีน หลังจากนั้น การทำบิดอะฮฺได้แพร่กระจาย และได้เริ่มมีการเกิดขึ้นของ กลุ่มคอวาริญจ์ และ ชีอะฮฺรอฟิเฏาะฮฺ สุดโต่ง ในตอนปลายของท่านคอลีฟะฮฺ อะลีย์ รอฏิยัลลอฮุอันฮุ ดังนั้นท่านจึงได้ส่ง ท่านอับดุลลอฮฺ บินอับบาส ไปยังพวกเขา เพื่ออภิปรายโต้แย้งพวกเขา,หลังจากสิ่งดังกล่าว พวกเขาได้ชักดาบขึ้นบน บรรดามุสลิม และเข่นฆ่าพวกเขา
ดังสิ่งที่ ท่านรอซูลลุลลอฮฺ อลัยฮิศศอลาตุวัสลาม ได้สั่งใช้ด้วยกับสิ่งดังกล่าว และได้มีการลงมติกันบนสิ่งดังกล่าวในสมัยของท่าน จากบรรดาศอฮาบะฮฺ ไม่มีแม้ซักคนนึงที่ขัดแย้งกันในสิ่งดังกล่าว และไม่มีการขัดแย้งกันในสิ่งดังกล่าวสองศตวรรษ,เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่า การปฏิบัติตามบรรดาศอฮาบะฮฺ ในมันนั้นคือการรอดพ้นปลอดภัย , มันคือ เรือที่รอดพ้นปลอดภัย เพราะว่าพวกเขานั้น คือผู้เป็นพยานในการลงวะฮีย์ และได้รับการถ่ายทอดความเข้าใจของอัลกุรอานและสุนนะฮฺ และ การรับรองเห็นชอบสิ่งดังกล่าว จากท่านรอซูลลุลลอฮฺ อลัยฮิวัศศอลาตุวัสลาม ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นแบบฉบับที่ดีงาม และสำหรับสิ่งนี้ ท่านนบีย์ อลัยฮิศศอลาตุวัสลาม จึงกล่าวว่า:
ماأناعليه واصحابي
”ผู้ที่อยู่บนการปฏิบัติตามสุนนะฮฺของฉันและบรรดาศอฮาบะฮฺของฉัน “
และได้กล่าวว่า:
فَعَليْكُمْ بسُنَّتِي وسُنَّةِ الخُلَفاءِ الرَّاشِدِينَ المَهْدِيِيِّنَ
“จำเป็นสำหรับพวกท่านจะต้องยึดมั่นต่อซุนนะฮฺของฉัน และซุนนะฮฺของบรรดาคอลีฟะฮฺอัรรอชีดีนผู้ได้รับทางนำ”.



---------------------------------------------------------
ตำรา ชัรหฺ อุศูลุสสุนนะฮฺ ของ อิมามอะหฺมัด บิน ฮัมบัล
โดย เชค รอบิอฺ บินฮาดีย์ อัล-มัดคอลีย์ หะฟิซอฮุลลอฮฺ หน้า 4-5


....................
Alif Taopalee



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น