อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2557

การนอบน้อมถ่อมตน



พี่น้องที่เคารพรักทุกท่าน ท่านทั้งหลายจงประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่พระองค์อัลลอฮ์ ทรงใช้ และจงยับยั้ง ละเว้นในสิ่งที่พระองค์ทรงบัญญัติห้าม
ท่านผู้ฟังที่เคารพ เราทั้งหลายจงดำรงตนอยู่กับความภักดีต่อพระองค์ และขออภัยต่อพระองค์ การปฏิบัติอิบาดะห์และการมีความบริสุทธิ์ใจจะไม่มีความสมบูรณ์นอกจากจะต้องปฏิบัติตามบัญญัติใช้และละเว้นบัญญัติห้ามของพระองค์ จะต้องนอบน้อม ยอมรับในคำสั่งของพระองค์ไม่ตั้งสิ่งใดเป็นภาคีกับพระองค์และไม่ฝ่าฝืนคำสั่งของพระองค์

ผู้ใดที่ศรัทธาต่อพระองค์เชื่อฟังคำสั่งของพระองค์และปฏิบัติตามบัญญัติของพระองค์เขาคือผู้ที่นอบน้อมต่อพระองค์อัลลอฮฺ ผู้ใดที่หันหลังให้กับบัญญัติของพระองค์และขัดขวางการปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์เขาคือผู้ที่ยโสโอหัง อัลลอฮฺ ทรงตรัสไว้ใน ซูเราะห์ อันนิซาอ์ อายะห์ที่ 172 ว่า

لَّن يَسْتَنكِفَ الْمَسِيحُ أَن يَكُونَ عَبْدًا لِّلَّـهِ وَلَا الْمَلَائِكَةُ الْمُقَرَّبُونَ ۚ وَمَن يَسْتَنكِفْ عَنْ عِبَادَتِهِ وَيَسْتَكْبِرْ فَسَيَحْشُرُهُمْ إِلَيْهِ جَمِيعًا ﴿١٧٢﴾

"และผู้ใดที่หยิ่งต่อการที่จะทำอิบาดะห์ต่อพระองค์และยโสและพระองค์ก็จะทรงชุมนุมพวกเขาไว้ยังพระองค์ทั้งหมด"
การนอบน้อมถ่อมตนเป็นคุณลักษณะของบรรดานบีและบรรดาร่อซู้ลและเป็นมารยาทของบรรดามุมินผู้ยำเกรงอัลลอฮ์ผู้ที่มีเกียรติก็จะมีเกียรติมากยิ่งขึ้น

ผู้ที่มีความนอบน้อมก็จะได้รับการยกย่องบุคคลที่จะมีมารยาทที่ดีงามได้ก็ด้วยความยึดมั่นในความจริงเคารพในสิทธิ์ของผู้อื่น มีผู้นอบน้อมถ่อมตนจำนวนมาก ที่ได้รับความรักใคร่และการให้ความสนิทสนม ไม่มีผู้ใดที่นอบน้อมถ่อมตน นอกจากอัลลอฮฺจะทรงให้เกียรติเขาท่านอบูฮูรอยเราะห์ กล่าวว่า ท่านร่อซูล ได้กล่าวว่า

وَمَازَادَالله عَبْدًابِعَفْوٍإِلاَّعِزًّاوَمَاتَوَاضَعَ أَحَدُنِاللهِ إِلاَّرَفَعَهُ الله
“และอัลลอฮฺไม่ได้เพิ่มให้แก่บ่าวด้วยการให้อภัยนอกจากเกียรติยศและไม่มีคนใดที่นอบน้อมต่ออัลลอฮฺนอกจากพระองค์จะเชิดชูเขา”

ท่านนบี คือตัวอย่างที่ดีโดยที่ท่านมีความถ่อมตนอย่างมากทั้งๆที่ท่านมีตำแหน่งอันสูงส่งท่านหญิงอาอีซะห์ กล่าวว่า

 ท่านนบี ทำงานส่วนตัวของท่านเอง เช่น การซ่อมรองเท้า ปะชุนเสื้อผ้า รีดนมแพะให้แก่ผู้ที่อยู่ในครอบครัวของท่านได้ดื่ม นำหญ้ามาให้อูฐ รับประทานอาหารร่วมกับคนใช้ ร่วมสนทนากับคนยากจน ทำธุระให้แก่หญิงหม้ายและเด็กกำพร้า
 ท่านนบี กล่าวสลาม แก่ผู้ที่ท่านพบ ตอบรับคำเชิญของผู้ที่เชิญท่านแม้ว่าจะเป็นการเลี้ยงอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ

 ท่านนบี ไม่ถือตัวมีความสุภาพอ่อนโยน มีอุปนิสัยเยือกเย็น มีอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส

 ท่านนบี มีความอ่อนน้อมแต่ไม่อ่อนแอมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่โดยไม่สุรุ่ยสุร่ายมีจิตใจโอบอ้อมอารีมีเมตตาต่อมุสลิมทุกคน แสดงความนอบน้อม แก่มุมิน ทุกคน

 ท่านนบี ไปเยี่ยมคนป่วย ไปร่วมส่ง ญะนาซะห์

 ท่านนบี ขี่ลาเป็นสัตว์พาหนะในวันที่ท่านทำสงครามกับตระกูล กุรอยเซาะห์ ซึ่งเป็น ยิว ตระกูลหนึ่ง ท่านนบี นั่งอยู่บนหลังลาตัวหนึ่ง มีชายผู้หนึ่งเข้ามาหาท่าน โดยมีท่าทางหวาดกลัวท่านนบี ได้กล่าวว่า

هَوِّنْ عَلَيْكَ فَاِنِّيْ لَسْتُ بِمَلِك
ٍ اِنَّمَااَنَاإِمْرَأَةٍكَانَتْ تَأْكُلُ اَلْقَدِيْدَبِمَكَّةَ

“ท่านจงทำตัวตามสบายฉันไม่ใช่เจ้าเมืองแท้จริงฉันเป็นลูกของหญิงที่กินเนื้อแห้ง”

ท่านผู้ฟังที่เคารพ บรรดาซอฮาบะห์ ของท่านนบีมูฮัมมัดได้เจริญรอยตามท่านโดยที่เขาเหล่านั้นจะแสดงความอ่อนน้อมต่อบรรดามุมินผู้ที่ศรัทธาและจะองอาจกับบรรดาผู้ปฏิเสธที่เป็นศัตรูจะมีความเมตตาระหว่างเขาเหล่านั้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ คอลีฟะห์อุมัรอิบนุลคอฎฏอบมีความนอบน้อมถ่อมตนเป็นอย่างมาก

ขณะที่เดินทางไปรับกุญแจเมืองที่เยรูซาเล็มจากหัวหน้าบาทหลวงภายหลังจากกองทัพมุสลิมได้พิชิตปาเลสไตน์ โดยที่ท่านผลัดเปลี่ยนกันขี่อูฐกับคนใช้ของท่าน ท่านจะขี่อูฐไปช่วงหนึ่งโดยคนใช้ของท่านจะเป็นคนจูงมัน

เมื่อจบช่วงแล้วท่านจะให้คนใช้ของท่านขี่แล้วท่านก็จูงมันเมื่อจบช่วงแล้วคนทั้งสองจะลงเดินจูงอูฐเพื่อให้มันได้พัก เมื่อจะเข้าไปยังเมืองเยรูซาเล็ม

ปรากฏว่าเป็นรอบของคนใช้ของท่านเป็นผู้ขี่อูฐ คนใช้ของท่านปฏิเสธที่จะขี่อูฐ แต่ท่านอุมัรไม่ยอมทั้งนี้เพื่อคนใช้จะได้รับ ส่วนแบ่งของเขาด้วยความเป็นธรรม คนใช้ของท่านอุมัรก็จำใจต้องขี่อูฐโดยคอลีฟะห์อุมัรเป็นผู้จูงมันเมื่อบรรดาคณะบาทหลวงเห็นเช่นนั้น

ต่างแสดงความชื่นชมและยกย่องในความยุติธรรมและความอ่อนน้อมถ่อมตนของท่านการนอบน้อมถ่อมตนเป็นมารยาทของมุสลิม

ความยโสโอหังเป็นลักษณะแห่งความชั่วร้าย ซึ่งเป็นผลทำให้ผู้เป็นเจ้าของ ต้องได้รับการลงโทษในวันกียามะฮ์ท่านอิบนิมัสอู๊ดกล่าวว่าท่านร่อซูล ได้กล่าวว่า

لاَيَدْخُلُ اْلجَّنةَمَنْ كَانَ فِيْ قَلْبِهِ مِثْقَالذَرَّةٍمِنْ كِبْرٍفَقَالَ يَارَسُوْلَ للهِ صلى الله عليه وسلم إِنَّ الرَّجُلَ يُحِبُّ أَنْ يَكُوْنَ ثَوْنُهُ حَسَنًاوَنَعْلُهُ حَسَنَهُ فَقَالَ يَارَسُوْلَ للهِ صلى الله عليه وسلم إِنَّ اللهَ جَمِيْلٌ يُحِبُّ اْلجَمَالُ اَلْكِبْرُبَطَرُاْلحَّقِ وَغَمْطُ النَّاسِ

“ผู้ใดที่หัวใจของเขามีความยโสแม้จะมีน้ำหนักเพียงอณูเดียวก็จะไม่ได้เข้าสวรรค์ชายคนหนึ่งกล่าวว่าโอ้ท่านรอซูลุลอฮฺแท้จริงบุคคลชอบที่จะให้เสื้อผ้าของเขาอยู่ในสภาพที่ดีรองเท้าของเขาอยู่ในสภาพที่ดีท่านร่อซูล กล่าวว่า แท้จริง อัลลอฮฺทรงสวยงามพระองค์ทรงรักความสวยงาม

ความยโสคือ การไม่ยอมรับความจริง และเหยียดหยามคนทั้งหลาย”

..............................................
คุตบะห์วันศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐ
โดยอาจารย์ดาวุด สันติวิไลพร
แวนิต้า โรส โพส



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น