ชัยคฺอัซซิม อัลฮากีม::
ในช่วงเวลาหนึ่ง นบีอิบรอฮีม อะลัยฮิสลาม ไม่มีบุตรเลยแม้แต่สักคนเดียว จนกระทั่งท่านและภรรยาของท่านได้เข้าสู่วัยที่เกินกว่าจะมีบุตรได้ หากทว่าท่านก็ไม่เคยพร่ำบ่นแต่อย่างใด เพราะท่านทราบดีว่าอัลลอฮฺทรงเลือกแต่สิ่งที่ดีที่สุดให้กับท่านเท่านั้น ดังนั้นเมื่อท่านได้ทราบข่าวดีว่าท่านจะมีบุตร และหลานชาย คุณคงสามารถจินตนาการได้ว่า ท่านจะมีความสุข ความตื้นตันใจเพียงใด
ทันทีที่ท่านได้รับการอำนวยพรให้มีบุตร ซึ่งนั่นคือ “นบีอิสมาอีล อะลัยฮิสลาม” ท่านก็ได้รับพระบัญชาจากอัลลอฮฺให้นำบุตรชายและมารดาของเขาไปยังเมืองมักกะฮฺ แม้ว่านบีอิบรอฮีมจะทราบดีว่า “อิิสมาอีล” คือบุตรคนแรกของท่าน และท่านก็ทราบว่ามักกะฮฺนั้นเป็นดินแดนที่แห้งแล้งกันดาร และไม่มีใครอาศัยอยู่ที่นั่น หากทว่าท่านก็ปฏิบัติตามพระบัญชาโดยปราศจากคำถามใดๆ
เมื่อท่านเดินทางไปถึงที่นั่น ท่านก็ทิ้งภรรยาและบุตรชายของท่านไว้ที่นั่นและเดินจากไป ขณะเดียวกันนางฮะญัรฺจึงถามท่านซ้ำๆ ว่า “ท่านจากพวกเราไปโดยทิ้งพวกเราไว้ในดินแดนกันดารแห่งนี้เพื่อใคร” หากแต่ท่านไม่ได้ตอบคำถามนาง ขณะที่เดินจากไป
(ชัยคฺอัซซิมกล่าวว่า) หัวใจของผมคงแตกสลาย หากว่าผมอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับท่าน หากแต่ท่านไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น
นางจึงถามท่านเป็นครั้งสุดท้ายว่า “อัลลอฮฺใช่หรือไม่ ที่สั่งใช้ให้ท่านกระทำในสิ่งนี้” ท่านจึงตอบนางว่า “ใช่” นางจึงกล่าวต่อว่า “ในกรณีเช่นนี้ อัลลอฮฺย่อมมิทรงทอดทิ้งเรา (แม่ลูก)”
แน่นอนว่าพวกเราคงทราบเรื่องราวที่เหลือทั้งหมด รวมไปถึงการค้นพบบ่อน้ำซัมซัม และการที่อัลลอฮฺได้ทรงทำให้มักกะฮฺกลายเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเช่นไร
“การตะวักกุลของนบีอิบรอฮีม และภรรยาของท่าน” นั้นประเสริฐและงดงามยิ่ง
ดังนั้นหากว่าคุณมอบหมาย หวังพึ่งพิง และไว้วางใจในอัลลอฮฺ พระองค์จะทรงทำให้สิ่งที่ดูเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้สำหรับคุณ และความกังวลใจทั้งหลายของคุณจะกลายเป็นเพียงความทรงจำเท่านั้น (อินชาอัลลอฮฺ)
------------------------------------
**แปลเรียบเรียง บินติ อัล อิสลาม
Nu-ain Hanany
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น