อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สื่อชีอะฮฺลอบโจมตีทีวีช่องมุสลิม !






พี่น้องโปรดระวังหนังสือพิมพ์ชีอะฮฺที่ชื่อ “เดอะ พับลิกโพสต์” ให้ดี มีขายอยู่ตามร้านหนังสืออิสลามทั่วไป และมักจะมีการมาวางแจกอยู่ตามมัสญิด แม้กระทั่งมัสญิดของกลุ่มซุนนะฮฺเอง ท่านอิหม่าม คณะกรรมการ ตลอดจนสัปปุรุษ โปรดอย่าได้อนุญาตให้มีหนังสือพิมพ์ดังกล่าวแอบแฝงมาวางอยู่

หนังสือพิมพ์ยี่ห้อนี้มักแฝงเนื้อหาที่สนับสนุนอิหร่าน สนับสนุนฮิสบุลลอฮฺ และแอบเชียร์รัฐบาลซีเรียโดยอ้อมๆ (ไม่กล้าออกหน้าชัดเจนนัก) ประหนึ่งว่ามีความชอบธรรมในการเข่นฆ่าประชาชนมุสลิม นอกจากนั้นแล้วล่าสุดยังได้โจมตีทีวีดาวเทียมช่องมุสลิม โดยใช้เนื้อหาที่บ่อนทำลายและใส่ไคล้

มีการบอกว่า “ทีวีมุสลิมส่วนใหญ่มุ่งแต่โจมชีอะฮฺ แต่กลับกลายเป็นว่ากลุ่มชีอะฮฺโตขึ้นทุกวันโดยเฉพาะในภาคใต้” ซึ่งนี่ก็คือการสร้างกระแสให้ร้ายช่องมุสลิม และโปรโมทยกย่องพวกตน และยังมีกล่าวเท็จอีกว่า มีการรับเงินจากต่างประเทศให้มาโจมตีชีอะฮฺ

แล้วก็อ้างลอยๆว่านำข้อมูลมาจากเว็บ PSI ว่าช่องต่างๆมีคนดูอยู่หลักพันต่อวัน แต่ความจริงคือทีวีมุสลิม เป็นช่องที่มีการโทรซื้อของเยอะมาก ส่วนยาตีมมีคนโทรมาบริจาคแต่และครั้งเป็นล้าน ไม่ว่าจะเด็กกำพร้าหรือซีเรีย ส่วนไวท์ แชนแนลจัดงานแต่ละครั้ง มีคนร่วมงานเป็นหมื่น โดยเฉพาะ 4 จังหวัดภาคใต้ (สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส) คนร่วมงานล้นทะลัก และยังมีผู้ติดตามรับชมทางอินเตอร์เน็ตมากมาย ส่วน TMTV ล่าสุด ก็กองทุนจากทางบ้าน ณ วันที่โพสต์นี้ กองทุนที่ 15 ร้อยล้านที่ 3 ไปแล้ว



! หนังสือพิมพ์ชีอะฮฺ ลอบโจมตีทีวีช่องมุสลิม ! (2) -เดอะพับลิกโพสต์

เนื้อหานั้นเจาะจงชัดเจนถึงช่องยาตีม, ทีวีมุสลิม, TMTV, ไวท์ ชาแนล และ IBTV (ซึ่งจริงๆแล้ว IBTV ไม่ใช่ช่องรายการศาสนา สื่อชีอะฮฺเพียงลากมาเสริม แต่จริงๆเป้าหมายโจมตีคือ 4 ช่องศาสนา)
นอกพยายามสร้างกระแสว่าลงทุนคุ้มค่า คนดูน้อย เพื่อที่จะกันคนไม่ให้มาสนับสนุนแล้ว ยังมีการยุแหย่ และให้ข้อมูลลอยๆ
เช่นบอกว่าไวท์ แชนแนลมีเงินทุนสนับสนุนจากบางหน่วยงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อ่านเข้าใจคลาดเคลื่อนว่ามีเงินสนับสนุน เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริงผู้บริหารและทีมงานคงสบายใจไปแล้ว แต่หน่วยงานที่ว่าคงหมายถึง สหกรณ์อามานะฮฺของไวท์ แชนแนลเอง

แต่หากสมมุติว่าวันหนึ่ง ทีวีทุกช่องมีคนดูน้อยลง การลงทุนก็ยังถือว่าคุ้มค่า เพราะการช่วยเหลือให้คนได้รู้แนวทางที่ถูกต้องและรอดพ้นนั้น ใช้เงินมากเท่าไหร่ก็คุ้ม (แต่ในความเป็นจริง มีแต่คนจะดูมากขึ้น ไม่ใช่น้อยลง อินชาอัลลอฮฺ)

นอกจากนั้นมีการโจมตีมั่วๆขาดความรอบครอบด้านข้อมูลว่ายาตีมทีวีสอนตามแนววะฮาบีย์ ส่วน TMTV และไวท์ ชาแนล เคร่งซุนนะฮฺไม่ให้ผู้หญิงออกทีวี ส่วนทีวีมุสลิม เคยเดินตามแนวนี้ แล้วอยู่ๆก็มาเปลี่ยนจุดยืน ซึ่งทั้งหมดเป็นข้อมูลที่มั่วทั้งสิ้น
จริงๆแล้วแนวซุนนะฮฺ กับแนวที่กลุ่มอื่นตั้งชื่อให้ว่าวะฮาบีย์นั้นก็คืออันเดียวกัน (คือแนวทางท่านนบีและซอฮาบะฮฺ) ส่วนทีวีมุสลิมก็ไม่ได้เคยเปลี่ยนจุดยืนแต่อย่างใด
ทั้ง 4 ช่องยึดแนวทางเดียวกัน อากีดะฮฺเดียวกัน แต่รายละเอียดทัศนะย่อยในศาสนาอาจจะไม่ตรงกันเท่านั้นเอง แม้แต่อาจารย์ในช่องเดียวกันก็มีทัศนะไม่ตรงกันได้ เป็นเรื่องปกติ

นอกจากนั้นก็ฟิตนะฮฺตั้งข้อครหาต่อโต ซิลลี่ฟูลและไวท์ แชนแนลอย่างลอยๆ โดยที่ตนเองยังไม่รู้มีการว่าจะตีเรื่องอะไร จึงกล่าวว่า "แต่ละช่องก็พยายามสร้างจุดขายให้ตัวเอง อย่างไวท์ แชนแนลก็ดึงโต ซิลลี่ฟูลมาร่วมงาน แต่ทำไปทำมากลายเป็นติดบ่วงบางอย่าง"
กล่าวคือพอไม่รู้จะกล่าวหาอะไรก็ตั้งข้อครหาลอยๆขึ้นมา แล้วก็ไม่เฉลยว่าบ่วงที่ว่าคืออะไร?
หากจะให้ชี้แจง ก็ต้องขอตอบว่า บ่วงที่ว่านั้นก็คือ คือคุณโต ฟิรเดาซ์ หันมายึดถือซุนนะฮฺอย่างเข้มข้น จึงต้องการผันตัวจากคนบันเทิงมาทำงานดะอฺวะฮฺ เผยแพร่ความคิดเกี่ยวกับอิสลาม แม้แต่งานบันเทิงที่หะลาลอย่างนาชีด คุณโตยังไม่ทำ เพราะต้องการมุ่งสู่การเป็นนักดาอีย์ แล้วก็ทำงานบริหารเต็มตัวกับทางไวท์ แชนแนลเรียบร้อยแล้ว

จบการชี้แจง
........................
Nobb Soponvasu

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น