อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

อย่าขอความช่วยเหลือจากกาเฟรฺ


               ศาสนาไม่อนุญาตให้ขอความช่วยเหลือจากผู้ปฏิเสธศรัทธา ไม่ว่าเรื่องใดๆ เกี่ยวกับศาสนา โดยเฉพาะเรื่องออกศึกสงคราม ถึงแม้พวกกาเฟรฺจะสมัครใจเข้าร่วมหรือสนับสนุนอาวุธยุทธโธปกรณ์ก็ตาม พวกเขาไม่ได้กระทำไปเพื่อความศรัทธามั่นต่ออิสลาม แต่มันแอบแฝงด้วยผลประโยชน์มากมายสำหรับพวกเขา สุดท้ายผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือพี่น้องผู้ร่วมศรัทธา กี่ครั้งแล้วที่พวกเขาได้เข้ามายิบยื่นมือช่วยเหลือ แต่สุดท้ายจบลงด้วยความสูญเสีย แต่ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์กลับเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา

ครั้งหนึ่งในยุคท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มีชายผู้ปฏิเสธศรัทธาคนหนึ่งมาขอเข้าร่วมรบกับฝ่ายมุสลิม แต่ท่านนบีก็ปฏิเสธ โดยท่านนบีกล่าวว่า "ฉันไม่ประสงค์รับความช่วยเหลือจากมุชริกเลยแม้แต่น้อย" จนกว่าเขาจะศรัทธามั่นต่ออัลลอฮฺและรสูลของพระองค์

รายงานจากท่านหยิงอาอิชะฮฺ ร่อฎียัลลอฮุอันฮา ผู้เป็นภรรยาของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เล่าว่า
"เมื่อคราวที่ท่านรสูล เดินทางไปบะดัร เมื่อไปถึงหัรระตุลวะบะเราะฮฺ ท่านได้พบกับชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนมีพลังและมีความกล้าหาญมาก บระดาเศาะหาบะฮฺต่างดีใจที่เขามาหาท่านรสูล เขากล่าวกับท่านรสูลว่า : ฉันตั้งใจตามท่านมา เพื่อร่วมทำศึกโดยอยู่ฝ่ายท่าน ท่านรสูลถามว่า : ท่านศรัทธามั่นต่อพระองค์อัลลอฮฺและรสูลของพระองค์หรือยัง ชายคนนั้นตอบว่า : ยัง ท่านนบีจึงกล่าวว่า : ท่านจงกลับไปเถิด ฉันไม่ประสงค์รับความช่วยเหลือจากมุชริกเลยแม้แต่น้อย
ท่านหญิงอาอิชะฮฺเล่าต่อไปว่า : ชายคนนั้นก็เดินออกไป แต่เมื่อพวกเราเดินทางไปถึงต้นไม้ต้นหนึ่ง ชายคนเดิมนั้นได้มาหาท่านรสูลอีก แล้วเขาพูดเช่นเดิม และท่านรสูลก็ได้ถามเขาเช่นเดิม ที่สุดท่านรสูลก็กล่าวว่า ; จงกลับไปเถิด ฉันไม่ประสงค์รับความช่วยเหลือจากมุชริกเลยแม้แต่น้อย ชายคนนั้นก็ออกไป 
เมื่อพวกเราเดินทางไปถึงบัยดาอฺ ชายคนนั้นก้มาพบอีก ท่านรสูลได้ถามเขาอีกเช่นเดิมว่า ; ท่านศรัทธาต่ออัลลอฮฺและรสูลของพระองค์หรือยัง ชายคนนั้นตอบว่า : ใช่ ฉันศรัทธามั่นแล้ว ท่านรสูลจึงกล่าวว่า ; จงมาและเดินทางกับเรา" (บันทึกหะดิษโดยอิมามมุสลิม หะดิษเลขที่ 1786)
والله أعلم بالصواب

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น