การเรียนรู้เรื่องราวศาสนานั้น นอกจากเรียนรู้ในเรื่องที่เกี่ยวกับคุณงามความดี ยังต้องทำความเข้าใจและเรียนรู้ในเรื่องราวที่เป็นความชั่วร้าย หรืออันตราย ซึ่งเป็นการเรียนที่ไม่ใช่เพื่อเอาไปทำความชั่วต่อ หากแต่เรียนเพื่อให้เรารู้ว่าความชั่วแต่ละอย่างที่ซับซ้อนิจารณาผิวเผินไม่ได้ ว่าแท้จริงมันมีลักษณะอย่าง จะรับมือกับมันอย่างไร เป็นการเรียนรู้เพื่อสร้างภูิมคุ้มกันแก่ตนเอง ดั่งเช่นการทำความเข้าใจและเรียนรู้ของบรรดาเศาะหาบะฮฺของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมก็คือ
จากท่านฮุซัยฟะฮฺ บินยะมาน ร่อฎียัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า
"ประชาชนมักชอบถามท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ในเรื่องที่เกี่ยวกับคุณงามความดี แต่ฉันมักถามท่านรสูลในเรื่องที่เกี่ยวกับความชั่วร้าย ทั้งนี้เพราะกลัวว่า (หากไม่รู้จักว่าอะไรคือความชั่ว) ความชั่วก็จะประสบแก่ฉัน..." (บันทึกหะดิษโดยอิมามบุคอรีย์ เลขที่ 70841)
ซึ่งเปลี่ยบการเรียนรู้ทำความเข้าใจในเรื่องที่เป็นความชั่วร้ายควบคู่กับการเรียนรู้ทำความใจในเรื่องเกี่ยวกับคุณงามควมดีนั้น อุปมาได้กับการเรียนว่าอะไร คือ สุนนะฮฺ(สิ่งดี) ก็ต้องเรียนรู้ด้วยว่าอะไรคือ บิดอะฮฺ (สิ่งชั่ว)
การเรียนรู้แค่สิ่งดีๆในศาสนา แต่ไม่ปริปากสอนให้ประชาชาชนรู้ทันความชั่วบ้าง เพราะคิดอย่างเห็นแก่ตัวว่าถ้าสอนให้รู้ทันความชั่วสังคมจะแตกแยก หรือไม่ผลประโยชน์ของตนต่้องสูญเสียไป นี่ไม่ใช้แบบอย่างของท่านรสูล และเหล่าบรรดาเศาะหาบะฮฺ รวมถึงแบบอย่างชาวสลัฟทั้งมวล
والله أعلم بالصواب
"""""""""""""""""""
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น