บิดอะฮฺคือสิ่งที่ชั่วร้ายยิ่งกว่าการทำบาป ฉะนั้นพวกมุบตะดิอ์ หรือพวกบิดอะฮฺหัวโจก คือผู้ที่ต้องประสบกับการลงโทษอันหนักหน่วง เพราะบิดอะฮฺเป็นสิ่งที่ชัยฏอนชอบมากกว่าการทำบาปของมนุษย์
รายงานจากอนัส บินมาลิก ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าว่า
"แท้จริงพระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา ไม่ทรงยอมรับการกลับตัวของผู้ทำบิดอะฮฺทุกคนจนกว่าเขาจะยุติการทำบิดอะฮฺของเขาเสียก่อน" (หะดิษเศาะเฮียะฮฺ , มุอฺญัมอัลกะบีรของท่านอัฏเฏาะบะรอนีย์ : อิมามอัลบานีย์รับรองว่าเป็นหะดิษเศะเฮียะฮฺ)
ท่านอิมามซุฟยาน อัษเษรีย์ รอหิมาฮุลลอฮฺ นักหะดิษยุคสลัฟ กล่าวว่า
"บิดอะฮฺเป็นที่รักใคร่ของอิบลีส มากกว่าการทำบาป เพราะการทำบาปจะถูกอภัยโทษหาผู้ทำสำนึกผิด แต่การทำบิดอะฮฺไม่ถูกอภัยโทษให้ หมายความว่า โดยพื้นฐานแล้วคนที่ทำบิดอะฮฺ มักคิดว่าสิ่งที่ตนเองทำ คือเรื่องดีและถุกต้อง แตกต่างจากคนทำบาปที่รู้ตัวดีว่าตนทำผิดเพราะอารมณ์ใฝ่ต่ำ โอกาสที่เขาจะสำนึกผิดจึงเกิดขึ้นได้ ในขณะที่คนที่ทำบิดอะฮฺมักไม่ค่อยสำนึกผิด หรือกลับตัวเพราะเขาไม่เคยคิดว่าบิดอะฮฺที่เขาทำคือความผิดบาป ชาวสลัฟจึงสั่งตักเตือนมิให้ทำการยุ่งเกี่ยวหรือนั่งคุยกับพวกบิดอะฮฺ เพราะจะทำให้ผู้ศรัทธาเกิดความสับสนเนื่องจากการล้างสมองของพวกเขา" ( อัลอัจวิบะฮฺอัลมุฟีดะฮฺอัซอิละติลมะนาฮิจอัลญะดีดะฮฺ หน้า 26-27)
والله أعلم بالصواب
.......................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น