อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556

มนุษย์เจ็ดจำพวกที่อัลลอฮฺให้ร่มเงาของพระองค์



ท่านอบู ฮุร็อยเราะฮฺ -เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮฺ- ได้รายงานว่าท่านนบี -ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮฺ วะสัลลัม- ได้กล่าวว่า

:«سَبْعَةٌ يُظِلُّهُمُ اللَّهُ تَعَالَى فِى ظِلِّهِ يَوْمَ لاَ ظِلَّ إِلاَّ ظِلُّهُ: إِمَامٌ عَدْلٌ ، وَشَابٌّ نَشَأَ فِى عِبَادَةِ اللَّهِ ، وَرَجُلٌ قَلْبُهُ مُعَلَّقٌ فِى الْمَسَاجِدِ ، وَرَجُلاَنِ تَحَابَّا فِى اللَّهِ اجْتَمَعَا عَلَيْهِ وَتَفَرَّقَا عَلَيْهِ ، وَرَجُلٌ دَعَتْهُ امْرَأَةٌ ذَاتُ مَنْصِبٍ وَجَمَالٍ فَقَالَ إِنِّى أَخَافُ اللَّهَ ، وَرَجُلٌ تَصَدَّقَ بِصَدَقَةٍ فَأَخْفَاهَا حَتَّى لاَ تَعْلَمَ شِمَالُهُ مَا تُنْفِقُ يَمِينُهُ ، وَرَجُلٌ ذَكَرَ اللَّهَ خَالِيًا فَفَاضَتْ عَيْنَاهُ» [البخاري برقم 1423، ومسلم برقم 1031]

ความว่า : “มีคนเจ็ดจำพวกที่พระองค์อัลลอฮฺผู้สูงส่งจะทรงกำบังพวกเขาไว้ใต้ร่มเงาของพระองค์ ณ วันที่ไม่มีร่มเงาใดๆ ยกเว้นแต่เพียงร่มเงาของพระองค์เท่านั้น คนเหล่านั้นคือ ผู้นำผู้ทรงธรรม ชายหนุ่มที่เติบโตด้วยการทำอิบาดะฮฺต่อพระองค์อัลลอฮฺ คนที่มีหัวใจเชื่อมโยงผูกมัดกับมัสยิด สองคนที่รักกันเพื่อพระองค์อัลลอฮฺ พวกเขาติดต่อและพลัดพรากกันเพื่อพระองค์ คนที่มีสาวสวยและสูงศักดิ์มาชวนให้มีเพศสัมพันธ์แล้วเขากลับตอบเธอว่า “ฉันกลัวอัลลอฮฺ” คนที่บริจาคทานอย่างหนึ่งแล้วปิดไว้เป็นความลับถึงขั้นที่มือซ้ายไม่ทราบสิ่งที่มือขวาบริจาค และคนที่ระลึกถึงพระองค์อัลลอฮฺอย่างเงียบๆ แล้วดวงตาของเขาก็เจิ่งนองด้วยน้ำตา” (เศาะฮีหฺ อัล-บุคอรียฺ เล่ม 1 หน้า 440 หมายเลข 1433, เศาะฮีหฺ มุสลิม เล่ม 2 หน้า 715 หมายเลข 1031)

http://arfeebpattaya.blogspot.com/2012/06/blog-post_4676.html

...................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น