อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2556

การกลืนน้ำลายขณะถือศิลอด


ได้เห็นมุสลิมบางคน หรือแม้แต่ผู้เขียนเองเมื่อตอนเด็กๆ ไม่กล้ากลืนน้ำลายขณะที่ถือศิลอด ต้องถ่มน้ำลายออกมาอยู่ตลอดเวลา เพราะกลัวจะเสียศิลอด จำต้องหากระป๋อง หรือภาชนะติดตัวไปด้วย เพื่อใช้เป็นภาชนะรองรับน้ำลาย บางคนก็ถ่มไปทั่ว จนเป็นที่น่ารังเกียจของคนต่างศาสนิก ขณะเรียนหนังสือในห้องเรียน ก็ต้องออกมาถ่มน้ำลายตรงบริเวณหน้าต่างอยู่บ่อยครั้ง จนไม่มีสมาธิในการเรียน ขณะละหมาดก็ต้องอมน้ำลาย ใจพะวงอยู่กับน้ำลาย กลัวจะกลืนลงไป จนขาดสมาธิในการประกอบการละหมาด กว่าจะถึงเวลาละศิลอดก็ต้องกระหายน้ำ เสียงแหบ และอ่อนเพลียไปมาก อันเนื่องจากต้องเสียน้ำในร่างกายเป็นจำนวนมากจากการที่ได้มีการถ่มน้ำลายออกไปทั้งวัน

อันแท้จริงน้ำลายของผู้ถือศิลอดนั้น สามารถกลืนได้ ไม่ทำให้การศิลอดต้องเสียไป ในทัศนะของบรรดาอุละมาอฺส่วนมาก เพราะศาสนาถือว่าการกลืนน้ำลายเป็นสิ่งที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ เหมือนอย่างการสูดเอาฝุ่นตามถนนหนทาง การดมกลิ่นหอม หรือสูดกลิ่นที่หอมเข้าไปนั้นเอง ทั้งเรื่องการกลืนน้ำลาย ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดเอาไว้ หากการกลืนน้ำน้ำลายเป็นสิ่งทำให้เสียศิลอด นบีก็จะต้องระบุและอธิบายไว้ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติอิบาดะฮฺ

พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

 وَمَا كَانَ رَبُّكَ نَسِيًّا ( 64 )

"และพระเจ้าของท่านนั้นมิทรงหลงลืมสิ่งใดเลย" (อัลกุรอาน สูเราะฮฺมัรยัม 19:64)

ท่านอิมามอิบนุตัยมียะฮฺ ร่อหิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า
"การดมกลิ่นหอม หรือสูดกลิ่นที่หอมเข้าไปก็ไม่เป็นไรสำหรับผู้ถือศิลอด"

ท่านอิมามอันนะวาวีย์กล่าวว่า

وَلَوْ جَمَعَ رِيْقَهُ فَابْتَلَعَهُ لَمْ يُفْطِرْ فِي الأَصَحِّ

“ถ้าหากเขาได้รวมน้ำลาย  แล้วกลืนมันเข้าไป  ย่อมไม่ทำให้เสียศีลอด  ตามทัศนะที่ชัดเจนยิ่งกว่า” อันนะวาวีย์, มินฮาญุฎฎอลิบีน, หน้า 31.


ท่านอัลลามะฮ์ อัลค่อฏีบ อัชชัรบีนีย์  อธิบายว่า
 “การกลืนน้ำลาย  ไม่เสียทำให้เสียศีลอด  และหากแม้ว่าจะรวมน้ำลายไว้ในปากแล้วกลืนเข้าไป  ก็ไม่ทำให้เสียศีลอด เพราะป็นการยากลำบากที่จะระวังไม่ให้กลืนลงไป  แต่ถ้าหากว่าน้ำลายได้ออกมาจากปากหรือออกมาที่ริมฝีปากแล้ว  หลังจากนั้นเขาได้นำมันกลับเข้าไปด้วยลิ้นแล้วกลืนเข้าไป  ถือว่าทำให้เสียศีลอด” ดู อัลค่อฏีบ อัชชัรบีนีย์, มุฆนิลมั๊วะห์ตาจญ์ เล่ม 2 หน้า 168 – 169

والله أعلم بالصواب

************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น