มุฮัมมัดศิดดีก อัลมินซาวีย์ : เขียน
นาอีม วงศ์เสงี่ยม : แปล
(จากหนังสือ : 101 เรื่องเล่าจากชีวิต “อบูบักร อัศศิดดีก”)
………………………………………..
ในวันหนึ่งที่ร้อนจัด ไอแดดได้แผดเผาแผ่นดินมักกะฮ์ ประหนึ่งความร้อนที่ผู้คนได้รับจากเปลวไฟ ช่วงเวลาซุฮริที่เม็ดทรายระอุทำให้ใบหน้าไหม้เกรียม ทำให้ผิวหนังราวกับถูกเผาไหม้ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้รับไปหาอบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ซึ่งท่านไม่เคยไปบ้านใครในช่วงเวลาแบบนี้เลย จะไปก็แต่ตอนเช้าหรือไม่ก็ตอนเย็นเท่านั้น จนกระทั้งเมื่อวันที่อัลลอฮ์อนุญาตให้เราะซูลของพระองค์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม อพยพและเดินทางออกจากมักกะฮ์ต่อหน้าต่อตากลุ่มชนชาวกุเรชท่านนบีจึงใช้เวลาช่วงนี้ไปหาอบูบักร
เมื่อสายตาของอบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ได้พบกับบุคคลอันเป็นที่รักของท่าน ผู้ที่เป็นที่ชื่นตาชื่นใจของท่าน ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม อบูบักรจึงลุกขึ้นยืนเตรียมตัวต้อนรับท่านอย่างกระฉับกระเฉง พลางกล่าวอุทานออกมาอย่างแผ่วเบาด้วยความแปลกใจว่า : ท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยมาช่วงเวลานี้ นอกจากต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ ๆ
พอท่านนบีได้เข้าในบ้าน อบูบักรได้เลื่อนเตียงให้ท่าน ท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงนั่งลงขณะนั้นไม่มีใครอยู่กับอบูบักรเลยนอกจากท่านหญิงอาอิชะฮ์ และอัสมาอ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา เท่านั้น
ท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่ : เอาคนของท่านออกไปก่อน
อบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า : โอ้ท่านเราะซูล เธอทั้งสองก็คือลูกสาวของฉันเอง ไม่มีใครอีกแล้ว ฉันขอเอาพ่อแม่เป็นประกัน
ท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงกล่าวว่า : อัลลออ์ได้อนุญาตให้ฉันออกจากมักกะฮ์ พระองค์อนุญาตให้ฉันอพยพแล้ว
อบูบักรถึงกับนั่งคุกเข่าพร้อมกล่าวขณะที่น้ำตาไหลอาบแก้มท่านอย่างพรั่งพรู : ให้ฉันเป็นเพื่อนร่วมเดินทาง ให้ฉันเป็นเพื่อนร่วมเดินทางใช่ไหมท่านเราะซูล ?
ท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า : ใช่ ให้ท่านเป็นเพื่อนร่วมเดินทางด้วย โอ้ อบูบักรเอ๋ย!
ท่านหญิงอาอิชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา กล่าวว่า : ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ ฉันไม่เคยรู้สึกก่อนวันนั้นว่าจะไม่ใครร้องไห้ได้เพราะความดีใจ จนกระทั้งฉันเห็นคุณพ่อร้องไห้ในวันนั้น
อบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ จึงนำทรัพย์สินของท่านทั้งหมด (ประมาณ 5,000 ดิรฮัม) อพยพไปพร้อมกับท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
อบูกุฮาฟะฮ์ ชายชราอาวุโสผู้เป็นพ่อของอบูบักรที่สายตามองไม่เห็นได้กลับมาแล้วร้องตะโดนเสียงดังว่า : ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ ข้ารู้ว่าเขานำทรัพย์สินติดตัวไปด้วย
อัสมาอ์ บุตรสาวของอบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา จึงกล่าวว่า : ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะคุณปู่ คุณพ่อไดทิ้งความดีงามไว้ให้พวกเรามากมาย
แล้วเธอก็ได้นำเอาก้อนหินเล็ก ๆ วางตรงหน้าต่างบ้านซึ่งเป็นตำแหน่งที่อบูบักร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ เคยวางทรัพย์สินของท่านไว้ตรงนั้น แล้วเธอก็คลุมผ้าบนก้อนหินเหล่านั้นแล้วก็ใช้มือคลำ และกล่าวว่า : คุณปู่คะ ลองจับทรัพย์สินพวกนี้ดูซิคะ
แล้วอบูกุฮาฟะฮ์ก็ได้จับคลำบนผ้านั้นแล้วกล่าวออกมาอย่างดีใจว่า : อย่างนั้นก็ไม่เป็นไร หากเขาทิ้งสิ่งนี้ให้กับพวกเธอ เขาก็ถือว่าทำดีแล้ว นี่ก็น่าจะพอสำหรับพวกเธอ
อัสมาอ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา กล่าวว่า
“ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า คุณพ่อไม่ได้ทิ้งอะไรไว้ให้พวกเราเลย แต่ฉันต้องการให้คุณปู่หยุดต่อว่าท่านเท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น